'ถั่งเช่า' กินแล้วเสี่ยง 'ไตวาย' จริงไหม? เปิดมุมมองแพทย์แผนจีน
หลายคนยังสงสัยในสรรพคุณ 'ถั่งเช่า' สรุปว่าเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ หรือเป็นหนอนตัวร้ายทำลายไตกันแน่? ลองมาดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก ดร.พจ.รัทธวรรณ วงศ์ปัทมเจริญ แพทย์แผนจีน เฉพาะทางด้านมะเร็ง
ยังเป็นกระแสแรงต่อเนื่องสำหรับ "ถั่งเช่า" ที่ตอนนี้หน่วยงานภาครัฐของไทยตรวจสอบพบว่า มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงอยู่หลายแบรนด์ นำมาสู่การกวดขัน ตรวจสอบ และดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมายกันมากมายในขณะนี้ ในส่วนของผู้บริโภคเอง (โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ) ก็พบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อการตลาดของบรรดาผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริม" ผสม "ถั่งเช่า" อยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน
อีกทั้ง จากกระแสการตรวจสอบโฆษณาเกินจริงของอาหารเสริมดังกล่าว ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจสมุนไพร "ถั่งเช่า" มากขึ้น และอยากรู้ว่าจริงๆ แล้ว ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ หรือเป็นหนอนตัวร้ายที่ทำให้ "ไตวาย" กันแน่? เรื่องนี้มีข้อมูลอีกด้านหนึ่ง จากแพทย์แผนจีนอย่าง ดร.พจ. รัทธวรรณ วงศ์ปัทมเจริญ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ค "หมอแนน แพทย์จีน TCM" มาอธิบายให้ทราบเพิ่มเติม ดังนี้
ดร.พจ. รัทธวรรณ วงศ์ปัทมเจริญ ปริญญาเอกสาขาอายุรกรรมภายใน การแพทย์ผสมผสานแผนจีนและแผนปัจจุบัน เฉพาะทางด้านมะเร็ง คณะแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยเหลียวหนิง ประเทศจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ‘ถั่งเช่า’ ต้องรู้! สรรพคุณดีต่อ ‘สุขภาพ’ จริงหรือหลอก?
- จาก ‘กาละแมร์’ ถึง 'ถั่งเช่า' ต้องรู้ทัน! อาหารเสริมแบบไหน ‘โฆษณาเกินจริง’
- 'กสทช.-อย.' จับมือฟันโฆษณาเกินจริง - ลงดาบ 'ถั่งเช่า'อวดอ้างสรรพคุณเป็นยา
- เรื่องต้องรู้! เกี่ยวกับ "ถั่งเช่า"
1. "ถั่งเช่า" เป็นยาจีนจริงๆ
ถั่งเช่า เป็นสมุนไพรจีนที่แพทย์แผนจีนมีการใช้เป็นยาจริงๆ โดยเรียกว่า "ตงฉงเซี่ยเฉ่า" (冬虫夏草) หรือบางคนเรียก ตังถังเช่า/ตังถังแห่เช่า/หญ้าหนอน ซึ่งลักษณะของถั่งเช่านั้น เป็น หนอน+เห็ด พบตามเทือกเขาสูงแถบทิเบต ชิงห่าย ยูนาน กานซู อยู่สูง 10,000-12,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล เกิดจากการที่หนอนผีเสื้อ หนีหนาวไปจำศีลใต้หิมะ และถูกเห็ดเกาะกิน จนสุดท้าย เห็ดก็เจริญเติบโตงอกออกมาจากตัวหนอน
2. การเก็บ "ถั่งเช่า" ต้องมีใบอนุญาต
สำหรับผู้ที่มีอาชีพเก็บ "ถั่งเช่า" ต้องขึ้นไปขุดหา "หญ้าหนอน" ที่อยู่ใต้หิมะ โดยคนเก็บถั่งเช่าต้องมีใบอนุญาตถึงจะขึ้นไปเก็บได้ อีกทั้งต้องเป็นคนที่มีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงพอในการไปเก็บ เนื่องจากอยู่บนเทือกเขาสูง อากาศหนาว ระดับออกซิเจนในอากาศน้อยกว่าปกติ
3. ถั่งเช่า VS เห็ดถั่งเช่า ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน!
เห็ดถั่งเช่าสีทองเป็น "ดอกเห็ด" ไม่มีส่วนของตัวหนอน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า "Cordyceps militaris" แต่สำหรับถั่งเช่าที่เป็น "หนอน+เห็ด" นั้น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า "Cordyceps sinensis" ซึ่งแตกต่างกัน แม้จะอยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่เป็นคนละสปีชี่ อีกทั้งสรรพคุณก็คล้ายกัน สารสำคัญคล้ายกัน แต่ว่ามีความแตกต่างกันที่ "ฤทธิ์ยา"
- ถั่งเช่า (หนอน+เห็ด) : เป็นยา มีฤทธิ์อุ่นร้อน
- เห็ดถั่งเช่า (ดอกเห็ด) : เป็นอาหาร ฤทธิ์กลาง ใช้ปรุงเป็นอาหาร เช่น ต้มซุป ผัดผัก ชงชา มีทั้งแบบสดและแบบแห้ง
"เห็ดถั่งเช่า" สามารถเพาะได้ในโหลแก้ว ลักษณะเป็นดอกเห็ดยาวๆ สีเหลือทอง ไม่มีส่วนของตัวหนอน ใช้ปรุงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
5. ถั่งเช่าธรราชาติ ราคาแพงมาก!
ถั่งเช่า (หนอน+เห็ด) ที่ขึ้นตามธรรมชาติ ราคาแพงมากๆ ประมาณกิโลกรัมละ 700,000-1,000,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเกรด หากลดปริมาณลงมา 1 กรัม ก็ราคาอยู่ที่ประมาณ 700-1,000 บาท ซึ่งจะมีหลายเกรด เช่น เกรดแบบ 1 กรัม 2 ตัว / เกรดแบบ 1 กรัม มี 3 ตัว / เกรดแบบ 1 กรัม มี 4 ตัว / เกรดแบบ 1 กรัม มี 5 ตัว เป็นต้น
6. ถั่งเช่าเป็นยาจีนพลังหยาง
แพทย์แผนจีนใช้สมุนไพร "ถั่งเช่า" ในหมวดบำรุงพลังหยาง (补阳药) เข้าเส้นลมปราณไตและปอด (入肾&肺 经) มีสรรพคุณบำรุงพลังหยางของไตและปอด หยุดเลือด สลายเสมหะ เอาไว้ใช้รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ในกรณีที่เกิดจากอาการปวดเอว ปวดเข่า ขาไม่มีแรง (阳痿 腰膝酸软) ที่มาจากพลังหยางของไตน้อย (肾阳虚) เช่น เป็นคนขี้หนาว แขนขาเย็น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกลางดึก ปัสสาวะใสๆ ปวดเอวปวดเข่าเรื้อรัง
ดังนั้น.. ถ้าเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเครียด การติดขัดของลมปราณและเลือด ก็จะไม่ได้ช่วยโดยตรง
และรักษาอาการไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือดค่ะ (久咳 咳血) จากวัณโรคปอด จากมะเร็งปอด จากภาวะร่างกายขาดพลังหยาง เพราะฉะนั้น ก่อนจะใช้สมุนไพร "ถั่งเช่า" ต้องให้หมอจีนตรวจก่อน และให้หมอจีนเป็ฯคนสั่งจ่ายยาเท่านั้น ห้ามซื้อใช้เอง
"ถั่งเช่า" ลักษณะเป็นหนอนที่มีเห็ดเจริญเติบโต และงอกออกมาจากตัวหนอน มีฤทธิ์เป็นยา
- จีนประกาศควบคุมการขาย "ถั่งเช่า" จริง!
ประเทศจีนมีการออกประกาศ ดูแลควบคุมการขาย "ถั่งเช่า" จริง!! ซึ่งมี 2 ประเด็น คือ
(1) ให้ควบคุมการขายถั่งเช่าว่า "เป็นยาจีน" ไม่ใช่อาหาร ถ้าอยากทาน ต้องให้หมอเป็นคนจ่าย (ไม่ได้ตัดออกจากการเป็นยา แต่ตัดออกจากการเป็นอาหาร)
(2) ให้ควบคุมการผลิตการวางขายให้เคร่งครัด เนื่องจากตรวจพบ โลหะหนัก, สารหนูปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
- "ถั่งเช่า" กินแค่ไหนถึงปลอดภัย?
ต้องดูที่ "ปริมาณการกิน" ถ้าทานเป็นแบบตัวๆ ไม่ควรเกิน 3-9 กรัม หากทานแบบสารสกัดต้องระวังเรื่องปริมาณให้ดี ว่าเมื่อสกัดออกมาแล้วเทียบเท่าตัวยาจริงเท่าไหร่ หากทานปริมาณมากเกินไปก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย อีกทั้งยังมียาจีนอีกเยอะแยะมากมายที่มีสรรพคุณเหมือน "ถั่งเช่า" ที่ช่วยบำรุงพลังหยางของไตและปอด ไม่จำเป็นต้องกินแต่ถั่งเช่าเสมอไป
อีกอย่างคือ ถั่งเช่ามีฤทธิ์อุ่นร้อน หากคนที่ร่างกายร้อนอยู่แล้ว พอกินถั่งเช่าเข้าไปก็จะยิ่งร้อน โดยเฉพาะเมืองไทยที่มีอากาศร้อนมากๆ แบบนี้ หากกินเกินปริมาณกำหนด ก็อาจส่งผลอันตรายได้ หรือคนไข้ที่เป็น ความดัน เบาหวาน ก็อาจไม่เหมาะเช่นกัน ทางแผนจีนบอกว่าร่างกายออกไปทางร้อน ถ้าหาซื้อทานเอง ก็จะไม่เหมาะกับร่างกาย วิธีการทานยาจีนที่ดีคือทานเป็นตำรับ ต้องให้หมอจีนตรวจก่อนทุกครั้ง เพราะหมอจะได้สามารถจ่ายยาเป็นตำรับให้เหมาะกับร่างกายของคนๆ นั้นได้
- "ถั่งเช่า" ทำให้ "ไตวาย" จริงมั้ย?
จริงๆ แล้ว ถั่งเช่า ไม่ได้ทำให้ "ไตวาย" ในตำรายาจีน สมุนไพรตัวนี้จะช่วยบำรุงพลังหยางของไต แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ต้องให้หมอตรวจร่างกายและจ่ายยาให้เท่านั้น ที่จีนมีผลวิจัยทั้งในสัตว์ทดลอง และในคนไข้ ว่าตัวถั่งเช่าช่วยเรื่องการทำงานของไตได้ แต่ที่มีการตรวจพบว่า "ถั่งเช่า" ส่งผลต่อการทำงานของ "ไต" อาจจะเป็นเพราะ
1. กินในปริมาณที่ไม่เหมาะสม
ปกติถั่งเช่าแบบแคปซูลที่จดเป็นยาที่จีน หมอจีนที่ รพ. จะเป็นคนจ่ายยาให้ หาซื้อเองไม่ได้ หมอจะต้องประเมินก่อนว่าเหมาะสมกับร่างกายคนไข้หรือไม่ และควรใช้ในปริมาณเท่าไหร่ แพทย์แผนจีนใช้กันตามแผนกโรคไต แผนกโรคมะเร็ง
2. ถั่งเช่าแพงมากๆ ขึ้นตามเทือกเขาทิเบต เก็บยาก หายาก ราคาสูง เลยมีคนขายถังเช่าแบบผงที่ชั่งน้ำหนักขาย แล้วผสมโลหะหนักเข้าไป เพื่อเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มราคาค่ะ อันนี้จึงไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากๆ สามารถส่งผลเสียต่อร่างกาย และต่อการทำงานของไตได้
- ข้อควรระวัง :
ยาที่ดีที่สุด ไม่ใช่ยาที่แพงที่สุด แต่เป็นยาที่เหมาะกับร่างกายของเรามากที่สุด ก่อนจะกินถั่งเช่าแบบสารสกัดหรือแบบอาหารเสริม ต้องดูให้ดี
- ถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด คนที่ทานยาละลายลิ่มเลือดไม่ควรทาน เพราะอาจเกิดอันตรายได้ และไม่ควรหยุดยาละลายลิ่มเลือดเอง
- ถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดความดัน ลดน้ำตาลในเลือด ถ้าคนไข้ซื้อมาทานเอง อาจเกิดอาการความดันต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ หน้ามืด ใจสั่นวูบได้
- ในคนไข้แพ้ภูมิตัวเอง ถั่งเช่าอาจจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันมากเกินไป บางรายอาจกระตุ้นทำให้อาการกำเริบได้
--------------------
อ้างอิง :