แคมป์เด็ก ‘เกอเธ่’ รำลึก 16 ปี สึนามิที่เขาหลัก

ต่อมาโรงแรมนี้ได้สร้างขึ้นใหม่แทนที่โรงแรมเดิม จึงเรียกได้ว่านี่คือการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังพายุลูกใหญ่พัดผ่าน แต่ดูเหมือนว่าพอเริ่มจะทรงตัวอยู่ได้ไม่นานนัก ตอนนี้มีพายุลูกใหม่ที่ชื่อว่า โควิด 19 กระหน่ำซัดอีกครั้ง จนนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป โรงแรมต้องปิดบางตึกจากห้องพักมีทั้งหมด 255 ห้อง และเปิดเพียงบางส่วน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นส่วนใหญ่

 

แม้ผลกระทบจากโควิด 19 ไม่ได้เกิดกับแค่โรงแรมนี้แห่งเดียว แต่ด้วยเหตุผลอื่น ๆ อีก เช่น นี่คือโรงแรมของคนไทยในท้องถิ่นโดยตรง และโรงแรมนี้ยังดูมีความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม แม้ในช่วงที่นักท่องเที่ยวหาย โรงแรมไม่ได้ปิด แต่กลับให้พนักงานช่วยกันทำแปลงพืชผักสวนครัว ปลูกต้นไม้ เลี้ยงไก่ ทำบ่อปลา เพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารของพนักงาน จนเมื่อนานวันเข้าผลผลิตงอกงามดี จึงนำผลผลิตบางส่วนที่ได้คุณภาพดีมาปรุงอาหารให้แขกที่เข้าพัก  แน่นอน เราได้กินอาหารที่นี่อยู่หลายมื้อหลายวันได้เดินชมแปลงผัก ได้ไปสำรวจเล้าไก่ และได้พูดคุยกับทั้งคนดูแล คนทำสวน และพนักงาน สรุปได้ว่า...อาหารที่นี่อร่อย พนักงานน่ารัก และเหนืออื่นใด ร่องรอยของพิษเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้พวกเขายิ้มน้อยลง แต่ยังหาวิธีแก้ปัญหา และดูแลกันและกัน ดูแลสิ่งแวดล้อม ได้อย่างน่ารัก และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ PASCH เขาหลัก 2020 ค่ายเยอรมันกับเกอเธ่ เลือกมาพักและจัดค่ายขึ้นที่นี่ และถือเป็นโอกาสที่จะได้รำลึกถึง 16 ปี สึนามิ ร่วมกับชาวเขาหลัก

  ฟ้าสวยน้ำใสที่สิมิลัน

ค่ายภาษาและสิ่งแวดล้อม

สถาบันสอนภาษาเยอรมันเกอเธ่ ร่วมกับ โครงการ โรงเรียนความร่วมมือแห่งอนาคต หรือ PASCH จะคัดเลือกนักเรียนมัธยมปลายที่เรียนเอกภาษาเยอรมันจากทั่วประเทศประมาณสิบกว่าคน ให้ทุนเดินทางไปประเทศเยอรมนีราว 3 สัปดาห์  เพื่อสัมผัสวิถีชีวิต และเรียนรู้วัฒนธรรมและสถานที่สำคัญผ่านทางภาษา แต่ในปีนี้สถานการณ์โควิด 19 ทำให้ไม่อาจเดินทางไปไกล แต่จะว่าไปก็ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้สามารถมอบทุนได้มากขึ้นเป็น 40 ทุน ให้นักเรียนที่ได้รับเลือกมาเข้าค่ายที่เขาหลักนี้ร่วมกัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างและได้เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับภาษา ควบคู่ไปกับได้เรียนรู้ระบบนิเวศของท้องทะเล พร้อมกับซึมซับถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิธีดูแลทรัพยากรอย่างยั่งยืน 

 

  มาร์คุส ชติเชล ผู้ดูแลโครงการโรงเรียนความร่วมมือแห่งอนาคต และนักเรียนบางส่วนที่มาร่วมกิจกรรมในแคมป์

ตลอดระยะเวลา 8 วัน ทุกวันเด็ก ๆ จะเริ่มกิจกรรมกันหลังจากรับประทานอาหารเช้าในโรงแรม จานเด็ดของที่นี่ ได้แก่ ขนมจีนน้ำยา มีทั้งทั้งนำยากะทิ แกงไตปลา และบางวันมีน้ำยานครฯ ให้เลือกด้วย และห้ามพลาดกินคู่กับปาท่องโก๋  ที่ถือเป็นไฮไลท์ เพราะพนักงานซุ่มฝึกทำปาท่องโก๋กันในช่วงปิดโควิด จนได้รสชาติดี เนื้อแป้งนุ่ม กินคู่ไปกับน้ำยาแบบคนท้องถิ่นก็ดี หรือจิ้มสังขยาก็อร่อย

สำหรับกิจกรรมหลักคือ เข้าคลาสเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยภาษาเยอรมัน โดยครูที่สอนก็มาจากสถาบันเกอเธ่ และยังมีคลาสเวิร์กช็อปสิ่งแวดล้อมสอดแทรกไปด้วยระหว่างวัน เช่น ไปปลูกป่าโกงกางบ้าง เล่นเกมส์ติดเกาะบ้าง พายเรือคายัก เก็บขยะในทะเลบ้าง นักเรียนที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน จะถูกจับแยกให้จับกลุ่มกับเพื่อนต่างโรงเรียน มีการเล่นบัดดี้ ที่จะมีคนแอบเทคแคร์อยู่ห่าง ๆ และไปเฉลยในวันสุดท้ายก่อนกลับ

 

  เซตอาหารใต้พื้นเมืองในแบบพังงา ที่โรงแรมอัปสรา

  เกี่ยมโก้ย อาหารพื้นเมืองหากินยากและรสชาติดี มีที่โรงแรมอ้ปสรา

ส่วนไฮไลท์ของทริปคือวันที่เด็ก ๆ จะได้ไปเยี่ยมชมหมู่เกาะสิมิลัน ในวันที่นักท่องเที่ยวหายไปหลายเดือน และเริ่มกลับมาคัดกรองนักท่องเที่ยวสู่หมู่เกาะอีกครั้ง การได้เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายก่อนไปชมธรรมชาติที่สวยสดงดงามด้วยตาตัวเอง น่าจะทำให้เกิดความรู้สึกความหวงแหน...อยากรักษา และอยากเห็นความสวยงามแบบนี้อยู่ไปอีกนาน ๆ

สิมิลัน วันฟ้าใส

โปรแกรมท่องอันดามันเยี่ยมชมอุทยานแหงชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากมาเยือน เด็ก ๆ ตื่นเต้นกับการเตรียมตัว เพราะโปรแกรมนี้เสมือนเป็นการจำลองการออกท่องเที่ยวท้องทะเลโดยรักษาสิ่งแวดล้อมตามแบบที่ได้เรียนในคลาส และได้ออกมาปฏิบัติจริง ก่อนลงเรือเด็ก ๆ รับบรีฟจากผู้นำกรุ๊ป จากบริษัท แฟนทาสติก สิมิลัน ทราเวล ว่าเมื่อขึ้นเกาะแล้วควรปฏิบัติเช่นไรบ้าง ซึ่งกฎข้อแรกเลยก็คือ “ถอดรองเท้า” จะถอดฝากไว้ตั้งแต่ก่อนขึ้นเรือ หรือทิ้งไว้บนเรือก็ได้ แต่ห้ามสวมรองเท้าใด ๆ ระหว่างอยู่บนเกาะ รวมทั้งตอนลงเล่นน้ำทะเล หรือสน็อกเกิ้ลดูปะการัง โดยเด็ดขาด

