เปิดความสำเร็จ‘ก๊อต จิรายุ’ สมทบชายยอดเยี่ยมใน‘จอมขมังเวทย์ 2020’
ความสำเร็จที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากความเข้าใจชีวิต และรู้ว่า คนเรามีพลังอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้มาเพราะการฝึกฝนเรียนรู้ที่จะทำให้ดีที่สุด จนได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง จอมขมังเวทย์ 2020
"ในฐานะนักแสดง เราต้องไม่ตัดสินว่าสิ่งที่ตัวละครทำเป็นเรื่องที่ร้าย เพราะว่าทุกคนไม่ว่าจะทำดีหรือทำเลว เขาเชื่อว่าเขาทำสิ่งที่ถูก ผมไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินตัวละครว่า สิ่งที่เขาทำนั้น มันเลวร้ายหรือดี ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือ ทำอย่างไรก็แล้วแต่หรือทำทุกวิถีทางให้ตัวละครเชื่อให้ได้ว่า สิ่งที่เขาทำนั้นเป็นแพสชั่นของเขา
ผมศึกษาบทอยู่หลายส่วนเหมือนกัน แต่ที่เลือกมาใช้ ผมชอบกรณีการขายวิญญาณให้กับซาตาน ผมดีไซน์ตัวละครนี้ว่า เขาเริ่มได้ยินเสียงบางอย่าง พูดกับเขาว่า จะให้พลังเขา แต่ต้องทำตามที่เขาบอก มันเป็นพลังของมาร ที่มีอายุมา 700-800 ปี หรือเป็น 1,000 ปีแล้ว หลงใหลหมกมุ่นกับศาสตร์มืด จนคิดว่ากำหนดชีวิตผู้คนได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว พลังมันอยู่กับเรา เพียงแต่เรามองออกนอกตัวไปตลอด แต่การกลับมามองที่ตัวเองนั่นล่ะคือพลังที่ยิ่งใหญ่"
ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ผู้รับบท ก็อด จอมขมังเวทย์ยุคใหม่ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง มีเบื้องหลังหมกมุ่นกับศาสตร์มืด เพราะอยากเป็นที่สุดในทุกด้าน ราวกับเป็นพระเจ้า แสดงความคิดเห็นถึงการทำงานในภาพยนตร์เรื่องจอมขมังเวทย์ให้ฟัง
ภาพยนตร์เรื่อง จอมขมังเวทย์ (ภาคแรก) ออกฉายในปี พ.ศ. 2548 กำกับการแสดงโดย ปิยะพันธ์ ชูเพ็ชร์ แสดงโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิช, อัครา อมาตยกุล เรื่องราวของ อิทธิ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) นายตำรวจหน่วยพิเศษจับคนร้ายที่มีความสามารถแก่กล้าทางอาคมมานับไม่ถ้วน แต่ตัวเองต้องโทษคดีวิสามัญคนร้ายจนถูกขังลืม 10 ปีผ่านไป อิทธิได้หายตัวไปจากห้องขังแบบล่องหน มีคำสั่งให้จับตาย ร้อยตรี สันติ (อัครา อมาตยกุล) ผู้ทำคดีนี้ก็ได้พบกับเหตุการณ์ประหลาดคุณไสยมนต์ดำ หนทางเดียวที่จะสยบให้ได้คือเป็นให้เหนือกว่าจอมขมังเวทย์
ผ่านมา 15 ปีจึงมีภาพยนตร์เรื่อง จอมขมังเวทย์ 2020 (ภาคต่อ) แสดงโดย วิน (ปริญ สุภารัตน์) ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย สูญเสียครอบครัวไปก็เริ่มพัวพันกับศาสตร์มืด ได้พบกับองค์กรพลังจักรวาลที่นำโดย ครูเมย์ (สินจัย เปล่งพานิช) ไลฟ์โค้ชสาวใหญ่มีเบื้องหลังเป็นผู้ค้าวัตถุไสยเวทย์ และ ก็อด (จิรายุ ตันตระกูล) มือขวาที่ช่วยตามล่าสินค้า วิน ออกตามล่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อเขาชิงเหล็กไหลวัตถุมงคลมากพุทธคุณไป และแล้ว อิทธิ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ผู้กองจอมขมังเวทย์ในตำนานก็ปรากฏตัวขึ้น
เมื่อ ก็อต จิรายุ ต้องสวมบทบาท ก็อด มือขวาที่ช่วยตามล่าสินค้า เขาทำให้คนดูเชื่อว่า เขาเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะทำเรื่องใด เขาจะทุ่มเทเต็มที่ และเขายังนำเรื่องสมาธิมาปรับใช้กับการแสดง....
- ความสุขของชีวิต
"เมื่อ 6 ปีก่อน ผมใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการงานเลย หยิ่งยโสว่ารู้แล้ว ทำงานมานานแล้ว ไม่มีความสุขในการทำงานเลย พอได้ไปศึกษาเรื่องของขันธ์ 5 จึงเห็นว่าตัวละครมันเคลื่อนไหวเพราะมีความคิดเหนี่ยวนำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับร่างกายอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดการแสดงบางอย่างขึ้นมา
จนเรามีบ้าน มีเงิน มีชื่อเสียง แต่รู้สึกโดดเดี่ยวมาก ไม่มีความสุข ซื้อบ้านมาแล้วนั่งอยู่ในบ้านคนเดียว มองประตูบ้าน พบว่า ความสุขไม่น่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก แล้วได้เจอญาติที่เป็นอิสลามชวนไปปฏิบัติวิปัสสนากับท่านอาจารย์โกเอ็นก้า (S.N.Goenka) ที่ จ.ลำพูน 10 วัน ก็เลยไป
3 วันแรกเหมือนติดคุก วันที่ 4-5 เริ่มดีขึ้น วันที่ 8 เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ตอนนั้นอายุ 29 นั่งปฏิบัติหนึ่งชั่วโมงที่แสนจะทรมาน ร่างกายเจ็บ ส่วนไหนที่เป็นของฉัน ตาเหรอ ผมเหรอ ปอดเหรอ ก็ไม่ใช่ พอมันไม่เหลือเรา ความคิดนี่นาที่มันเจ็บ ลองไม่ไปให้ค่ามันซิ แค่รู้สึก เอ้า...ไม่เจ็บซะงั้น
เราไม่เคยฝึกจิตตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากเท่ากล้องจุลทรรศน์ การตื่นรู้ สามารถทำได้ทุกศาสนา การฝึก Meditate วิปัสสนา คือการเข้าใจตามความเป็นจริงอย่างที่มันเป็น เน้นการดูเวทนา การรู้สึกตัว
ความรู้สึกตัวเป็นความละเอียดอ่อน จะเข้าถึงได้ต้องมีความเพียรฝึกจิตให้ละเอียด จนเจอความรู้สึกตัวที่ละเอียดลึกอยู่ข้างใน ‘ฉัน’ คือ 5 อย่าง ร่างกาย ความคิด ความรู้สึก ความทรงจำ และจิตที่รับรู้" ก๊อต เล่า
- การตื่นรู้
"ฉัน...นี่ล่ะที่เป็นต้นตอความทุกข์ทั้งหมด 29 ปีที่ผ่านมา ตกอยู่ในบ่อน้ำเน่า ยังโง่อยู่ เมื่อเราขึ้นมาได้แล้ว จะทำยังไงที่จะประคองการตื่นให้อยู่ในการดำรงชีวิตทุก ๆ วัน ก็ต้องสร้างนิสัยขึ้นมาใหม่ สุขแบบปราณีต คือเป็นผู้รับผิดชอบทั้งเรื่องจิตใจตัวเองและเรื่องภายนอก พึ่งตัวเองได้
พอใช้ชีวิตในโลกเยอะ ๆ พลังงานลดก็ต้องไปเติมพลังงาน ด้วยการไปวิปัสสนา ไปครั้งแรกเป็นเรื่องของการอยากรู้ ครั้งต่อ ๆ มา ไปเป็นบริกร มีความสุขมาก มันละลายอัตตาเรามาก 10 วันไม่มีการพูด ปฏิบัติลูกเดียว ไปดูแลผู้อื่น คอยดูว่าผู้ปฏิบัติต้องการความช่วยเหลือในส่วนไหนบ้าง ทั้งวันใจเราเปิดลิ้นชักของความปรารถนาดีอยู่ตลอดเวลา
เวลาเราเจอคนที่มีทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน ลิ้นชักความเกลียดชังตัดสินในใจมันก็ปิด ลิ้นชักการให้อภัยให้ความรัก มันก็เปิดโดยอัตโนมัติ เข้าใจสิ่งที่เขาทำ และให้อภัยได้โดยไม่คิดอะไร เป็นการส่งความปรารถนาดีให้กันและกัน"
