เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2563 'สะพานมอญ' เสน่ห์สังขละบุรี
วันหยุดยาวไปไหนดี เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2563 "สะพานมอญ" หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เสน่ห์สังขละบุรี
อากาศเย็นยามเช้ามาเยือนต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 เริ่มฤดูการท่องเที่ยวหน้าหนาวของไทย ครุ่นคิดวางแผนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะออกไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและวิถีชีวิต ที่ไหนดี
คนใกล้ตัว..อยากไป "สะพานมอญ" สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ก็ตามนั้น ตัดสินใจไปตามอารมณ์และความรู้สึก มากกว่าคิดคำนวณเรื่องระยะทางและค่าใช้จ่าย
การเดินทางจากบางนา กรุงเทพฯ ไปอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มล้อหมุนมุ่งหน้าไปตั้งแต่เช้า 6 โมงวันเสาร์ เพราะกลัวรถติด ซึ่งการเดินทางไปราบรื่น การจราจรไม่คับคั่ง ทำให้การเดินทางไม่เสียเวลามากนัก
เคยเที่ยวกาญจนบุรีมาแล้ว เมื่อหลายปีก่อน พักผ่อนหย่อนใจใกล้แม่น้ำแคว แต่หนนี้ต้องเดินทางไกลเส้นทางหมายเลข 323 จากตัวเมืองขึ้นไปผ่านอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ ถนนลาดยางสุดสาย สภาพดียังไม่พัง แต่ก็มีซ่อมแซมบางจุด
ช่วงขึ้นเขาสู่สังขละบุรี เปรียบเทียบเส้นทางขึ้นไปอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เส้นทางมีความชันให้ได้ลุ้นเข้าโค้งอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยรถราไม่เยอะ จึงทำให้ไม่กดกัน.. คนใกล้ตัวซึ่งเป็นคนขับรถรับมือได้สบาย ซึ่งการเดินทางราวเกือบ 7 ชั่วโมง ถึงจุดหมายตามที่วางโปรแกรมไว้
การไป "สะพานมอญ" สะพานอุตตมานุสรณ์ อำเภอสังขละบุรี ครั้งแรก คือไม่ได้คาดหวังว่า จะได้เจอบรรยากาศหมอกสวย อากาศหนาว หรือสภาพชุมชนพื้นถิ่นดั่งเดิมอะไรเทือกนั้น
แต่สิ่งที่เห็นคือ ความเป็นจริงของสังขละบุรี ที่มีจุดขายอย่าง "สะพานมอญ" สะพานอุตตมานุสรณ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม และซ่อมแซมครั้งใหญ่เมื่อปี 2557 ซึ่งป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร
สภาพหอพัก รีสอร์ท และโรงแรม มีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวดูเงียบๆ แม้จะเป็นวันหยุด ห้องพักยังมีว่าง ราคายังพอจับต้องได้
สัมผัสวิถีชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญ และชาวเมียนมา ยังมีเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านให้ค้นหา แม้ว่าความเจริญจากกระแสการท่องเที่ยวจะพัดพาเอาความดั่งเดิมให้เปลี่ยนแปรไป แต่รากของวัฒนธรรมและพุทธศาสนายังคงช่วยรักษาวิถีชุมชนในหุบเขาภาคตะวันตกของไทย