'คริสต์มาส' เวลาทอง 'มารายห์ แครี่' ร้องเพลงเดียว รวยทั้งชีวิต จาก All I Want For Christmas Is You

'คริสต์มาส' เวลาทอง 'มารายห์ แครี่' ร้องเพลงเดียว รวยทั้งชีวิต จาก All I Want For Christmas Is You

ต้อนรับ “คริสต์มาส” ชวนสำรวจรายได้ของ “มารายห์ แครี่” และเพลงในตำนาน "All I Want For Christmas Is You" มาถอดสูตรดูกันว่า เพราะอะไรถึงกลายเป็นเพลงอมตะตลอดกาลที่ผู้คนยังต้องการฟัง?

ตราบใดที่เด็กๆ ยังคงรอคอยของขวัญสุดพิเศษจากลุงซานตาคลอสใน “วันคริสต์มาส” เพลง All I Want For Christmas Is You ก็ยังคงถูกเรียกร้องให้เปิดคลอไปกับเทศกาลคริสต์มาสสุดพิเศษนี้ตลอดมา ส่งผลให้ "มารายห์ แครี่" (Mariah Carey) เจ้าของเสียงเพลงทรงอิทธิพลนี้กลายเป็นไอคอนประจำเทศกาลคริสต์มาส เทียบเท่ากับซานตาคลอส และต้นคริสต์มาสเลยก็ว่าได้

เวลาเพียงแค่ 15 นาที คือช่วงเวลาที่มารายห์ และ อฟานาซีฟ (Walter Afanasieff) โปรดิวเซอร์ ร่วมกันแต่งเพลง All I Want For Chrismas Is You นี้ เมื่อปล่อยออกมาไม่นาน เพลงนี้ก็ดังเปรี้ยงเหมือนฟ้าผ่าแบบฉับพลัน แล้วเมฆฝนที่ตั้งเค้าก็โปรยหยาดน้ำฝนเป็นแบงก์ดอลล่าห์ให้มารายห์มาตลอด 25 ปี คิดรวมเป็นมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท (ราวๆ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ)

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนสำรวจรายได้ของมารายห์ แครี่ จากเพลงในตำนาน และถอดสูตรสำเร็จของเพลง All I Want For Christmas Is You ว่าเพราะอะไรถึงกลายเป็นเพลงอมตะตลอดกาลที่ผู้คนยังต้องการฟัง

160883100026

  • มารายห์ แครี่ กับปฏิบัติการ "ยิงปืนนัดเดียว" ได้นกเกือบ 2,000 ล้าน

I don't want a lot for Christmas There is just one thing I need…

เสียงเพลง All I Want For Christmas Is You ดังคลอตลอดในช่วงสัปดาห์วันคริสต์มาส 25 ธันวาคม ของทุกปี จากทั่วทุกมุมโลกไม่มีใครไม่รู้จักเพลงนี้

เพลง All I Want For Christmas Is You ซึ่งนับเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม Merry Christmas ของมารายห์ แครี่ ที่ออกขายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1994 หลังจากนั้นเพียง 1 ปี เพลงนี้ก็ทะยานพุ่งขึ้นติดหูคนทั่วโลก และมียอดขายมากกว่า 16 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก

สื่อด้านการเงินอย่าง The Economist รายงานว่า มารายห์ แครี่ รับค่าลิขสิทธิ์ค่าเพลงนี้ไปแล้วกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,100 ล้านบาท นับตั้งแต่ปล่อยเพลงนี้ออกมาในปี 1994  ตลอด 26 ปีที่ผ่านมาเพลง All I Want For Christmas Is You ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

ปี 2015 The Daily Mail สื่อตีพิมพ์รายได้ของมารายห์ แครี่ จากเพลงในตำนานเพลงเดียวมีมูลค่า 15 ล้านบาทต่อปี (5 แสนเหรียญสหรัฐ) และในปี 2017 เพลงสร้างรายได้ค่าลิขสิทธิ์เฉพาะในอังกฤษมากกว่า 15 ล้านบาทต่อปี (5 แสนเหรียญสหรัฐ) ยังไม่นับรวมค่าลิขสิทธิ์ และรายได้จากภาพยนตร์แอนิเมชันในปีดังกล่าวเช่นกัน

และตั้งแต่วงการเพลงมีการเปลี่ยนแปลงเกิดค่ายสตรีมมิ่งหลายแห่งแน่นอนว่าเพลง All I Want for Christmas Is You ก็ติดโผรับรายได้จากช่องทางนี้เช่นกัน ในวันคริสต์มาสปี 2018 เพลง "All I Want for Christmas Is You" สร้างสถิติด้วยการเป็นเพลงที่ถูกสตรีมมากที่สุดในหนึ่งวันบน Spotify โดยมียอดสตรีมเพลงนี้มากถึง 10.82 ล้านครั้ง และถึงตอนนี้มียอดขายเพลงนี้ทั่วโลกมากกว่า 16 ล้านก๊อบปี้ สรุปยอดรวมรายได้จากยอดสตรีมมิ่งไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทต่อปี (1 แสนดอลลาร์)

160883109283

ในปี 2019 เพลง “All I Want for Christmas Is You” ขึ้นถึงอันดับ 3 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดที่เคยทำได้นับตั้งแต่ปี 1994

ล่าสุดปี 2020 มารายห์ แครี่ ก็มีโปรเจคพิเศษชื่อ Magical Christmas Special ของ Mariah Carey บน AppleTV + ที่ก็ไม่พ้นการได้ค่าลิขสิทธิ์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่ต้องรอเปิดเผยรายได้อีกทีในอนาคต

แต่ถ้าหากจะนับรายได้ของ มารายห์ แครี่ ที่โกยได้จากเพลง All I Want For Christmas Is You นี้คิดคร่าวๆ น่าจะเกิน 5,000 ล้านบาท (ราวๆ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ)

  • อันดับเพลงคริสต์มาสโกยเงินแห่งตำนาน

Channel 5 สื่อจากอังกฤษ จัดอันดับเพลงคริสต์มาสที่สามารถสร้างรายได้ให้กับนักร้องและผู้แต่งอย่างมหาศาล โดยมีทั้งหมด 5 อันดับด้วยกันคือ

อันดับหนึ่ง คือเพลง Merry Xmas Everybody  ที่สร้างเม็ดเงินเข้ากระเป๋าสองคนดนตรี Noddy Holder  และ Jim Lea แห่งวง Slade  ปีละ 40 ล้านบาทหลังเพลงนี้ถูกปล่อยออกมา และครองอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงอังกฤษตั้งแต่ปี 1973-1989 

อันดับสองคือ เพลง Fairytale of New York ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 1987 แต่ทุกวันนี้ ยังคงทำเงินให้ Shane MacGowan และ  Jem Finer แห่งวง The Pogues  ต่อปีอยู่ที่ 15  ล้านบาท แม้ว่าเพลงนี้จะมีเนื้อหาที่ชวนหดหู่ แต่ผู้คนส่วนหนึ่งก็ยังคงเปิดเพลงนี้คลอไปกับเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเพลงนี้ขึ้นฮิตติดชาร์ตเพลงในอังกฤษมาทั้งหมด 14 รอบ รอบล่าสุดคือเมื่อปี 2016 นี่เอง

อันดับสาม คือ เพลง All I want for Christmas is You แม้ว่าจะผ่านไปแล้ว 26 ปี ตั้งแต่ปล่อยเพลงนี้ครั้งแรกก็ยังคงฮิตตลอดกาล

อันดับสี่คือ เพลง White Christmas ของ Bing Crosby  ที่เขียนขึ้นโดย Irving Berlin เพื่อให้ประกอบหนังเรื่อง Holiday Innเมื่อปี 1942 สรุปมูลค่ารวมมีมูลค่าถึง 12 ล้าน 8 แสนบาท

อันดับสุดท้ายคือเพลง Last Christmas ของวง Wham ที่สร้างรายได้อยู่เรื่อยๆ ปีละ 11 ล้าน 7 แสนบาท

160883126284

เพราะอะไรเพลงคริสต์มาสถึงทำเงินให้กับศิลปินได้อย่างมหาศาลมากกว่าเพลงที่เกี่ยวกับเทศกาลอื่นๆ ?

คำถามนี้ สื่อวอชิงตันโพสต์เคยวิเคราะห์ไว้ในปี 2019 ว่า เพลงไม่คริสต์มาสไม่ใช่เพลงที่ฟังเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่เพลงเฉพาะเทศกาลนี้เต็มไปด้วยการกระตุ้นความทรงจำที่แสนสวยงามของแต่ละคน ต่อให้รสนิยมเพลงจะต่างกันอย่างไร แต่ก็มีความคริสต์มาสเป็นจุดร่วม

นอกจากนี้วอชิงตันโพสต์ยังให้สังเกตเพิ่มเติมว่าเพลงที่ยังคงอยู่คู่เทศกาลคริสต์มาสมักจะเป็นเพลงเก่า ที่แต่งขึ้นมานานแล้ว อย่างเพลง All I Want For Christmas Is You ของมารายห์ แครี่ ก็มีอายุมากถึง 25 ปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเพลงที่แต่งใหม่มีน้อยมาก จะเน้นไปที่การโคฟเวอร์เพลงเก่าๆ เหล่านั้นมากกว่า เพราะว่าเพลงคริสต์มาสสามารถทำหน้าที่ส่งต่อวัฒนธรรมสำหรับคนฟังไม่มากน้อยก็น้อย ซึ่งเทศกาลคริสต์มาสเป็นวัฒนธรรมแห่งความสุขที่ใครๆ ก็ต้องการเก็บมันเอาไว้ ความสุขคริสต์มาสในวันวานมันหอมหวานเสมอ

