ศูนย์ฯ 'บูลพอร์ต หัวหิน' เปิดจุดเช็คอิน ไหว้พระขอพร 'พระนาคปรก' สู่เศรษฐกิจและโรคภัย
ศูนย์การค้าบูลพอร์ต หัวหิน เปิดจุดเช็คอิน "พระนาคปรก" ขนาด 3 เมตร พร้อมเตรียมพวงมาลัยให้นักท่องเที่ยว กราบขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคล เป็นกำลังใจให้คนไทยรอดพ้นวิกฤติโควิดและเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าศูนย์การค้าบูลพอร์ต หัวหน้า ได้มีประชาชนชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมากราบสักการะ "พระนาคปรก" เพื่อขอความเป็นศิริมงคล เป็นจำนวนมากจนกลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของเมืองหัวหิน เพียงระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ “สมเด็จธงชัย” วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ได้อัญเชิญ "พระนาคปรก" มาประดิษฐานที่ศูนย์การค้าบูลพอร์ต หัวหิน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา
ดังนั้น ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ ทางศูนย์การค้า บูลพอร์ต หัวหิน ได้จัดเตรียมพวงมาลัยดอกดาวเรืองไว้ให้ประชาชนชาวหัวหิน และนักท่องเที่ยวได้กราบขอพร เพื่อความเป็นศิริมงคล และจัดตู้บริจาคสำหรับทำบุญร่วมกับศูนย์การค้าฯ ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นายธนายุทธ์ วุฒิฉัตร์ธนัญ อายุ 40 ปี บอกว่า ผมมาเที่ยวหัวหิน ขับรถผ่านศูนย์การค้าบูลพอร์ต เห็นองค์ท่านเด่นสง่างามมาก อดขับรถเข้ามากราบขอพรไม่ได้
"ผมตั้งจิตอธิษฐานขอให้เจริญในหน้าที่การงาน ขอให้ผู้ใหญ่เมตตา ขอให้ครอบครัวมีความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอให้โควิดหมดไป ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ให้ประเทศชาติสงบสุขครังงบ"
เช่นเดี่ยวกับนางบุญยานุช ณ น่าน อายุ 37 ปี บอกว่ามากราบขอพร "พระนาคปรก" ขอให้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอให้ครอบครัวมีความสุข ขอให้โควิดไปเร็วๆ ให้มีโชคลาภ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศในบ่ายวันนี้ ที่หน้าศูนย์การค้าบูลพอร์ต หัวหิน ได้มีนักท่องเที่ยวนำบายศรี พวงมาลัยดอกไม้ พร้อมผลไม้ ขนมหวาน มากราบขอพร "พระนาคปรก" เป็นการส่วนตัว เพื่อความเป็นศิริมงคล ในขณะเดี่ยวกันก็มีประชาชนเดินทางมากราบขอพรตลอดทั้งวัน
ทั้งนี้ "พระนาคปรก" หรือ "พระพุทธมหานวนาคปฏิมากร" องค์นี้ จัดสร้างขึ้นในปี 2563 มีขนาดหน้าตัก 32 นิ้ว สูง 3.10 เมตร ใหญ่ที่สุดประดิษฐานไว้หน้าศูนย์การค้าบูลพอร์ต โดยมีองค์ต้นแบบมาจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ "สมเด็จธงชัย" วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่ได้เคยจัดสร้างและทำพิธีมหาพุทธาภิเษก “พระพุทธมหานวนครปฏิมากร” ขนาด 5.5 นิ้ว สูง 8 นิ้ว เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2541 ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม เนื่องจากในช่วงปี 2540-2541 เศรษฐกิจประเทศไทยมีปัญหาโดน IMF ยึด ต้องการปลดหนี้ให้ไทยเป็นเอกราช ปลดพันธนาการออกไปให้ได้ โรคภัยไข้เจ็บต้องหาย ร่างกายแข็งแรง และทำให้ประเทศเกิดความร่มเย็น ประชาชนมีความสุขกาย สุขใจในภาวะวิกฤตอย่างนี้ สมเด็จธงชัย จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขต่อประชาชนและประเทศชาติ
ประวัติความเป็นมา "พระนาคปรก" ครั้นพระพุทธองค์เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ร่มไม้อชปาลนิโครธสิ้น 7 วันแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขยังร่มไม้จิก อันมีชื่อว่า “มุจลินท์” ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศอาคเนย์ของต้นพระศรีมหาโพธิ แต่บังเอิญวันนั้นเกิดมีฝนตกพรำอยู่ไม่ขาดสายตลอด 7 วัน พญานาคมุจลินท์ผู้เป็นราชาแห่งนาคได้ออกจากนาคพิภพ ทำขนดล้อมพระวรกาย 7 ชั้น แล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเบื้องบนเหมือนกั้นเศวตรฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย
ครั้นฝนหายขาดแล้ว พญามุจลินท์นาคราชจึงคลายขนดจากที่ล้อมพระวรกายพระพุทธเจ้า จำแลงเพศเป็นมาณพน้อยยืนทำอัญชลีถวายนมัสการพระพุทธองค์ ในที่เฉพาะพระพักตร์ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเปล่งอุทานว่า
"สุโข วิเวโก ตุฏฐสฺส สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต
อพฺยาปชฺชํ สุขํ โลเก ปาณภูเตสุ สญฺญโม
สุขา วิราคตา โลเก กามานํ สมติกฺกโม
อสฺมิมานสฺส วินโย เอตํ เว ปรมํ สุขํ"
คือ ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้ว รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความเป็นคนไม่เบียดเบียน คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลายและความเป็นคนปราศจากความกำหนัด คือ ความก้าวล่วงกามทั้งปวงเสียได้เป็นสุขในโลก ความนำออกเสียซึ่งอัสมิมานะ คือ ความถือตัวตนให้หมดได้นี้เป็นสุขอย่างยิ่ง พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข ภายในวงขนดของพญามุจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกายอยู่นี้เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นมาเรียกว่า “ปางนาคปรก”