‘ถ้าอยากมีโชค เราต้องเชื่อในโชค’
‘ฌาคส์ อารเปลส์’ พูดไว้ว่า ‘ถ้าอยากมีโชค เราต้องเชื่อในโชค’ สื่อความหมายถึงโชคชะตาและเครื่องหมาย หรือ ‘สัญลักษณ์นำโชค’ อันเป็นหนึ่งในแนวทางการออกแบบของเครื่องประดับ ‘แวน คลีฟ แอนด์ อารเปลส์’
แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งมา 124 ปี แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ (Van Cleef & Arpels) โดย Alfred Van Cleef กับพ่อตา Salomon Arpels ปัจจุบันสืบทอดถึงรุ่นหลาน โดย ฌาคส์ อารเปลส์ หลานชายของ เอสแต็ล อารเปลส์ (Estelle Arpels ภรรยาของ Alfred) ก็มีความเชื่อเรื่อง “โชคชะตาและเครื่องหมาย” และ สัญลักษณ์นำโชค ที่ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการออกแบบเครื่องประดับ โดยเชื่อว่ามีบทบาทในการชี้นำและเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานอันโด่งดัง สืบทอดต่อกันมาหลายรุ่น
ชาวตะวันตกก็มีความเชื่อหรือโชคชะตาและสัญลักษณ์นำโชค ไม่น้อยไปกว่าชาวเอเชีย โดยเฉพาะเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ Van Cleef & Arpels ออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษฉลองปีวัวทอง 2564 เพื่อเสริมความสุขและความโชคดี ผ่านเสน่ห์แห่งงานดีไซน์อันน่าหลงใหลประจำเมซง ได้แก่คอลเลคชั่น Alhambra, Perlée และ Lucky Animal ซึ่งสามารถจับคู่สอดคล้อง ส่องประกายสุกสว่างซึ่งกันละกันอย่างกลมเกลียว เสริมพลังความเป็นสิริมงคลแลอันโดดเด่นตลอดทั้งปี ด้วย สีแดง สีทอง ที่ชาวจีนเชื่อว่า สีแดง เป็นสีแห่งโชคลาภ ความสมบูรณ์พูนสุข ความเข้มแข็ง ส่วน สีทอง ช่วยส่งเสริมอำนาจ วาสนา ให้มีความเจริญรุ่งเรือง
ถ้าอยากมีโชค เราต้องเชื่อในโชค เป็นคำพูดติดปากของ ฌาคส์ อารเปลส์ โดยนำเสนอเครื่องประดับนำโชค เริ่มที่คอลเลคชั่น Alhambra (อัลลองบรา) ซึ่งถือกำเนิดครั้งแรกในปี ค.ศ.1968 ในรูปของสร้อยคอยาว ขึ้นตัวเรือนโดยใช้ทองสีเหลือง พร้อมแผ่นโมทีฟสัญลักษณ์ ใบโคลเวอร์ สี่แฉก (ชาวตะวันตกเชื่อว่าใบโคลเวอร์สื่อถึงความโชคดี) เดินขอบรายรอบด้วยจุดไข่ปลาเรียงร้อยกันอย่างสละสลวย กลายเป็นจุดเริ่มต้นตำนานเครื่องประดับนำโชค ผลงานประจำเมซงอย่างไร้ที่ตินับแต่นั้นเป็นต้นมากว่า 5 ทศวรรษ ที่เมซงยังคงนำเสนอดีไซน์เหนือกาลเวลา ผ่านความเป็นเลิศของทักษะความชำนาญการเหนือชั้น
แม้เมื่อเวลาผ่านไปเมซงยังคงเติมเต็มคอลเลคชั่นด้วยการสรรหาวัสดุใหม่ ๆ มาสร้างสรรค์ผลงาน ที่แสดงให้เห็นถึงความลื่นไหลและความสง่างามของการออกแบบ เพื่อให้เป็นปีแห่งความเจริญรุ่งเรือง เมซงนำเสนอเทคนิคสลักลายเส้นแนวคลื่นรัศมีของดวงตะวัน ที่เรียกว่า “กิโยเช่” (guilloché) มาใช้ทวีประกายเรืองรองให้แก่แผ่นโมทิฟทองคำสีเหลือง สลับด้วยเพชรน้ำงามประกายระยิบระยับ หรือจะเป็นคาร์เนเลียน (Carnelian) สีแดงอมส้ม สีโทนอุ่นที่หมายถึงความรื่นเริงและความสุข โดยคาร์เนเลียน คือหินมีค่าชนิดแรกที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับตั้งแต่สมัยครีตก่อนกรีก ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอเส้นยาว สร้อยข้อมือ Vintage Alhambra แหวน และนาฬิกา
คอลเลคชั่น Perlée (แปรเล) นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ใหม่ อ้างอิงถึงรูปทรงที่เกิดจากเม็ดกลมมนที่เรียงร้อยเป็นเส้นยาว เคร่งครัดกับขนบดั้งเดิมของเมซง เป็นผลงานที่แสดงถึงการผสมกลมกลืนกันของความบอบบางและความโดดเด่นสะดุดตา เป็นเครื่องประดับที่เหมาะสำหรับทุกวาระด้วยการผสมผสานหินสีแดงคาร์เนลียนล้ำค่า อาทิ แหวนระหว่างนิ้ว (Between the Finger™ Rings) ต่างหูที่เข้าชุด กำไลข้อมือ ด้วยการใช้เส้นทรวดทรงโค้งมนกลมกลึง ทำให้เครื่องประดับแต่ละชิ้น สามารถนำมาสวมใส่ร่วมกันได้หลากสไตล์
คอลเลคชั่น Lucky Animal ต้อนรับปีใหม่จีน สะท้อนถึงความเมตตาอาทรที่ธรรมชาติมีให้แก่มวลมนุษย์ ได้แก่ เข็มกลัดรูปแมว นกพิราบ และเม่น ฝูงสัตว์อัญมณี ซึ่งเมซงได้วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในระหว่างทศวรรษ 1950 ท่ามกลางความน่ารักน่าเอ็นดูนั้นประกอบตกแต่งด้วยอัญมณี อาทิ ดวงตาดำขลับทำจากนิลกาฬ แผ่นแม่มุกเรืองรองประดับพลอยเนื้อแข็งบนงานฝังขึ้นตัวเรือนสุดวิจิตร และลูกปัดทองที่ใช้เดินขอบเป็นกรอบรอบตัวเรือน
วางจำหน่ายที่ Van Cleef & Arpels บูติค ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม ชั้น G และป๊อปอัพ บูติค ชั้น M สยามพารากอน