  • ถอดสูตรสำเร็จของเพลง All I Want For Christmas Is You

เพราะเพลงคริสต์มาสล้วนเก็บความสุขของผู้คนเอาไว้ ทำให้ทั้งตัวศิลปินเอง และตัวโปรดิวเซอร์ต่างกระโจนเข้าสู่ตลาดเพลงคริสต์มาสแบบเต็มใจเพื่อแบ่งเม็ดเงินส่วนหนึ่งจากความสุขของผู้คนเหล่านั้น ด้วยยอดการันตีรายได้ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับนักร้องได้อย่างที่เพลงในเทศกาลอื่นๆ ทำไม่ได้ แต่เมื่อมีรุ่ง ก็ต้องมีร่วงตามลำดับเป็นไปตามกลไกการตลาด

เมื่อวิเคราะห์เพลงดังยอดฮิตในวันคริสต์มาสนี้จะพบว่า เพลงเหล่านั้นมักจะมีท่อนฮุคซ้ำๆ ประกอบกับจังหวะดนตรีที่ให้รู้สึกขยับตัวตามได้ แต่ก็ไม่ได้มีจังหวะที่เร่งเร้ามากนัก และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องมีเสียงกระดิ่ง รถลากเลื่อน ที่ให้นึกถึงกลิ่นอายของคริสต์มาสตลอดเพลง

เมื่อกลับมาฟังเพลง All I Want For Christmas Is You ก็พบว่าเนื้อเพลงมีลักษณะดังกล่าวครบถ้วนทุกประการ ไล่มาตั้งแต่เสียงคลอในช่วงแรกของเพลงที่ยาวถึง 30 วินาที และตามด้วยเสียงกระดิ่ง แล้วค่อยเริ่มเนื้อเพลงที่มีดนตรีสนุกสนาน จะนั่งฟังเพลินๆ หรือจะเต้นโยกตามได้แบบเบาๆ ก็ได้เช่นกัน

160883132447

นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) ที่อธิบายว่าเพลง All I Want For Christmas Is You เป็นเพลงคริสต์มาสที่คนอังกฤษชอบมากที่สุด จากการเป็นเพลงประกอบหนังดังอย่าง Love Actually ที่ออกฉายในปี 2003 

เพลง All I Want For Christmas Is You ถูกแต่งโดยมารายห์ แคร์รี่ และวอลเตอร์ อฟานาซีฟ นักแต่งเพลงคู่บุญที่ร่วมงานกันมาอย่างยาวนานของคนทั้งสอง โดยใช้ระยะเวลาแต่งเพลงนี้ทั้งหมดเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งตัวมารายห์ แคร์รี นั้นก็ให้สัมภาษณ์สื่ออยู่บ่อยครั้งว่าตัวเธอเองรอคอยวันคริสต์มาส และรู้สึกเป็นสุขกับวันนี้ของทุกๆ ปี เธอจึงพยายามใส่ความทรงจำ และสิ่งที่อยากได้ในวันคริสต์มาสลงไปในเพลงคริสต์มาสนี้

160883135130

อฟานาซีฟยอมรับว่าที่ All I Want for Christmas โด่งดังเช่นนี้เพราะแต่เดิมเพลงคริสต์มาสมักมีแต่เนื้อหาเอาใจเด็กๆ ด้วยเรื่องราวของซานตาครอสและกวางเรนเดียร์ ผู้คนจึงต้องการเพลงคริสต์มาสที่สื่อถึงวิถีชีวิตของแฟนเพลงผู้ใหญ่บ้าง

จังหวะที่คึกคักและเสียงร้องที่ทรงพลังของมารายห์ แคร์รี่ ซึ่งหาไม่ได้ในเพลงเทศกาลทั่วไป จึงตอบโจทย์แฟนเพลงได้อย่างดี

แม้ความโด่งดังของบทเพลงจะทำเงินให้อฟานาซีฟเป็นกอบเป็นกำ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะย้อนรอยความสำเร็จด้วยการแต่งเพลงแนวนี้อีก เพราะเขาไม่ต้องการให้การแต่งเพลงของตนถูกตีค่าเป็นแค่การหากำไรในเชิง ธุรกิจ สำหรับเขาแล้ว ความสำเร็จที่แท้จริงของการแต่ง All I Want for Christmas คือการมีส่วนร่วมในการมอบบทเพลงให้ผู้คนทั่วโลก ได้ใช้เพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเวลาสำคัญร่วมกัน

ความสุข คือสิ่งนามธรรมที่มนุษย์โหยหา และเทศกาลคริสต์มาสก็เป็นตัวกระตุ้นความสุขชั้นยอด ดังนั้นแล้วการหาเพลงมาฟังประกอบความสุขให้เป็นรูปร่างขึ้นคงไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพลงที่เปิดในเทศกาลแห่งความสุขที่มีเนื้อหาเต็มไปด้วยความสุขอย่างเพลง All I Want for Christmas จึงกลายเป็นเพลงติดหูคนทั่วโลก และมารายห์ แครี่ก็ยังคงโกยเงินเข้ากระเป๋าอย่างต่อเนื่องจากเพลงนี้ แม้โรคโควิด-19 จะส่งผลให้การจัดงานสังสรรค์รื่นเริงงดหลายแห่ง แต่เพลงนี้ยังฮิตแบบฉุดไม่อยู่อย่างที่เคยเป็นมาตลอด 26 ปี 

ที่มา 1 9