'The Man Standing Next' หนังความหวังออสการ์เรื่องใหม่ของเกาหลี

หลังจากที่ 'Parasite' สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นภาพยนตร์เกาหลีใต้เรื่องแรกที่คว้ารางวัลออสการ์มาครองได้มากถึง 4 ตัว เมื่อปีที่แล้วในสาขา ‘ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ หรือ Best Picture ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่สุดบนเวที, รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (บงจุนโฮ), รางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม และรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม

พอมาในปี 2564 อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่มีขนาดใหญ่โต สร้างหนังหลากหลาย และมีคุณภาพออกมาเป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี ก็ไม่ขาดแคลนหนังที่จะส่งไปชิงชัยในเวทีระดับโลก แม้จะเป็นช่วงโควิดที่ทำให้วงการหนังซบเซาทั่วโลกก็ตาม โดยหนังเรื่องล่าสุดที่พวกเขาฝากความหวังเอาไว้บนเวที ‘Oscar 2021’ ก็คือภาพยนตร์เรื่อง 'The Man Standing Next'

‘The Man Standing Next’ เป็นหนังการเมืองแนวทริลเลอร์ ผลงานของผู้กำกับ Woo Min-ho ที่หยิบยกเอาเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์เกาหลีมานำเสนอในแง่มุมใหม่ นั่นคือ การลอบสังหารอดีตผู้นำเผด็จการ ปักจุงฮี เมื่อปี 1979 โดยมือขวาของเขา นาย Kim Jae-gyu ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางแห่งชาติ (KCIA) อยู่ ณ ขณะนั้น

ผู้กำกับ Woo ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว UPI เอาไว้ว่า เขาอยากหยิบยกเอาเหตุการณ์ลอบสังหาร ‘ปักจุงฮี’ มาทำเป็นหนังตั้งแต่ได้อ่านหนังสือเบสต์เซลเลอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ในยุค 90 โน่น โดยหนังสือเล่มที่เขาอ่านมีชื่อว่า The Directors of Namsan ประพันธ์โดยนักข่าว Kim Choong-sik

“เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลียุคใหม่ แต่มันกลับถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น (The President's Last Bang, 2005) ผมเลยรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้ควรจะถูกนำกลับมาตรวจสอบกันใหม่ในหลาย ๆ แง่มุม” ผู้กำกับ Woo กล่าว

The Man Standing Next ดัดแปลงมาจากหนังสือเล่มที่ผู้กำกับ Woo อ่านสมัยเรียนนั่นเอง มันพูดถึงเหตุการณ์ในช่วง 40 วันก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีปักจุงฮีจะถูกลอบสังหาร โดยตัดไปมาตั้งแต่กรุงวอชิงตันดีซี ไปจนถึงกรุงปารีส และกรุงโซล แสดงให้เห็นถึงการแก่งแย่งอำนาจที่นำมาสู่จุดจบอันนองเลือด

ตัวเอกของเรื่องคือนาย Kim Jae-gyu ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง KCIA ที่ในหนังใช้ชื่อว่า Kim Kyu-pyeong นำแสดงโดยนักแสดงคุณภาพ อีบยองฮอน (Lee Byung-hun) ที่ไปโลดแล่นอยู่ในฮอลลีวู้ดมาเป็นเวลานาน ได้เล่นหนังมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น G.I. Joe: The Rise of Cobra และ The Magnificent Seven

สำหรับแรงจูงใจในการลอบสังหารประธานาธิบดี ‘ปักจุงฮี’ นั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาที่ไม่ได้รับการคลี่คลาย มีทั้งข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากการบันดาลโทสะเลยพลั้งมือลงไปโดยไม่ตั้งใจ การแก่งแย่งอำนาจกันเองภายใน หรือแม้แต่เรื่องที่ว่าซีไอเออยู่เบื้องหลังเพราะกลัวว่า ปักจุงฮี จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ในส่วนของหนัง ‘The Man Standing Next’ เองก็ไม่ได้ให้ข้อสรุปเอาไว้ว่าอะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้นายคิมลั่นไกสังหารประธานาธิบดีผู้อื้อฉาวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 1979 เช่นกัน

ผู้กำกับ Woo บอกว่าในเกาหลีใต้ คนส่วนใหญ่จะมองนาย Kim Jae-gyu ในสองมุมที่ต่างกัน โดยฝั่งหนึ่งมองว่าเขาเป็นคนกระหายอำนาจและอิจฉาประธานาธิบดีปักจุงฮี ส่วนอีกฝั่งหนึ่งมองเขาเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตยที่สังหารผู้นำเผด็จการเพื่อคนส่วนใหญ่

“แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าเขาเป็นคนที่มีความซับซ้อนเอามากๆ”

เมื่อครั้งที่เข้าฉายในบ้านเกิดของตัวเองตอนต้นปี 2563 ก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดรุนแรง The Man Standing Next มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจนทำรายได้ติดอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศ แต่สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้อินกับประวัติศาสตร์เกาหลีใต้เหมือนคนท้องถิ่นนั้น ผู้กำกับ Woo เชื่อว่าธีมของการแก่งแย่งอำนาจ และการทรยศหักหลังกันน่าจะสื่อถึงผู้ชมต่างชาติได้เช่นกัน

“ถึงแม้ว่าเนื้อหาของ The Man Standing Next จะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เกาหลีซึ่งผู้ชมต่างชาติอาจไม่คุ้นเคย แต่เรื่องราวมือขวาลอบสังหารผู้นำที่อยู่ในอำนาจน่าจะเป็นที่คุ้นเคยกันดีในวัฒนธรรมตะวันตก อย่างเรื่องของบรูตัสกับซีซาร์ แล้วความสนใจในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองก็มีเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้การเมืองกำลังเป็นเรื่องใหญ่ในอเมริกา” ผู้กำกับ Woo กล่าว

ขณะที่นาย Kim Choong-sik ผู้แต่งหนังสือ The Directors of Namsan ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังเรื่องนี้ได้ให้ความเห็นว่านาย Kim Jae-gyu (คนลอบสังหารปักจุงฮี) ไม่ใช่ทั้งวีรบุรุษและวายร้าย – แต่เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างนั้น

ซึ่งความซับซ้อนของเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติเกาหลีเลือก The Man Standing Next เป็นตัวแทนเข้าชิงรางวัลออสการ์ที่จะมีการประกาศผลในวันที่ 25 เมษายน (ตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 26 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย) โดยบอกว่ามันเป็น “ภาพยนตร์ที่น่าสนใจซึ่งพูดถึงด้านที่ค่อนข้างมืดของประวัติศาสตร์เกาหลีใต้”

ทางด้านผู้กำกับ Woo ที่เคยมีหนังฮิตเรื่อง Inside Men เมื่อปี 2015 บอกว่าเขารู้สึกประหลาดใจมากแล้วก็กระดากใจนิดหน่อยที่ The Man Standing Next ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าชิงออสการ์ โดยความสำเร็จของ Parasite ทำให้สปอตไลท์จากทั่วโลกฉายมาที่วงการหนังเกาหลี แต่เขาบอกไม่ได้ว่าผู้ชมชาวอเมริกันจะได้อะไรจากการดูหนังของเขา

“แต่ผมหวังว่ามันจะช่วยให้คนดูได้มีโอกาสคิดว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมประเภทใดขึ้น เมื่อคนเพียงไม่กี่คนใช้อำนาจไปในทางที่ผิดโดยปราศจากความยินยอมของประชาชน ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่ในอดีตเท่านั้น”