‘เดวิด โบวี่’ กับเหรียญที่ระลึกจากห้วงอวกาศ
โรงกษาปณ์สหราชอาณาจักร ส่งเหรียญขึ้นสู่ห้วงอวกาศ จัดทำเป็นเหรียญที่ระลึกเพื่อเชิดชูเกียรติ “เดวิด โบวี่” (David Bowie) ในฐานะเจ้าของตำนานเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “อวกาศ” อันน่าพิศวง
รายงานข่าวจากกรุงลอนดอน ประเทศอังฤษ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ระบุว่า โรงกษาปณ์ สหราชอาณาจักร (The Royal Mint) ได้เปิดตัวเหรียญที่ระลึกรุ่นใหม่ เพื่อเชิดชูเกียรติของตำนานวงการเพลง เดวิด โบวี ไอคอนวงการดนตรีอันดับต้นๆ ของอังกฤษ เพื่อเป็นเกียรติแก่เพลงฮิตของเขาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอวกาศ ทั้งเพลง Starman, Life on Mars? และ Space Oddity
และยังเป็นครั้งแรกของสหราชอาณาจักร’ที่ส่ง ‘เหรียญเชิดชูเกียรติ’ ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
โรงกษาปณ์สหราชอาณาจักร ส่งเหรียญเชิดชูเกียรติ เดวิด โบวี ขึ้นไปกับบอลลูนทำระดับความสูงได้ 35,656 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงวงโคจรของดาวเทียม เหรียญนี้โคจรอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลกเป็นเวลา 45 นาที ก่อนที่จะลงสู่อังกฤษได้อย่างปลอดภัย
เดวิด โบวี (David Bowie) สร้างชื่อในวงการเพลงของโลกในฐานะนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลง ด้วยดนตรีและภาพลักษณ์ใหม่ๆ ในช่วงยุคทศวรรษปี 1970s และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีรุ่นหลังอีกหลายคน
ผลงานซึ่งเป็นที่ฮือฮาคือบทเพลงชื่อ Space Oddity ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 1969(พ.ศ.2512) โดย BBC หรือองค์การกระจายเสียงสาธารณะของสหราชอาณาจักร สั่งแบนเพลงนี้ทันทีที่ปล่อยออกมา
เดวิด โบวี ได้แรงบันดาลใจเขียนเพลงนี้หลังจากชมภาพยนตร์เรื่อง 2001 : Space Odyssey หนังปี 1968(พ.ศ.2511) ผู้กำกับสแตนลีย์ คูบริก สร้างหนังเรื่องนี้จากนิยายวิทยาศาสตร์ของ อาร์เทอร์ ซี.คลาร์ก เกี่ยวกับการเดินทางไปยังดาวเสาร์ของมนุษย์ในปีค.ศ.2001
หนังเรื่องนี้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลามในฐานะแบบฉบับของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์และเทคนิคพิเศษทางภาพ โดยเฉพาะฉาก ‘วานร’ โยนกระดูกขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วตัดภาพกลายเป็นยานกำลังสำรวจอวกาศ ถือเป็นฉากร่ำลือที่ทำให้เวลาผ่านไปอย่างน้อย 85 ล้านปีได้ในฉากเดียว
หนังได้รับรางวัลออสการ์ สาขา Visual Effects (ค.ศ.1968) และยังเป็นหนึ่งใน 10 ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลจากการสำรวจของ Sight & Sound ในปีค.ศ.2002