  ดูปะการังที่เกาะสี

ยังมีอีกกฎอีกหลายข้อ เช่นขยะใด ๆ ที่นำไป ไม่ว่ากล่องอาหาร ขวดน้ำ ให้นำกลับมาทิ้งบนฝั่ง ไม่ควรเพิ่มภาระสร้างขยะใด ๆ ไว้บนเกาะ ห้ามนำเอาก้อนหิน เปลือกหอย ใด ๆ กลับมา แม้แต่ทรายที่จะติดตามเนื้อตัวก่อนขึ้นเรือกลับก็ควรปัดทิ้งไว้ให้มากที่สุด และเมื่อใครได้ไปเห็นสิมิลัน ได้ไปเดินย่ำหาดทรายที่นั่น ก็น่าจะเข้าใจได้เลยว่า ทำไมพวกเราควรพยายามรักษาความงามของหมู่กาะนี้ไว้ให้มากที่สุด สิ่งใด ๆ ใต้น้ำที่อาจมองไม่เห็น ปะการังที่อาจเคยเสียหายไป เพราะนักท่องเที่ยวที่มากมาย แต่ทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลสีเขียวมรกตที่งดงาม ยังคงเป็นสิ่งลำค่าที่ยากจะหาได้จากที่ใด และการมาเยือนพร้อมปฏิบัติตามกฎเคร่งครัด การระมัดระวังที่จะไม่เหยียบย่ำ ทำลาย หรือทิ้งสิ่งแปลกปลอมใด ๆ ไว้ ก็เป็นสิ่งดีที่สุดที่เราควรทำ

เราแวะกันทั้งหมด 4 จุดบนเกาะ นั่นคือเดินไปบนจุดชมวิวที่เกาะเรือใบ พักกินข้าว และไปดำน้ำบริเวณเกาะสี่ และเกาะแปด ของหมู่เกาะสิมิลัน ความรู้ใหม่ที่เด็ก ๆ ได้จากที่นี่คือรู้จัก ปะการังฟอกขาว ที่เกิดจาก ปรากฏการณ์เอลนีโญ รวมถึงการเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ร่วมกับท้องทะเลโดยไม่ไปทำลายระบบนิเวศ...ขณะเดียวกันก็ได้สนุกสนานกับการเล่นน้ำ ดำน้ำตื้น ชมปะการัง ได้กลับมาเขียนในสมุดบันทึกที่ได้รับจากการมาแคมป์ว่าได้พบเห็นอะไรบ้าง

  แหลมปะการัง

วันต่อมา พวกเขาก็ได้ไปล่องแพไม้ไผ่ที่วังเคียงคู่ ได้สัมผัสการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติอีกแบบ ตั้งแต่นั่งบนแพไม้ไผ่ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ล่องไปในน้ำใสไหลเย็น มีต้นไม้สองข้างทางให้ชี้ชวนชม ธรรมชาติในจังหวัดพังงายังเรียกได้ว่าสมบูรณ์ และน่าท่องเที่ยว...แม้ไม่ได้เป็นเมืองหลักที่ใคร ๆ รู้จักอย่างกระบี่หรือภูเก็ต แต่เมื่อได้มาเยือนแล้ว แอบคิดว่านี่อาจคือเมืองที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน ให้ชีวิตได้พักพิงและใกล้ชิดกับธรรมชาติได้หลายมิติอย่างสมบูรณ์แบบที่แท้จริง...

  คาเฟ่น่ารักในเมือง

ตะกั่วป่า เมืองน่ารัก

วันที่เด็กเข้าคลาสกันหนักทั้งเรื่องภาษาเยอรมันและสิ่งแวดล้อมภายในโรงแรม ภารกิจเราจึงคือการออกไปสำรวจรอบ ๆ โรงแรมและตัวเมืองตะกั่วป่า คนที่นี่เรียกว่า เมืองตะโกลา ที่อยู่ห่างออกไปจากเขาหลักไม่มากนัก นั่งรถไปสักครึ่งชั่วโมงก็ถึง เราได้ไปหลายแห่ง ที่เป็นจุดเช็คอิน เมืองนี้มีสถานที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อย่าง สะพานเหล็กบุญสูง เป็นสะพานเก่าที่สร้างจากแร่เหล็ก สมัยที่มีการทำเหมืองแร่ที่นี่ ปัจจุบันก็ยังมีชาวบ้านที่ทำอาชีพร่อนแร่ขายอยู่บ้าง เพราะยังมีตกหล่นหลงเหลือ ย่านเมืองเก่า มีตึกรามบ้านเรือนเก่า เป็นชุมชนค้าขาย มีร้านกาแฟโบราณ ขนมพื้นเมือง ทุกวันอาทิตย์มีถนนคนเดิน และร้านกาแฟชื่อ ตรอก คาเฟ่ ในบรรยากาศสุดเท่ ที่เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ยอดนิยม

