เปิดตัวจุดชมวิว 360 องศา บน 'เกาะห้อง'
เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คใหม่ สำหรับจุดชมวิว 360 องศาบน "เกาะห้อง" ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวที่เกาะห้องของ “อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี”
นอกจากการเล่นน้ำบนชายหาดสวยๆ การถ่ายภาพกับเกาะที่มีทัศนียภาพที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดๆ ในประเทศไทยแล้ว ก็มีจุดชมวิวนี่แหละที่จะเป็นจุดสนใจอีกหนึ่งจุดที่จะทำให้อยู่บน เกาะห้อง ได้นานขึ้น มาลองใช้บริการดูหน่อยปะไร
“อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี” อันที่จริงไม่ได้เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลมากมายเหมือนกับอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่อยู่ใกล้กัน เพราะที่ตั้งของที่ทำการไปอยู่ที่อำเภออ่าวลึก ซึ่งติดทะเลแต่เป็นทะเลแบบป่าชายเลนมากกว่า มีลำคลองที่เชื่อมต่อออกทะเลหลายแห่ง กิจกรรมท่องเที่ยวของที่นี่จึงเป็นการพายเรือแคนูหรือนั่งเรือหัวโทง ไปตามคลอง ป่าชายเลน ที่ขึ้นชื่อก็เช่นการไปดูถ้ำผีหัวโต พายเรือเข้าถ้ำลอด ไปเขากาโรสอะไรทำนองนี้ ซึ่งถ้าเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวเรายังไม่มีสถานการณ์โควิด-19 มารบกวน แต่ละเช้าจะมีคนมาลงเรือไปเที่ยวตามที่ผมว่ามานี่กันคึกคัก หนาตา ทั้งฝรั่งจีนไทย ก็อย่างที่ผมบอกว่าป่าชายเลนเขามีมากและสมบูรณ์
แล้วก็มามี “กลุ่มหมู่เกาะห้อง” ที่เดียว ที่เป็นเกาะในความรับผิดชอบของอุทยานฯธารโบกขรณี ซึ่งชื่อก็บอกแล้วว่าหมู่เกาะ ดังนั้นมันเลยมีเกาะเล็กเกาะน้อยหลายเกาะรวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน ซึ่งผมเคยเขียนถึง “เกาะห้อง” ไปหลายครั้งแล้ว คราวนี้จะไม่ฉายซ้ำอีก เกาะห้องนี้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของคนที่มาทั้งมาจากทางกระบี่ก็ได้ หรือมาจากทางเกาะยาวน้อยก็ได้ นั่งเรือมาเที่ยวได้เหมือนกัน ความสวยงามของเกาะห้องนั้น ก็สวยขนาดที่ว่ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เอามาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทดแทนอ่าวมาหยานั่นเลยทีเดียว
ดังนั้นอย่าถามว่าสวยไหม และที่เป็นที่กล่าวขานถึง จนผมเคยเอามาเขียนเล่าไปแล้วคือ การที่เขาให้เป็นเกาะหิ้วปิ่นโต คือเขาขอความร่วมมือบริษัททัวร์ที่จะต้องเลี้ยงอาหารกลางวันนักท่องเที่ยวเขาบนเกาะนั้น ให้นำอาหารใส่ปิ่นโตไป ไม่ใช่ใส่กล่องโฟมหรือถุงพลาสติก เพราะถึงแม้จะขนขยะกลับบนฝั่ง แต่ก็เป็นการเพิ่มขยะอยู่ดี เขาเลยขอความร่วมมือให้ใส่ภาชนะใช้-ล้าง มาใช้บนเกาะ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี และนักท่องเที่ยวก็ชอบกันมาก แม้กระทั่งเรือที่จะเข้ามารับส่งนักท่องเที่ยว ก็ไม่ต้องทอดสมอหน้าเกาะ มีทุ่นลอยน้ำออกไปจากหาด เรือมาถึงจอดเทียบทุ่น เอาคนลง แล้วเรือไปจอดที่ที่เขาจัดไว้ให้ นักท่องเที่ยวก็ผ่านจุดคัดกรอง เสียค่าธรรมเนียม แล้วเดินตามทุ่นขึ้นชายหาด ไม่มีเรือมาจอดเกะกะที่หน้าหาด นักท่องเที่ยวเล่นน้ำก็ไม่ต้องระแวงว่าเรือจะแล่นมาชน คนที่ถ่ายรูปก็ไม่ต้องมาเกะกะกับเรือทั้งหลายที่ทอดสมอกันหน้าหาด ทุกอย่างดีงาม