‘บีบีซี’ สั่งแบนเพลง Space Oddity ทันทีที่เดวิด โบวี ปล่อยเพลงนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2512 หรือห้าวันก่อนที่สหรัฐอเมริกามีกำหนดปล่อยยาน อพอลโล่ 11 ในวันที่ 16 กรกฎาคม เนื่องจากเนื้อหาเพลงนี้เขียนถึงกัปตันยานที่ถูกส่งขึ้นไปสำรวจอวกาศ แล้วขาดการติดต่อกับภาคพื้นดิน ในที่สุดตัวกัปตันก็หายสาปสูญไปในอวกาศ
นักวิจารณ์เพลงยุคนั้นบอกว่า เดวิด โบวี เขียนเพลงนี้ แค่เพียงต้องการเสียดสีความก้าวหน้าโครงการอวกาศของอังกฤษที่ไม่มีบทบาทเด่น ซึ่งเวลานั้นดูเหมือนจะเป็นการช่วงชิงกันแค่สองประเทศระหว่างสหรัฐอเมริกาและโซเวียต
แต่แฟนเพลงเห็นต่าง โดยบอกว่าจริงๆ แล้วกัปตันในบทเพลงที่หายตัวไปอย่างลึกลับในอวกาศก็คือตัว เดวิด โบวี ที่ผิดหวังกับความรักแค่นั้นเอง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ‘บีบีซี’ ก็ขอประกาศแบนเพลงนี้ไปจนกว่ายาน ‘อพอลโล่ 11’ จะเดินทางกลับถึงโลกสำเร็จ
บีบีซี แบนเพลง Space Oddity ได้ 13 วัน เมื่อ ‘อพอลโล่ 11’ เดินทางกลับถึงโลกอย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2512 หลังจากนั้นเพลงนี้ก็ทะยานเข้าสู่ ‘ท็อป 5’ ในชาร์ทซิงเกิลสหราชอาณาจักร ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของเดวิด โบวี ในฐานะนักประพันธ์เพลงและผู้แสดงเพลง
นอกจากนี้ นักบินอวกาศแคนาดา คริส ออสติน แฮดฟีลด์ (Chris Austin Hadfield) ยังนำเพลงนี้ขึ้นไปร้องพร้อมกับเล่นกีตาร์บนสถานีอวกาศนานาชาติในปีพ.ศ.2556 ถือเป็นมิวสิกวิดีโอเพลงแรกของโลกที่ถ่ายทำในห้วงอวกาศ
เหรียญเชิดชูเกียรติของเดวิด โบวี เป็นผลงานที่ 3 ในชุดเหรียญสะสม "Music Legends" ของโรงกษาปณ์สหราชอาณาจักร ถัดจากวงควีน (Queen) และเอลตัน จอห์น (Elton John) ผลงานเหรียญล่าสุดนี้เฉลิมฉลองตำนานวงการเพลงร็อค ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ภาพของเดวิด โบวี ที่ถ่ายตอนใช้ชีวิตและบันทึกเสียงที่เบอร์ลิน โดยมี ลายสายฟ้า อันเป็นสัญลักษณ์ของอัลบั้ม Aladdin Sane และสะท้อนให้เห็นเส้นทางอาชีพอันน่าจดจำของเขา
ลายสายฟ้าที่ว่านี้ปรากฏให้เห็นบนเหรียญรุ่นพิเศษ โดยใช้เทคโนโลยีและเทคนิคการผลิตสุดล้ำ จนทำให้ดูเหมือนมี ละอองดาว เพื่อสร้างเอฟเฟกต์แบบกลิตเตอร์ ซึ่งทำให้รายละเอียดบนเหรียญน่าตื่นตาตื่นใจ
เหรียญที่ระลึกรุ่นนี้เป็น เหรียญขัดเงา ผลิตขึ้นจากโลหะมีค่าและมีจำนวนจำกัด โดยเป็นเหรียญที่ไม่เคยหมุนเวียนและรักษาความมันวาวไว้ทั้งหมด ราคา 13 ปอนด์ 15 ปอนด์ และ 65 ปอนด์ มาพร้อมกล่องใส่พิเศษของโรงกษาปณ์ที่มีให้เลือก 5 แบบด้วยกัน เพื่อยกย่องเส้นทางอาชีพของไอคอนวงการเพลงอันดับต้นๆ ของอังกฤษ
