10 ไวน์แดง แห่งปี 2020
ปี 2020 เป็นปีวิกฤติของเมืองไทยและทั่วโลกจากโควิด – 19 อย่างไรก็ตามผมก็ได้ชิมไวน์อยู่พอสมควร และขอจัดทำเป็น ‘10 ไวน์แดง แห่งปี 2020’ (Top 10 Red Wines of the Year 2020) ส่วนไวน์ขาวและสปาร์คกลิ้งไวน์ โปรดติดตามในสัปดาห์หน้า
สำหรับไวน์แดงอันดับ 1 ขอยกให้กับ โดเมน อาร์โลด์ มอเฮรย์ ซังต์ เดนีส์ เปรอะมิเยร์ ครู “เลส์ มีลลองด์ 2015 (Domaine Arlaud Morey Saint Denis 1er Cru “Les Millandes” 2015) : ปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) 100% จากไร่ Les Millandes และเป็น 1 ใน 20 เปรอะมิเยร์ ครู (1er Cru) ของ Morey Saint Denis AOC โดย Les Millandes และอยู่ทางใต้ของโคลส์ เดอ ลา โฮรช (Clos de la Roche) ชื่อมาจากภาษาละติน Millet Milium หมายถึงพื้นที่ที่ปลูกข้าวฟ่าง ผลิตเพียง 2,100 ขวดเท่านั้น ….สีแดงค่อนข้างเข้ม เป็นไวน์ที่ค่อนข้างแปลกกว่าเบอร์กันดีทั่วไป เพราะมีสไปซี่ค่อนข้างมาก ฟรุตตี้มีแบล็คเชอร์รี เรดเบอร์รี และสตรอว์เบอร์รี สไปซี มิเนอรัล เอิร์ธตี้ หินฝุ่น เห็ด ใบไม้แช่น้ำเกือบเน่า แอสิดปานกลาง แทนนินแน่นนุ่มหวาน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี และมิเนอรัล ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก สามารถดื่มได้ในขณะนี้ แต่อีก 4-5 ปีจะดีกว่านี้.....19/20 คะแนน (นำเข้าโดย บริษัท โคลส์ โมโนโปล จำกัด / Clos Monopole)
โดเมน อาร์โลด์ (Domaine Arlaud) เป็นผู้ผลิตไวน์อยู่ในเขต มอเฮรย์ ซังต์ เดนีส์ (Morey Saint Denis) ซึ่งเป็นเขตที่มี 5 กรองด์ ครูส์ (Grand Crus) และ 20 เปรอะมิเยร์ ครู (1er Crus) และ Domaine Arlaud ก็มีไวน์อยู่ทั้งใน 2 พื้นที่ดังกล่าว ไม่นับรวมเขต AOC อีกหลายรุ่น ก่อตั้งในปี 1942 ที่นุยส์ ซังต์ จอร์จ (Nuits Saint Georges) โดยโจเซฟ อาร์โลด์ (Joseph Arlaud) ชายหนุ่มจากอาร์เดช (Ardèche) ดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส มาตกหลุมรักเรเน อารมีโยต์ (Renée Amiot) สาวงามแห่งเบอร์กันดี (Burgundy) หลังจากแต่งงานกันการก็เริ่มทำไวน์ในปี 1949 โดยซื้อองุ่นจากไร่ระดับพรีเมียมมาทำไวน์เอง ก่อนจะได้ครอบครองชาโตเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 และใช้ห้องใต้ดินเป็นเซลลาร์บ่มไวน์ พร้อมทั้งใช้รูปปราสาทนี้เป็นส่วนหนึ่งของฉลากไวน์นั่นเอง
ปี 1983 แอร์เว อาร์โลด์ (Hervé Arlaud) ลูกชายของโจเซฟเข้ามาดูแลกิจการแทนพ่ออย่างเต็มตัว พร้อมทั้งบรีจีตต์ (Brigitte) ได้ช่วยกันขยับขยายและพัฒนาธุรกิจของครอบครัวในด้านต่าง ๆ ปี 2003 จึงย้ายมาอยู่ที่มอเฮรย์ ซังต์ เดนีส์ (Morey Saint Denis) ซึ่งมีความสะดวกสบายในการทำไวน์มากกว่า ขณะที่ชาโตสมัยศตวรรษที่ 14 ถูกใช้เป็นห้องสมุด และสถานที่ชิมไวน์เป็นกรณีพิเศษ
