เปิดผล 28 ร้านคว้า 'ดาวมิชลิน' ในไทย ล่าสุดประจำปี 2564

ประกาศแล้ว! "มิชลิน ไกด์" เผยรายชื่อร้านอาหารระดับ "ดาวมิชลิน" 28 ร้านในไทยประจำปี 2564 โดยแบ่งเป็นร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 2 ดาว มีทั้งหมด 6 ร้าน และร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 1 ดาว มีทั้งหมด 22 ร้าน มีรายชื่อดังนี้

• ร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 2 ดาว 

Excellent cuisine, worth a detour หมายถึง "ร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม" ทั้งหมดเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มี 6 ร้าน ได้แก่

1. Chef’s Table (เชฟส์เทเบิล)

2. Le Normandie (เลอ นอร์มังดี)

3. Mezzaluna (เมซซาลูน่า)

4. R-Haan

5. Sorn (ศรณ์)

6. Sühring

• ร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 1 ดาว

High quality cooking, worth a stop หมายถึง "ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม" เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมี 1 ร้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตและพังงา มี 22 ร้าน ได้แก่

1. 80/20 (เอ็ทตี้ ทเวนตี้)    2. Blue by Alain Ducasse (ร้านใหม่)

3. Bo.lan (โบ.ลาน)           4. Cadence by Dan Bark (เคเดนซ์/ร้านใหม่)

5. Canvas                       6. Chim by Siam Wisdom (ชิม บาย สยาม วิสดอม)

7. Elements (เอเลเมนท์)   8. Ginza Sushi Ichi

9. J’AIME by Jean-Michel Lorain      10. Jay Fai (เจ๊ไฝ)

11. Khao Ekkamai (ข้าว สาขาเอกมัย)      12. Le Du (ฤดู)

13. Methavalai Sorndaeng (เมธาวลัย ศรแดง)  14. Nahm (น้ำ)

15. Paste                                                         16. Saawaan (สวรรค์)

17. Saneh Jaan (เสน่ห์จนัทน์)                           18. Savelberg

19. Sra Bua by Kiin Kiin (สระบัวบายกินกิน)      20. Suan Thip (สวนทิพย์)

21. Sushi Masato                                            22. PRU (พรุ) *ภูเก็ตและพังงา

สำหรับรางวัลมิชลิน 2 ดาว พบว่ามีร้านอาหารเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับการเลื่อนระดับจาก 1 ดาวมิชลิน เป็น 2 ดาวมิชลิน นั่นคือ Chef’s Table (เชฟส์เทเบิล) เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย ที่นำวัตถุดิบชั้นเลิศคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมโลก มาประกอบอาหารด้วยเทคนิคที่เหมาะสม 

ส่วนรางวัล 1 ดาวมิชลิน มีร้านอาหารที่ติดอันดับเป็นครั้งแรกและคว้ารางวัลนี้ไปครองรวม 2 ร้าน ได้แก่ Blue by Alain Ducasse ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย นำเสนอเมนูสุดประณีตจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ผ่านกรรมวิธีการปรุงด้วยเทคนิคแบบฝรั่งเศสดั้งเดิม และ Cadence by Dan Bark (เคเดนซ์) ร้านอาหารเชิงนวัตกรรม ที่ผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว ทั้งยังนำเสนอศิลปะสไตล์เกาหลีผ่านอาหารเชิงนวัตกรรมที่ทันสมัย

อีกทั้งในปี 2564 มีร้านอาหารได้รับสัญลักษณ์รับรอง "มิชลิน เพลท" (เป็นร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน) รวมทั้งสิ้น 165 ร้าน ในจำนวนนี้เป็นร้านที่ติดอันดับครั้งแรก 32 ร้าน [กรุงเทพฯ และปริมณฑล 12 ร้าน, เชียงใหม่ 9 ร้าน, ภูเก็ตและพังงา 11 ร้าน] ยกตัวอย่างเช่น 

- บ้านริมบึง (นครปฐม) : ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2544 นำเสนออาหารไทยสไตล์ครอบครัว โดดเด่นด้วยเมนูปลาและอาหารทะเลที่สดใหม่