โดยมีเพียงเหรียญเดียวที่ได้รับการส่งขึ้นไปโคจร ณ ห้วงอวกาศ สำหรับผู้ต้องการเป็นเจ้าของ โรงกษาปณ์สหราชอาณาจักรเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแบบฟอร์มในเว็บไซต์ www.royalmint.com/DavidBowie โดยสุ่มหาผู้โชคดี
"เรารู้สึกตื่นเต้นในการเปิดตัวเหรียญรุ่นที่ 3 ในชุด Music Legends ของทางโรงกษาปณ์ เพื่อเชิดชูเรื่องราวการเดินทางท่องอวกาศและเส้นทางอาชีพของเดวิด โบวี และเพื่อเป็นเกียรติแก่ซิงเกิลฮิตแรกของโบวีอย่าง Space Oddity แล้ว เราจึงอยากส่งเหรียญรุ่นนี้ขึ้นสู่อวกาศ และเฉลิมฉลองเจ้าของเพลง Starman ในรูปแบบอันบุกเบิกของเขาเอง โดยบทเพลงของเดวิด โบวี ได้สร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อนักดนตรีมาแล้วรุ่นสู่รุ่น และเราหวังว่าเหรียญที่ระลึกรุ่นนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนๆ ทั่วโลก" แคลร์ แม็คเคลนแนน ผู้อำนวยการแผนกเหรียญที่ระลึกประจำโรงกษาปณ์สหราชอาณาจักร กล่าว
รับชมเหรียญทั้งหมดในคอลเลกชันนี้ได้ที่เว็บไซต์โรงกษาปณ์สหราชอาณาจักร www.royalmint.com/DavidBowie
เดวิด โบวี เกิดในย่านบริกซ์ตัน ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน เมื่อปีพ.ศ.2490 มีชื่อตอนเกิดว่า เดวิด โรเบิร์ต โจนส์ (David Robert Jones) เมื่ออายุได้ 19 ปี เขาจึงเลือกใช้ชื่อ “เดวิด โบวี” และเริ่มเส้นทางอาชีพในวงการเพลงป็อป
หลังประสบความสำเร็จกับเพลง Space Oddity ในปีพ.ศ.2512 อีกสามปีต่อมาเดวิดทดลองงานใหม่ๆ โดยออกผลงานอีกครั้งในปีพ.ศ.2515 ในช่วงยุคแนวเพลงแกลมร็อก (Glam rock) กับอัลบั้มแห่งสีสัน Ziggy Stardust มีซิงเกิลฮิต Starman และอัลบั้ม The Rise and Fall of Ziggy Stardust and the Spiders from Mars
เดวิด โบวี มีซิงเกิลขึ้นอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักรอีกครั้งในปีพ.ศ.2523 ด้วยเพลง Ashes to Ashes ที่บรรจุอยู่ในอัลบั้ม Scary Monsters (and Super Creeps) ต่อมาในปีพ.ศ.2524 เขายังได้ร่วมงานเพลงกับวงร็อคชื่อดัง ควีน (Queen) ในซิงเกิล Under Pressure และเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ขึ้นอันดับหนึ่งของยูเคซิงเกิลชาร์ต
พ.ศ.2545 บีบีซีได้ออกแบบสำรวจในหัวข้อ “100 คนอังกฤษที่ยอดเยี่ยมที่สุด” ผลปรากฏว่า เดวิด โบวี ติดอยู่อันดับ 29
ตลอดระยะเวลาการเป็นนักร้อง เดวิด โบวี มีผลงานอัลบั้มขายได้ประมาณ 136 ล้านชุด และติดอยู่ในศิลปินอัลบั้มขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป็อปอังกฤษ, ในปีพ.ศ.2547 นิตยสารโรลลิงสโตน จัดอันดับให้ เดวิด โบวี ติดอยู่ในอันดับที่ 39 ในหัวข้อ “100 ศิลปินร็อกที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล”
เดวิด โบวีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559 หรือ 2 วันหลังจากอายุครบ 69 ปี ด้วยโรคมะเร็งตับ