ปี 2013 ซีเปรียน อาร์โลด์ (Cyprien Arlaud) ลูกชายของเขาซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ได้เข้าดูแลกิจการอย่างเต็มตัว พร้อมกับการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งการผลิตไวน์ในหลายพื้นที่ทั้ง กรองด์ ครู และเปรอะมิเยร์ ครู และสิ่งที่สำคัญก็คือการทำไวน์แบบไบโอไดนามิก (Biodynamic) ปี 2014 Domaine Arlaud ได้รับใบประกาศรับรอง Biodynamic จาก BiodyVin นับเป็นเจ้าแรกในเขต Morey Saint Denis หลังจากเริ่มโครงการ Biodynamic อย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เริ่มทำ ไวน์ออร์แกนิค มาตั้งแต่ปี 2004 ในไร่ 15 เฮกตาร์
ชาโต มาร์โกซ์ 2000 (Château Margaux 2000) : 2000 เป็นวินเทจทองของไวน์ฝรั่งเศส โดยเฉพาะบอร์กโดซ์ นักชิมแทบทุกสำนักให้คะแนนสูงลิบ แน่นอนทำให้ราคาไวน์สูงตามไปด้วย เบลนด์จากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 90% และแมร์โลต์ (Merlot) 10% บรรจุขวดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2002 หลังจากผ่านการบ่มในถังโอ๊ค 2 ปี...สีแดงเข้ม ดมครั้งแรกได้กลิ่นเครม เดอ คาสซิส (Crème de Cassis) กรุ่นเตะจมูก ตามด้วยผลไม้ เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และราสพ์เบอร์รี มิเนอรัล แบล็คเปปเปอร์ ดอกไวโอเลต ไส้ดินสอ ไม้จันทน์ ใบเบย์ โอ๊คหอมหวาน ยาสูบ หนังสัตว์ แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มหวานนุ่มลิ้น มีเดียมบอดี้กึ่ง ๆ ไปทางฟูลบอดี้ จบยาวเหยียดด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล เฮิร์บ ท่านที่มีอยู่ในครอบครองสามารถเก็บได้ประมาณ 30 - 40 ปี.....19.5 / 20 คะแนน
โรเบิร์ต มอนดาวี “ไมสโทร 2014 (Robert Mondavi “Maestro” 2014) : “Maestro” ผลิตในสไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ สำหรับวินเทจ 2014 นี้ ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 73% กาแบร์เนต์ ฟรัง(Cabernet Franc) 23% แมร์โลต์ (Merlot) 2% และเปติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 2% บ่มโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ 75 % หลังจากผ่านกระบวนการต่าง ๆ แล้วบ่มในถังบาร์เรล 21 เดือน...สีแดงเข้มจนเกือบดำ หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ พลัม ดอกไวโอเลต ซีดาร์ สไปซี่ แบล็คเปปเปอร์ เฮิร์บ จันทน์เทศ กระวาน ม็อคคา ช็อกโกแลต ใบยาสูบ กล่องซิการ์ มิเนอรัล โอ๊คหอมหวาน แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มหวานนุ่มเนียน แอสิดสดชื่น จบยาวด้วยดอกไม้ สไปซี ผลไม้ คาราเมล....19/20 คะแนน
ชาโต เลโอวิลล์ ลาส์ กาสส์ 1989 (Château Leoville Las Cases 1989) : สุดยอดแห่งชั้น 2 จากแซงต์ – ฌูเลียง (St.-Julien) ส่วนหนึ่งของความยอดเยี่ยมเพราะมีไร่ติดกับไร่ของชาโต ลาตูร์ (Chateau Latour) ไวน์ชั้น 1 ที่สำคัญเป็นตัวเก็งที่คาดว่าถ้ามีการจัดชั้นใหม่จะได้ขยับขึ้นชั้น 1 อย่างแน่นอน วินเทจนี้ทำจากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 65 % แมร์โลต์ (Merlot) 18 % กาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 14 % และเปติต์ แวร์กโดต์ (Petit) 3 % ผลิตปีละ 30,000 ลัง...สีแดงแกมน้ำตาล หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พรุน และพลัม ยาสูบ ช็อกโกแลต สไปซี่เฮิร์บ กรีนเปปเปอร์ ชะเอมเทศ ซีดาร์ ไส้ดินสอดำ โอ๊คยังค่อนข้างเยอะหอมหวานและสโมคกี้ วานิลลา แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก และเฮิร์บชุ่มคอ.....19/20 คะแนน
