เช็คให้ชัวร์ 'คนละครึ่ง' รอบเก็บตก ใครได้ vs ไม่ได้สิทธิ? ก่อนลงทะเบียน 20 ม.ค.นี้
เช็คให้ชัวร์ "คนละครึ่ง" รอบเก็บตก ใครได้ vs ไม่ได้สิทธิ? ก่อนลงทะเบียน 20 ม.ค.นี้
"คนละครึ่ง" มาตรการจากภาครัฐที่หลายคนจับตา นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิในมาตรการคนละครึ่งมาก่อน ทั้งในเฟสแรกและเฟส 2 เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2564 ได้สรุปสถิติจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนไปแล้วทั้งหมด 15 ล้านสิทธิ ทั้งสองเฟส ซึ่งพบว่ายังมีผู้ที่ไม่ได้ทำตามเงื่อนไขสำคัญของมาตรการคนคนละครึ่งอยู่จำนวนหนึ่ง นั่นคือการไม่ใช้สิทธิที่ได้รับภายในระยะเวลา 14 วัน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากครบกำหนดการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งเฟสที่สอง ในวันแรกเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อรวมกับยอดสิทธิคงเหลือจากเฟสแรก พบว่ามียอดผู้ใช้สิทธิรวมจำนวน 13.66 ล้านคน จากจำนวนที่เปิดให้สิทธิทั้งสองเฟส 15 ล้านคน ดังนั้นจึงเหลือสิทธิที่จะเปิดในรอบเก็บตก ซึ่งจะเปิดในปลายเดือนนี้ประมาณ 1.34 ล้านคน รับเงิน 3,500 บาท ในการซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง"
อย่างไรก็ตามมีการระบุไทม์ไลน์การลงทะเบียนและใช้สิทธิมาตรการ "คนละครึ่ง" รอบเก็บตก ไว้เบื้องต้นดังนี้
- วันที่ 19 มกราคม : กระทรวงการคลังจะมีเสนอ ครม. สำหรับขั้นตอนการใช้เงินกู้
- วันที่ 20 มกราคม : เปิดลงทะเบียน "คนละครึ่ง"
จำนวน 1.34 ล้านสิทธิ จนกว่าจะเต็มจำนวน ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
- วันที่ 25 มกราคม : เริ่มใช้สิทธิคนละครึ่งได้วันแรก
ข่าวที่น่าสนใจ :
ทั้งนี้คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิลงทะเบียนมาตรการ "คนละครึ่ง" รอบเก็บตกในครั้งนี้ ได้แก่
1.ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน และเป็นบุคคลสัญชาติไทย
2.อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3.ไม่เคยได้รับสิทธิมาตรการคนละครึ่งมาก่อน
4.ไม่เคยได้รับสิทธิมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน
5.หากเคยลงทะเบียนแล้วในรอบที่ผ่านมา แล้วไม่ได้รับ OTP ยืนยันตัวตนทำให้ชวดสิทธิครั้งก่อน ครั้งนี้สามารถลงทะเบียนได้อีก
6.ผู้ที่เคยได้รับสิทธิในมาตรการคนละครึ่งมาก่อน แต่ใช้สิทธิไม่ทัน ก็สามารถลงทะเบียนในรอบเก็บตกนี้ได้
อย่างไรก็ตามหากมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น จะไม่เข้าเกณฑ์มาตรการ ซึ่งยังสามารถมองหามาตรการของรัฐอื่นๆ ต่อไป เช่น มาตรการ "เราชนะ" หรือมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ ภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ส่วนลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ฯลฯ
ทั้งนี้เงื่อนไขการใช้สิทธินั้น จะยังคงเป็นไปในลักษณะเดิม คือ รัฐจะช่วยจ่าย 50% และผู้มีสิทธิจ่ายเอง 50% โดยรัฐจะช่วยจ่ายไม่เกินวันละ 150 บาท หรือรวมทั้งมาตรการไม่เกิน 3,500 บาท โดยการใช้จ่ายต้องเติมเงินเข้าแอพพลิเคชั่นเป๋าตังไว้สำหรับใช้จ่ายกับร้านค้าผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงิน
อีกทั้งต้องตอกย้ำเงื่อนไขสำคัญคือ เมื่อลงทะเบียนมาตรกคนละครึ่งแล้ว และได้รับ SMS ยืนยันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดให้ใช้สิทธิ ต้องรีบใช้สิทธิภายใน 14 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิทันที