'Salt Bae' จากเด็กล้างจาน สู่เชฟที่เซเลบทั่วโลกอยากกระทบไหล่
ทำความรู้จักเชฟคนดังเจ้าของฉายา “ซอลต์เบ” (Salt Bae) ที่เหล่าเซเลบจากทั่วโลกแวะเวียนไปกระทบไหล่ไม่ขาดสาย แล้วอะไรทำให้เชฟมาดเข้มโด่งดังมาจนถึงวันนี้ และช่วงโควิด-19 ระบาด ธุรกิจของเขาได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
หากใครได้แวะไปลิ้มลองสเต็กที่หนึ่งในสเต็กเฮาส์สุดหรูของเชฟเน็ตไอดอล “ซอลต์เบ” แทบไม่ต้องเอ่ยปากขอให้เขาหั่นเนื้อด้วยลีลาเฉพาะตัวเลย เพราะเมื่อเข้าร้าน เชฟคนนี้จะปรุงเนื้อด้วยวิธีเดียวที่เขารู้จักคือ ใส่ความ “เซ็กซี่” ลงไปด้วย
เมื่อประมาณต้นปี 2560 “นูสเร็ต โกคเช” เชฟชาวตุรกีเจ้าของฉายาซอลต์เบคนนี้ โด่งดังชั่วข้ามคืนจากคลิปวิดีโอบนอินสตาแกรมที่เขาโชว์ลีลาแล่เนื้อและโรยเกลือที่ทั้งยียวนและยั่วยวนในเวลาเดียวกัน โดยใส่แคปชั่นว่า "Ottoman Steak"
- รูปจากอินสตาแกรม @nusr_et -
ที่น่าสนใจคือ เบื้องหลังเทคนิคน่าดึงดูดนี้มีเรื่องราวความสำเร็จที่เหลือเชื่อของเด็กชายคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวแรงงาน ซึ่งวาดฝันไว้ว่าจะเป็นเชฟให้ได้
เหล่าลูกจ้างในร้าน “Nusr-et Steakhouse” ของเชฟซอลต์เบในห้างสรรพสินค้าแกลเลอเรียที่กรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ต่างปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องประวัติความเป็นมาของร้าน ไม่ใช่เพราะมีคนห้าม แต่เพราะมีลูกค้าแห่เข้าร้านไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ซึ่งรวมถึงสมาชิกราชวงศ์ของยูเออี ทำให้พนักงานต้องคอยรับแขกตลอดเวลา
- จากเด็กล้างจานสู่เชฟระดับเซียน
โกคเช ซึ่งปัจจุบันอายุ 36 ปี เกิดในครอบครัวแรงงานเหมืองในเอร์ซูรุม เมืองชนบทของตุรกี เพื่อนของเขาคนหนึ่งบอกว่า โกคเชได้ไปทำงานเป็นเด็กล้างจานตอนเขายังหนุ่ม โดยต้องทำงานครั้งละหลายชั่วโมง แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อความฝันที่ต้องการจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง
เขาเริ่มต้นจากการผูกมิตรกับบรรดาลูกค้าท้องถิ่น และทดลองกับอาหารของเขาเอง เมื่อมีคนกลับมาอุดหนุนมากขึ้น พวกเขาก็จะขอให้โกคเชทำอะไรที่พิเศษให้เป็นการตอบแทน
- ตำนานจากเรื่องเล่าปากต่อปาก
นับถึงปี 2563 Nusr-et Steakhouse ซึ่งก่อตั้งในปี 2553 ขยายสาขาจาก 6 แห่งในปี 2560 เป็น 12 แห่งในตุรกี ยูเออี กาตาร์ ซาอุฯ กรีซ และสหรัฐ ซึ่งลูกค้าที่มาอุดหนุนจะได้กระทบไหล่บรรดาเซเลบมากหน้าหลายตาแทบทุกวัน
เมื่อได้ไปรับประทานมื้อค่ำที่ร้านอาหารแห่งใหม่ล่าสุดของเขา ลูกค้าจะได้เห็นโกคเชพิถีพิถันกับกับเนื้อของลูกค้าแต่ละคนมากกว่าที่เราเคยเห็นในวิดีโอ
ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโกคเชคือเสื้อยืดสีขาวกางเกงสีดำทรงเข้ารูป เขาทักทายกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง และมักเสิร์ฟและแล่เนื้อให้ลูกค้าถึงโต๊ะ ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าหลายคนมักหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นการโฆษณาให้ร้านของเขาไปในตัว
เมื่อไม่ได้ลงมาบริการลูกค้าเอง โกคเชก็จะไปมีส่วนร่วมกับแฟนคลับของเขาบนโซเชียลมีเดียเป็นประจำ และเขายังให้ผู้ติดตามส่วนตัวพกมือถือตลอดเวลาเพื่อสร้างคอนเทนท์ และตอนนี้บัญชีอินสตาแกรมของเขามีผู้ติดตามแล้วกว่า 32 ล้านคนแล้ว
- รสชาติเด็ดถูกปาก
เป็นที่รู้กันว่า โกคเชทำงานวันละ 18 ชั่วโมง ด้วยการลงมือตรวจและแล่เนื้อวัวที่ส่งทางเครื่องบินมาจากโรงเชือดที่เขาแวะไปดูด้วยตัวเองเป็นประจำ แม้กระทั่งขนมหวานอย่าง “บาคลาวา” ก็ยังนำเข้ามาจากตุรกีบ้านเกิด
ด้วยจำนวนบริกรกลุ่มเล็กของโกคเช ทำให้พวกเขาต้องให้บริการลูกค้าอย่างรีบเร่ง ซึ่งบริกรหลายคนไว้หนวดสไตล์ตุรกีดั้งเดิมจนทำให้นึกถึงยุคปกครองของมุสตาฟา เคมาลอาตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งประเทศตุรกีและประธานาธิบดีคนแรกสมัยต้นศตวรรษที่ 20 ขณะเดียวกัน ร้านอาหารแห่งนี้ยังอยู่ได้ด้วยกลิ่นของเนื้อหอมกรุ่นที่โชยมาจากห้องครัวที่เปิดโล่งของร้าน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งในเมนูจานเด็ดของเชฟโกคเชอย่าง “ซูชิเนื้อ” ที่ต้องปรุงข้างโต๊ะลูกค้าโดยใช้เครื่องพ่นไฟทำความร้อนเนื้อบนถาดไม้ และยังมีการพ่นไฟสูงหลายฟุตเกือบถึงเพดานร้าน ซึ่งผลสุดท้าย ก็ทำให้อาหารเด็ดจานนี้มีรสชาติไม่เหมือนใคร
ความอุ่นซึ่งทำให้เนื้อเกือบเหนียว ถูกเติมเต็มอย่างลงตัวด้วยก้อนเนื้อกรอบ ๆ ของเนื้อทอดส่วนที่ถูกแล่ออก และส่วนคล้ายไส้ซูชิสไตล์ญี่ปุ่น
- "สเต็ก สปาเก็ตตี้"
อีกเมนูที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “สเต็ก สปาเก็ตตี้” ที่ทำโดยการย่างเนื้อชิ้นยาวและบางอย่างรวดเร็วที่ข้างโต๊ะลูกค้า และให้บริกรใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้แบ่งเป็นคำ ๆ ซึ่งจุดเด่นของเมนูนี้คือเนื้อที่ชุ่มน้ำ สด และมีรสเผ็ดพอดี ๆ และเมื่อรับประทานก็แทบละลายในปาก
ความใส่ใจและความหลงใหลในรายละเอียดของโกคเชแสดงออกมาผ่านอาหารเกือบทุกจานที่เขาทำ
อาหารหลัก หรือเมนคอร์สในร้านของเชฟโกคเช มีราคาอยู่ที่ระหว่าง 60-200 ดอลลาร์ (ราว 1,800-6,000 บาท) ซึ่งเป็นราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่มากเกินกว่าราคามาตรฐานในยูเออี
ลูกจ้างเก่าแก่ในร้านคนหนึ่งบอกว่า เชฟโกคเชแต่งงานแล้ว แต่ไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิดกัน เพราะหมายถึงเชฟแต่งกับ “งาน” ของเขานั่นเอง นอกจากนี้ เขายังไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แต่ชอบออกกำลังกายให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม และโพสต์ลงสตอรี่อินสตาแกรมตัวเองอยู่เป็นประจำ
- ผลกระทบช่วงโควิด-19
ช่วงโควิด-19 ระบาดทั่วโลก ธุรกิจทุกภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า เช่นเดียวกับธุรกิจสเต็กเฮาส์ที่เชฟโกคเชก่อตั้งขึ้น หลังรายได้หดหายจนถึงขั้นต้องเจรจาเลื่อนชำระหนี้ธนาคาร
แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยกับบลูมเบิร์กเมื่อเดือน ต.ค. ว่า บริษัทโดกุส โฮลดิ้งส์ เอเอส ของมหาเศรษฐีตุรกีชื่อ “เฟริต ซาเฮงค์” ซึ่งลงทุนและถือหุ้นใหญ่ในร้าน Nusr-et Steakhouse กำลังเจรจาขั้นต้นกับกลุ่มธนาคาร หลังจากกระแสเงินสดร่อยหรอ เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19
แหล่งข่าวเผยว่า โดกุส โฮลดิ้งส์ เอเอส แจ้งกับกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้ว่าอาจผิดนัดชำระหนี้จำนวน 2,300 ล้านยูโร (ราว 84,620 ล้านบาท) ขณะที่กลุ่มบริษัทในอิสตันบูลก็ไม่ได้ออกมาชี้แจงใด ๆ จนถึงตอนนี้
เดือน เม.ย. 2562 โดกุส โฮลดิ้งส์ เอเอส ปรับโครงสร้างหนี้ผ่านเงินกู้ผ่อนชำระ 6 ปีกับธนาคาร 12 ราย และได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลก
ส่วนเรื่องการรับมือโควิด-19 ร้าน Nusr-et Steakhouse สาขาเมืองบอสตัน เคยถูกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐสั่งปิดเป็นเวลาหลายวันช่วงปลายเดือน ก.ย. หลังจากเปิดบริการโดยฝ่าฝืนมาตรฐานความปลอดภัยโควิด-19 ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งช่วงต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา
นับถึงเดือน พ.ค. ปีนี้ เจ้าของฉายา ซอลต์เบ มีมูลค่าความมั่งคั่งประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,500 ล้านบาท) และร้าน Nusr-et Steakhouse ของเขามีมูลค่าอยู่ที่ราว 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท)
---------------------
อ้างอิง: CNN, Bloomberg, Munchkinpress