โบเดกาส วาลดูเอโร “เซอิส ซาโยส” เรแซร์วา พรีเมียม ริเบรา เดล ดูเอโร ดีโอ 2010 (Bodegas Valduero “6 Años” Reserva Premium DO Ribera del Duero 2010) : หนึ่งในไวน์ดีของสเปน ทำจากทินโท ฟีโน (Tinto Fino) หรือเทมปรานิลโย (Tempranillo) 100% อายุกว่า 40 ปีจากไร่ออร์แกนิค และซิงเกิ้ล วินเยิร์ด ชื่อ "ลาส โลมาส” (Las Lomas) บ่ม 36 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกันโอ๊ค บรรจุขวดแล้วบ่มต่ออีก 36 เดือน ...สีแดงเข้มประมาณโกเมนมีส้มแตะที่ขอบนิด ๆ กลิ่นหอมของผลไม้สุกฉ่ำอบอวลมาก เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และพลัม วานิลลา สโมคกี้โอ๊ค ซีดาร์ หนังสัตว์ ทรัฟเฟิล ถ่านไม้ สไปซีเฮิร์บ ชะเอมเทศ กานพลู อบเชย ใบยาสูบ แบล็คเปปเปอร์ เอิร์ธตี้ แทนนินสุกนุ่มเนียน แอสิดกำลังดื่มสดชื่นรื่นรมย์ จบยาวนานด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ สามารถดื่มตอนนี้ได้เลย หรือซื้อเก็บไว้ในเซลลาร์แล้วทยอยดื่มปี 1-2 ขวด เพื่อดูพัฒนาการของไวน์ตัวนี้ ซึ่งน่าจะอยู่ได้อีกประมาณ 8-10 ปี.....19/20 คะแนน
โบเดกา เฟลชาส เดอ ลอส แอนเดส กราน กอร์เต เมนโดซา อาร์เจนตินา 2012 (Bodega Flechas De Los Andes Gran Corte Mendoza Argentina 2012) : ทำจากมาลเบค (Malbec) 65 % ซีราห์ (Syrah) 30 % และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 5 % บ่ม 24 เดือนในถังโอ๊คใหม่จากฝรั่งเศส...สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุกกึ่ง ๆ แยมผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ ราสพ์เบอร์รี แบล็คเชอร์รี และพลัม ดอกลาเวนเดอร์ วานิลลา ช็อกโกแลต มิเนอรัล เอิร์ธตี้ หนังสัตว์ ซีดาร์ สไปซี เฮิร์บแห้ง ๆ มีเดียมบอดี้ แทนนินแน่นแต่เริ่มจะสุก แอสิดกลาง ๆ แต่ก็สดชื่นดี จบอร่อยและยาวด้วยแยมผลไม้ วานิลลา และสไปซีเฮิร์บชุ่มคอ กำลังสุกพร้อมดื่ม หรือจะเก็บได้อีกสัก 2-3 ปี....19/20 คะแนน
ไคเคน เอสเตท อัลตร้า มาลเบค เมนโดซา อาร์เจนตินา 2016 (Kaiken Ultra Malbec Mendoza Argentina 2016) : ตัวนี้เป็นรุ่น Ultra ซึ่งขยับพรีเมียมขึ้นมาจาก 2 รุ่นแรก ทำจากมาลเบค 100% จากไร่วิสตา ฟลอเรส-อัลมามิรา และกวลตัลลารี (Vista Flores-Altamira y Gualtallary) ในหุบเขาอูโก (Valle de Uco) เขตควบคุมเมนโดซา บ่ม 12 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศส...สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ ประมาณแยมผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี และพลัม ดอกไม้แห้ง ๆ สไปซีเฮิร์บ โรสแมร์รี ใบไธม์ โอ๊คหอมกรุ่น ซีดาร์ ใบยาสูบ ช็อกโกแลต แอสิดกำลังพอดีและสดชื่น แทนนินค่อนข้างหนักแต่นุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก เฮิร์บ และดอกไม้แห้ง ๆ สามารถดื่มได้ในตอนนี้เป็นต้นไป แต่จะให้ดีอีกสัก 2-3 ปี จะเปิดตัวมากกว่านี้ .....18.5/20 คะแนน