นี่จึงคือความเป็นเกาะห้อง ที่ต้องยกย่องในการจัดการบริหารพื้นที่ ซึ่ง “จุดชมวิว 360 องศา” นี้จะมาทำให้บน “เกาะห้อง” มีอะไรมากยิ่งขึ้นไปอีก
“จุดชมวิว 360 องศา” นี้ สร้างไว้บนยอดเขาหินปูนฝั่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ คือพอนักท่องเที่ยวเดินตามทุ่นขึ้นไปบนเกาะ จุดชมวิวนี้อยู่ทางขวามือ เขาทำเป็นบันไดเหล็กชุบสารอะไรสักอย่าง อยู่ได้ราวสิบปีถึงจะเป็นสนิม เริ่มจากชายหาดด้านทิศเหนือ ที่จะมีป้ายบอกกฎกติกาการใช้ทางขึ้น มีซุ้มทางเข้าแล้วก็เดินขึ้นไป บันไดทางเดินกว้างราว 1.20 เมตร กี่ขั้นไม่รู้ แต่เป็นระยะทางยาว 239 เมตร ทางเดินจะเลาะไปตามภูเขาหินปูนขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดชมวิวด้านบน ซึ่งเป็นลานกว้าง จุดชมวิวนี้สูง 150 เมตรจากพื้นดิน และเพราะมันชันนี่แหละจึงมีจุดให้แวะพักระหว่างทาง 6 จุด จนถึงลานบนสุด ขึ้นไปแล้วก็จะมองเห็นชายหาดของ “เกาะห้อง” เห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลกระบี่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ หมู่เกาะในเขต “อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี” เช่น เกาะหลายาดิง ยาลาฮูตัง เกาะผักเบี้ย เกาะกายา เกาะปากกา เกาะสะยาตาลิง ฯลฯ ที่ว่ามานี่ มีเกาะเหลายาดิงกับเกาะผักเบี้ยที่เราคงเคยไปเที่ยวกันเพราะมีชายหาด นอกนั้นเป็นภูเขาหินปูนโด่เด่กลางทะเล ไม่มีชายหาดไม่มีที่ราบ แต่พอมองจากบนจุดชมวิว ก็สวยดี
อย่างที่บอกว่ามันชัน คนที่จะขึ้นก็ต้องดูสังขารตัวเอง จริงๆ คนแก่ คนไม่ค่อยแข็งแรง ผมว่าดูแค่ชายหาดพอแล้วอย่าขึ้นไปให้ลูกหลานเป็นห่วงเลย เขาจำกัดคนขึ้น 50 คนต่อช่วงเวลา แต่ผมว่าคนก็คงทยอยขึ้นทยอยลงนะแหละ จริงๆ แล้วบนเกาะห้องนั้น “อุทยานธารโบกขรณี” เขาทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนบกไว้แต่ผมไม่เคยไปเดินดู เห็นแต่ป้าย เลยไม่รู้ว่ามันไปถึงไหน
นับว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะหลายอย่างที่จะไปเที่ยวที่นี่ ทั้งสถานการณ์โควิดในบ้านเราที่ไม่ค่อยกังวลเท่ากับต่างประเทศที่ยังคงมีการล๊อคดาวน์รอบสอง รอบสาม แต่เราล๊อคดาวน์รอบเดียวแล้วเอาอยู่ ตอนนี้จึงออกท่องเที่ยวกันในประเทศได้แล้ว ข้อดีข้อที่สองเพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติมายังไม่ได้ ถึงมาได้ก็ไม่มาก ชายหาดจึงสวยงาม เป็นธรรมชาติอย่างมาก ไม่มีความพลุกพล่าน ข้อดีที่สามคือช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน หลังจากคร่ำเคร่งมากับการเร่งเรียนเพื่อย้อนหลังการเปิดเทอมช้าเพราะโควิดมาแล้ว พอมีเวลาแม้ไม่กี่วันก่อนจะเปิดเรียนใหม่ (ปีนี้ปิดเทอมน้อยเพราะต้องมาเรียนชดเชยที่ปิดช่วงล๊อคดาวน์) เลยอยากให้รีบพาบุตรหลานไปเที่ยวกัน และข้อดีข้อสุดท้าย เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลด้านอันดามันพอดี
ตอนนี้มีโครงการเที่ยวไทย รัฐช่วยจ่าย 40 เปอร์เซ็นต์ ลดค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรมร้านอาหารร้านขายของที่ระลึก มีโครงการคนละครึ่งที่เราจ่ายครึ่งหนึ่ง รัฐจ่ายครึ่งหนึ่ง ยิ่งมามีที่เที่ยวเพิ่มบนเกาะแบบนี้
...อย่าช้าเลยครับ ออกเที่ยวกันดีกว่า...