รู้จักโรค S.A.D. ภาวะ 'ซึมเศร้า' เมื่อ 'หน้าหนาว' มาเยือน
ใครเคยเป็นบ้าง? พอถึง "หน้าหนาว" ทีไร จิตใจเริ่มหดหู่ เหงา "ซึมเศร้า" และรู้สึกว่าชีวิตไม่แฮปปี้เหมือนเคย คุณอาจกำลังเจอกับภาวะ Seasonal Affective Disorder โดยเฉพาะคนที่อยู่ไกลบ้านในต่างแดน
เคยได้ยินคำว่า Winter Depression กันหรือเปล่า? ว่ากันว่าอาการหดหู่แบบนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับคนที่ไม่ชอบ "หน้าหนาว" เกิดจากภาวะ S.A.D. (Seasonal Affective Disorder) หรือ ภาวะซึมเศร้าจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
หากคุณเป็นคนที่ชอบอากาศเย็นๆ ของ "ฤดูหนาว" รับรองว่าไม่มีความเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้านี้แน่นอน แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ไกลบ้าน ไปทำงานหรือเรียนต่างประเทศ (ในแถบเมืองหนาว) นานหลายปี อาจจะเกิดภาวะนี้ขึ้นมาก็ได้ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะพาไปรู้จักภาวะ S.A.D. กันให้มากขึ้น
- จุดสังเกตของผู้ที่มีภาวะ S.A.D.
มักเกิดขึ้นกับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตหนาว โดยผู้ป่วยภาวะนี้จะมีอาการของโรคซึมเศร้าเป็นระยะ จะเกิดขึ้นและหายไปในช่วงเวลาเดียวกันของทุกปี คือ จะเริ่มมีอาการในฤดูหนาวและค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อถึงฤดูร้อน
- อาการอื่นๆ ของภาวะ "ซึมเศร้า" เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลง
ผู้ป่วย S.A.D. มักแสดงอาการผิดปกติเช่นเดียวกับผู้ป่วย "โรคซึมเศร้า" ทั่วไป แต่จะมีอาการเป็นแค่บางช่วง โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว และค่อยๆ หายไปในฤดูร้อน ทว่าผู้ป่วยบางรายก็อาจเริ่มแสดงอาการป่วยในฤดูร้อนและมีอาการดีขึ้นในฤดูหนาวได้เช่นกัน ได้แก่
- รู้สึกหมดหวัง ไร้ค่า มีอารมณ์เศร้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- หมดความสนใจในสิ่งที่ตนเองเคยสนใจ
- อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง หมดความกระตือรือร้นจะทำสิ่งต่างๆ
- อยากนอนตลอดเวลา หรือมีปัญหาการนอน เช่น นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
- มีพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป เช่น กินอาหารมากเกินไป หรืออยากกินแป้งและน้ำตาลมากกว่าปกติ
- ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดได้นาน
- เก็บตัว ไม่ต้องการออกไปพบปะผู้อื่น
- สาเหตุของ "ภาวะซึม" เศร้าเมื่อถึงหน้าหนาว
ปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ แต่คาดว่าช่วงเวลากลางวันหรือระยะเวลาที่มีแสงอาทิตย์ในแต่ละวันอาจส่งผลกระทบต่อ "นาฬิกาชีวิต" ซึ่งเป็นวงจรที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น การตื่นนอน การนอนหลับ และการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด และเมื่อนาฬิกาชีวิตผิดปกติ ก็จะส่งผลให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายผิดปกติตามไปด้วย ได้แก่
- ระดับเซโรโทนินลดลง : เซโรโทนินเป็นสารสื่อประสาทในสมองที่มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอารมณ์ ซึ่งการได้รับแสงแดดไม่เพียงพออาจส่งผลให้สารชนิดนี้มีปริมาณลดลงและอาจก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าตามมาได้
- ระดับเมลาโทนินสูงขึ้น : เมลาโทนินมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการนอนหลับ หากฮอร์โมนชนิดนี้มีระดับสูงขึ้น อาจส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนและเซื่องซึมจนเกิดเป็นภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน
- ใครมีความเสี่ยงต่อ ภาวะ S.A.D. บ้าง?
แม้ภาวะ SAD พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่บุคคลในกลุ่มต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ได้แก่ กลุ่มเพศหญิง, กลุ่มอายุวัยผู้ใหญ่ตอนต้น, ผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์, ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติป่วยซึมเศร้า, ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ห่างจากเส้นศูนย์สูตร
นอกจากนี้ หากพบว่าตนเองมีภาวะดังกล่าวแล้วปล่อยไว้นาน ไม่รีบรักษา อาจนำไปสู่อาการข้างเคียงอื่นๆ ได้ เช่น
- โรคอ้วน อาจนำไปสู่โรคเบาหวาน/โรคหัวใจได้ เนื่องจากผู้ป่วยมีพฤติกรรมการกินมากผิดปกติ
- โรควิตกกังวล โรคแพนิค โรคกลัวการเข้าสังคม และมีปัญหาด้านความสัมพันธ์
- อาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- การทำร้ายตัวเอง คิดฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย
- วิธีป้องกันภาวะ "ซึมเศร้า" เมื่อหน้าหนาวมาเยือน
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่ช่วยป้องกันภาวะ S.A.D. ได้ แต่สำหรับผู้ป่วยหรือผู้ที่เคยมีภาวะนี้มาก่อน มีงานวิจัยพบว่าการรับประทานยารักษาโรคซึมเศร้า หรือการเข้ารับการบำบัดทางจิต ก่อนจะถึงช่วงเวลาที่อาการป่วยมักเกิดขึ้น อาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะ SAD ในผู้ป่วยบางรายได้ ซึ่งยังคงต้องมีการศึกษาในด้านนี้เพิ่มเติมต่อไป
- ภาวะ S.A.D. รักษาได้หรือไม่? รักษายังไง?
- การรับประทานยา : แพทย์มักจ่ายยาต้านซึมเศร้าอย่าง "ฟลูออกซิทีน" หรือ "บูโพรพิออน" เพื่อบรรเทาอาการป่วย หรือรับประทานยาตั้งแต่ก่อนถึงช่วงฤดูที่ภาวะซึมเศร้าจะกำเริบเพื่อป้องกันอาการซึมเศร้า
- การทำจิตบำบัด : แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยบางรายเข้ารับการบำบัดพฤติกรรมและความคิด ซึ่งเป็นการปรับวิธีคิดและพฤติกรรมเพื่อรับมือกับภาวะซึมเศร้าอย่างเหมาะสม
- การบำบัดด้วยแสง : แพทย์อาจพิจารณาให้ผู้ป่วยเข้ารับการฉายแสง ที่จำลองมาจากแสงอาทิตย์วันละประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากตื่นนอน เพื่อปรับระดับสารเคมีในสมองให้สมดุล แต่วิธีนี้ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีข้อเสียของการฉายแสงก่อนตัดสินใจ
- ปรับพฤติกรรมใช้ชีวิต : ปรับพฤติกรรมชีวิตให้ผ่อนคลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินอาหารที่ดี อาหารบางอย่างช่วยต้านซึมเศร้าได้ ออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ นั่งสมาธิ ฟังเพลง ทำอาหาร เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ เหล่านี้มีส่วนช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ดี
---------------------
อ้างอิง : pobpad.com/sad