ชาโต เดอ ปัวติฮรง คูเว ปาสซิยอง เอโอซี โก๊ต เดอ บอร์กโดซ์ 2014 (Chateau de Potiron Cuvée Passion AOC Côtes de Bordeaux 2014) : ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 60% ที่เหลือเป็นกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) เป็นรุ่นที่ชิมแล้วค่อนข้างเซอร์ไพรซ์ เพราะมีความสมดุลทั้งด้านโครงสร้างและผลไม้ สีแดงเข้มสดใสและขอบม่วงนิด ๆ หอมกลิ่นผลไม้เปลือกดำสุก เช่น พลัม แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ ราสพ์เบอร์รี และพรุน โอ๊คหอมกรุ่น ทรัฟเฟิลเบา ๆ ใบยาสูบ ซีดาร์ สไปซี เฮิร์บ จันทน์เทศ เอิร์ธตี้ แอสิดสดชื่น แทนนินยังแน่นแต่เริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ โอ๊คกรุ่นๆ และสไปซีเฮิร์บ ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นักแต่ดื่มตอนนี้ก็ได้แต่อีกสัก 3-4 ปีจะเปิดตัวมากกว่านี้ ...19/20 คะแนน
เซา มิเกล โด ซูล วีโญ ตินโต พรีเมียม 2017 (São Miguel do Sul Vinho Tinto Premium 2017 ) : ไวน์คุณภาพเกินราคาจากโปรตุเกส เป็นไวน์เกรด IGP Premium ที่เบลนด์จากองุ่น 3 พันธุ์คือ อาลิคานเชะ บูสเชต์ (Alicante Bouschet) อาราโกเนซ (Aragonez) และตอริกา นาซีนาล (Touriga Nacional) องุ่นแดงของเจ้าถิ่นที่มีแคแรกเตอร์คล้ายกาแบร์เนต์ โซวีญยง บ่ม 9 เดือนในถังโอ๊คเก่า....สีแดงค่อนข้างเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ เช่น แบล็คเบอร์รี พลัม ราสพ์เบอร์รี เรซิน และมัลเบอร์รี ดอกไม้ ช็อกโกแลต มะพร้าวคั่ว โอ๊คกรุ่นๆ ซีดาร์ ขนมปังปิ้ง สไปซีนิด ๆ แทนนินหนักแน่นแต่นุ่มเนียน แอสิดสดชื่น....18/20 คะแนน
ออร์เนลลายา 2012 (Ornellaia 2012) : หนึ่งในไวน์ซูปเปอร์ ทัสคัน ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 56% แมร์โลต์ (Merlot) 27% กาแบร์เนต์ ฟรองซ์ (Cabernet Franc) 10% และเปตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 7 % …สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม และแบล็คเชอร์รี มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ กรีน เปปเปอร์ จันทน์เทศ และกานพลู ดอกไวโอเลต กาแฟคั่ว ช็อกโกแลต โอ๊คหอมกรุ่น หนังสัตว์ แทนนินหนักแน่น เริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล และสไปซี ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะอีกสัก 2-3 ปี.....19/20 คะแนน
นั่นคือ 10 ไวน์แดง แห่งปี 2020 ตามที่ผมได้ชิมมาในปี 2020 ซึ่งส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ เก็บไว้เป็นข้อมูล เผื่อปีหน้าฟ้าใหม่ ภัยโควิด-19 เจือจางลงบ้างจะได้ชิมกัน