- กิติพานิช (เชียงใหม่) : นำเสนออาหารสไตล์ล้านนาดั้งเดิม ในบรรยากาศเปี่ยมมนต์เสน่ห์ของอดีตกาล ผนวกความร่วมสมัยได้อย่างมีชีวิตชีวา

- Beach Grill and Bar (พังงา) : เสิร์ฟอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์ฟิวชั่น และอาหารทะเลสดใหม่ในท้องถิ่น เมนูอาหารส่วนใหญ่ปรุงจากเตาถ่านไม้ฟืนที่ให้ความหอมของกลิ่นควัน

ส่วนร้านอาหารที่ได้รางวัล "บิบ กูร์มองด์" พบว่ามีจำนวนทั้งหมด 106 ร้าน นอกจากนี้ "มิชลิน ไกด์" ยังมีการมอบรางวัล 3 รางวัลใหม่ ที่เพิ่งจะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2564 คือ MICHELIN Green Star, MICHELIN Guide Young Chef Award, MICHELIN Guide Service Award ซึ่งในแต่ละสาขา มีผู้ที่คว้ารางวัลไปได้ ดังนี้

1. รางวัล MICHELIN Green Star “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ตกเป็นของ ร้าน PRU (พรุ)

เป็นร้านอาหารที่ดำเนินกิจการและมีแนวปฏิบัติประจำวันด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน PRU เป็นแบบอย่างที่โดดเด่นในด้านการประกอบอาหารอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นเผยแพร่หลักปรัชญา “Dine Good, Do Good” หรือ “กินดีอยู่ดี” ด้วยการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การใช้สารเคมี และขยะอาหาร

นอกจากนี้ ยังประกอบอาหารโดยเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในประเทศเท่านั้น ครอบคลุมอาหารทะเลที่ไม่จับในฤดูวางไข่ และใช้เนื้อสัตว์จากฟาร์มเลี้ยงแบบเปิด รวมทั้งยังมีทีมวิจัยที่จัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ขึ้นเพื่อสงวนพืชพรรณในท้องถิ่นให้คงอยู่

2. รางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award ตกเป็นของ เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ หัวหน้าเชฟร้านสวรรค์ (กรุงเทพฯ)

เป็นเชฟรุ่นใหม่ระดับดาวมิชลินที่โดดเด่น เชฟอ้อมเกิดในครอบครัวนักทำอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศแวดล้อมของอาหารและการปรุงอาหารอย่างมืออาชีพ หลังจบหลักสูตรจากโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เชฟอ้อมเคยได้ทำงานร่วมกับเชฟระดับดาวมิชลินหลายราย อาทิ ฮวน อมาดอร์ (Juan Amador) และ โธมัส เคลเลอร์ (Thomas Keller)

และยังเคยไปเรียนเทคนิคการปรุงอาหารระดับโมเลกุล  ที่ร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ จนถึงปัจจุบัน ร้านสวรรค์ ถือเป็นจุดสูงสุดบนเส้นทางด้านอาหารและการรังสรรค์เมนูอาหารไทยของเชฟอ้อม

3. รางวัล MICHELIN Guide Service Award ตกเป็นของ กิลโยม บาร์เรย์ ผู้จัดการทั่วไปร้าน Chef’s Table (กรุงเทพฯ)

บาร์เรย์ ยึดมั่นในประสิทธิภาพ ความซื่อสัตย์ และความมุ่งมั่นทุ่มเทที่มีต่อผลิตภัณฑ์และธรรมเนียมอันดีเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ทีมผู้ให้บริการมืออาชีพของร้าน Chef’s Table นำโดย บาร์เรย์ ให้บริการที่สมบูรณ์แบบ พนักงานทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติต่างทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างยอดเยี่ยม พรั่งพร้อมทั้งความเป็นมืออาชีพ ความสุภาพอ่อนน้อม และความเป็นมิตร ต้อนรับลูกค้าอย่างมีมารยาทด้วยความอบอุ่นและเอาใจใส่อย่างแท้จริง