    มุมสตรีทอาร์ต และทางเดินระเบียงตึกอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองตะกั่วป่า

  สะพานเหล็กบุญสูง

  ตึกขุนอินทร์ บ้านโบราณย่านตะกั่วป่า สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดอ่านประวัติได้

ขนมจีนเป็นอาหารหลักของภาคใต้ มื้อกลางวันเราไปที่ร้านขนมจีนพี่เหน่ง ที่มีน้ำยาต่าง ๆ ทั้งน้ำยาปู น้ำยาแกงใต้ แม้แต่น้ำเงี้ยวของภาคเหนือที่มีหลายคนบอกอร่อย สั่งขนมจีนหนึ่งจาน ได้ผักเต็มโต๊ะ ในราคา 30 บาท ไล่เรียงแวะถ่ายภาพตามสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งในตะกั่วป่า แล้ววกกลับมาที่แหลมปะการัง ใกล้ที่ตั้งของโรงแรม...เป็นจุดชมวิวที่สวยแปลกตา เพราะถัดจากชายหาดคือซากปะการังที่เรียงราย ว่ากันว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์สึนามิ อาจดูไม่เหมือนชายหาดอื่น ๆ แต่ยามเย็นพระอาทิตย์ตกก็สวยงาม และเรือประมงที่เรียงรายในละแวกนี้ก็คือส่วนหนึ่งของสีสันและวิถีชีวิตในเขาหลัก

   ขนมจีนแกงปู

อำลาเขาหลัก

วันสุดท้ายของการเข้าแคมป์ PASCH เด็ก ๆ ยังมีกิจกรรมการแสดงกลุ่มปิดท้าย โดยจัดเป็นงานกาล่าดินเนอร์ที่โรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท ปิดท้ายด้วยความสนุกสนาน ทุกคนได้ทั้งเพื่อนใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และความรู้ใหม่ที่จะกลับไปดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม

แม้เขาหลักวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ช่วงเวลา 8 วันเต็มของกิจกรรม PASCH-Camp นักเรียนมัธยมศึกษาจากทั่วประเทศที่เดินทางมาครั้งนี้ได้ทำให้ทะเลเขาหลักกลับมาคึกคักอีกครั้ง  เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแคมป์  ยังถูกบอกเล่าไปสู่โลกภายนอกผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดียของเกอเธ่ที่เชื่อมโยงเยาวชนจากทุกมุมโลกเข้าหากันอีกด้วย

   กิจกรรมในแคมป์เด็ก

หมายเหตุจากเขาหลัก

-       เดินทางไปเขาหลัก : สามารถลงสนามบินที่ภูเก็ต และนั่งรถต่อมาอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง

-       โรงแรมอัปสรา บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า เขาหลัก มีห้องพักติดชายหาด และแบบวิลล่า สามารถมาพักเป็นหมู่คณะ และทำกิจกรรมได้หลากหลาย โทร. 076 584444 www.apsarakhaolak.com

-       หากไม่เข้าพัก ยังสามารถแวะไปชิมอาหารพื้นเมืองที่หารับประทานยาก อย่าง เกี่ยมโก้ย เป็นแป้งนึ่ง คล้ายขนมถ้วย มีน้ำจิ้มหรือซอส ราด เป็นอาหารท้องถิ่นของพังงา รสชาติอร่อย และยังมี แกงส้มหยวกปลากะพง ต้มเต้าหู้ปลาเค็มใส่หมูสามชั้น น้ำพริกขยำ ผักสด น้ำกะทิจำปาดะ

-       ทำความรู้จัก PASCH-Camp เพิ่มเติมได้ที่ Mobil mit Deutsch (https://www.facebook.com/deutschmobil.thailand)

-       Pasch Goethe-Institut Thailand (https://www.facebook.com/paschblog.deutschinthailand)

-       Goethe-Institut Thailand https://www.facebook.com/goetheinstitut.thailand