ผมอยากแบ่งปัน ให้ผู้ที่เริ่มต้นง่าย ๆ ลองสร้างกิจวัตรขึ้นมา ในตอนเช้าลองฝึกทำสมาธิ จดจ่อที่ลมหายใจของตัวเอง ฝึกแล้วจะเห็นความคิดตัวเอง ก็จะเลือกความคิดได้ ชั่งใจได้ ในอนาคตเราจึงเปลี่ยนได้ ฝึกไปวันละนิด ๆ
ทุกคนมีพลังในการทำลายและพลังในการสร้างสรรค์อยู่ในตัวเอง มนุษย์เท่านั้นที่บรรลุได้ คนทั่วไปที่ยังไม่ตื่น จะใช้ชีวิตตามความคุ้นชิน มีทัศนคติของการล้างแค้นอยู่เยอะ เวลาที่เราเมตตาใคร ใจเราก็ไม่อึดอัด
ลองหงุดหงิดไม่พอใจใครสักคน แป๊บเดียวก็อึดอัดแล้ว ธรรมชาติลงโทษทันทีที่เราเลือกความคิดผิด เมื่อไรที่เราอยู่กับความคิดปรุงแต่งเราจะลืมรู้สึกตัว แต่เมื่อไรที่เราอยู่กับลมหายใจหรือความรู้สึกตัว เราจะลืมความคิดปรุงแต่ง" ก๊อต อธิบาย
..................................
ผลการประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 29 ฮัก...หนังไทย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ณ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช จังหวัด นครราชสีมา ทั้งหมด 18 สาขา ได้แก่
-รางวัลสุพรรณหงส์เกียรติยศ ครั้งที่ 29 (กรุงศรีวิไล สุทินเผือก)
-รางวัลสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม (แสงกระสือ)
-การแต่งหน้ายอดเยี่ยม (แสงกระสือ)
-ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (ขุนแผน ฟ้าฟื้น)
-กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (แสงกระสือ)
-ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า)
-เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ)
-บันทึกเสียงและผสมเสียงยอดเยี่ยม (แสงกระสือ)
-ลำดับภาพยอดเยี่ยม (Where We Belong)
-ถ่ายภาพยอดเยี่ยม (แสงกระสือ)
-บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Where We Belong )
-สมทบหญิงยอดเยี่ยม (Where We Belong - แพรวา สุธรรมพงษ์)
-สมทบชายยอดเยี่ยม (จอมขมังเวทย์ 2020 - จิรายุ ตันตระกูล)
-นำหญิงยอดเยี่ยม (แสงกระสือ - ภัณฑิรา พิพิธยากร)
-นำชายยอดเยี่ยม (ดิว ไปด้วยกันนะ - ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์)
-ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Where We Belong-คงเดช จาตุรันต์รัศมี)
-ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Where We Belong)
-ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (School Town King แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน)