‘Rolex’ เปิดขั้นตอนการทำงานสุดเนี้ยบของ Rolex World Service

นักธุรกิจชาวเยอรมันเชื้อสายอังกฤษ ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ (Hans Wilsdorf)  ผู้ประดิษฐ์นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกในปีค.ศ.1908 โดยมีชื่อว่า โรเล็กซ์ (Rolex) เขาเชื่อว่า การยึดมั่นในปรัชญาแห่งความเป็นเลิศ จะสามารถคงอยู่ได้ตราบนานเท่านาน

ความเชื่อดังกล่าว นอกจากบ่มเพาะขึ้นเป็นชื่อเสียงของแบรนด์มาจนถึงปัจจุบันตั้งแต่แรกเริ่ม ยังนำมาสู่การก่อตั้ง Rolex World Service หรือ ‘เครือข่ายการให้บริการหลังการขาย’ โดยเฉพาะในประเทศต่างๆ ที่มีแบรนด์ปรากฏอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่า นาฬิกาทุกเรือนของแบรนด์จะได้รับบริการที่เป็นเลิศ อันจะคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำงานเชิงเทคนิคได้อย่างดีเยี่ยม ตลอดจนดูแลให้รูปลักษณ์ภายนอกงดงามไร้ที่ติ

ด้วยการมอบบริการที่ดีที่สุดนี้ นาฬิกา Rolex จึงทำงานได้อย่างสมบูรณ์ต่อเนื่องโดยไม่มีข้อจำกัด และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้หลายชั่วอายุคน

ทุกเรือนได้รับการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันโดย 'ช่างนาฬิกา' ซึ่งเป็นผู้ประเมินรายละเอียดงานที่ต้องดำเนินการ ณ ศูนย์บริการ Rolex World Service

ช่างนาฬิกาของศูนย์บริการ Rolex World Service ผ่านการฝึกฝนอบรมมาเป็นพิเศษโดยโรเล็กซ์ เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพและสอดคล้องกันทั่วโลก กระบวนการดูแลรักษานาฬิกาในรูปแบบต่างๆ ล้วนปฏิบัติตามมาตรฐานของแบรนด์ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพนาฬิกาของแบรนด์ตลอดอายุการใช้งาน

ยิ่งไปกว่านั้น โรเล็กซ์ยังพร้อมให้บริการและจัดหาอะไหล่ให้แก่เรือนเวลาทุกเรือนต่อไปอีกอย่างน้อย 35 ปีนับจากการหยุดวางจำหน่าย

หลังจากนั้น หากชิ้นส่วนไม่มีอยู่ในคลังแล้ว Restoration Atelier หรือ ‘ศูนย์บูรณะนาฬิกา’ ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเจนีวา ยังสามารถผลิตชิ้นส่วนเป็นรายชิ้นตามต้นฉบับดั้งเดิมได้อีกด้วย

Restoration Atelier สามารถผลิตชิ้นส่วนเป็นรายชิ้นตามต้นฉบับดั้งเดิม

ในส่วนของ Rolex World Service โรเล็กซ์พร้อมให้บริการอยู่ทั่วทุกทวีปผ่านศูนย์บริการดูแลรักษานาฬิกา ณ สำนักงานของตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ หรือที่สำนักงานของบริษัทในเครือประจำภูมิภาคต่างๆ

ศูนย์บริการเหล่านั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองโดยโรเล็กซ์อย่างน้อยหนึ่งคน ที่ได้รับอนุญาตให้มอบบริการหลังการขายแก่นาฬิกาที่ผลิตโดยโรเล็กซ์ ช่างผู้ชำนาญทุกคนยึดมั่นในปณิธานของโรเล็กซ์ในการให้บริการที่เป็นเลิศทุกเมื่อ ไม่ว่าเรือนเวลาจะอยู่ในสภาพใดก็ตาม

การให้บริการดูแลรักษาทุกขั้นตอนล้วนเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของแบรนด์เฉกเช่นการผลิตนาฬิกา เรือนเวลาแต่ละเรือนอาจได้รับการดูแลโดยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ บริษัทในเครือ หรือสำนักงานใหญ่ของ Rolex ณ กรุงเจนีวา โดยพิจารณาจากอายุของนาฬิกาเรือนดังกล่าว

ช่างนาฬิกาประจำ Restoration Atelier 

นอกจากนี้ โรเล็กซ์ยังเปิดตัว Rolex Training Centre หรือ ‘ศูนย์อบรมภายใน’ ที่กรุงเจนีวา ในปี 2018 ให้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และมอบพื้นที่ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่ผู้เข้าฝึกอบรมรุ่นใหม่และพนักงานของโรเล็กซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้าอยู่เสมอ Rolex Training Centre จึงกลายมาเป็นพื้นที่ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีล่าสุดด้านการผลิตนาฬิกา

โรเล็กซ์ยังได้ดำเนินการจัดหลักสูตรอบรม Rolex Watchmaking Training เป็นระยะเวลา 18 เดือนให้กับบริษัทต่างๆ ในเครือ ซึ่งเมื่อจบหลักสูตร ช่างนาฬิกาจะสามารถให้บริการดูแลรักษา กลไก Oyster (สุดยอดของแบบฉบับความแข็งแกร่งที่ทำหน้าที่ปกป้องกลไกของนาฬิกาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ) ได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด

การทำงานของช่างนาฬิกาโรเล็กซ์ที่ผ่านการอบรม

การซ่อมแซมกลไกการทำงาน 

ศูนย์บริการของโรเล็กซ์ทุกแห่งจะต้องมีช่างนาฬิกาที่ผ่านการอบรมอย่างน้อย 1 คน ซึ่งต้องหมั่นศึกษาหลักสูตรพิเศษอยู่เสมอ เพื่อคงมาตรฐานความเชี่ยวชาญและพัฒนาองค์ความรู้ให้สอดคล้องกับนาฬิกาแต่ละรุ่นและเทคนิคล่าสุดในการดูแลซ่อมแซมนาฬิกาแต่ละเรือน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ศูนย์บริการ Rolex World Service ยังสามารถให้บริการที่หลากหลาย โดยการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบหนึ่งครั้ง อาจรวมถึงการซ่อมแซมกลไกการทำงาน การดูแลตัวเรือน และสายนาฬิกา

นอกจากนี้แล้วยังพร้อมให้บริการในรูปแบบอื่นๆ อาทิ การปรับความยาวสาย และการขัดแต่งตัวเรือน เป็นต้น

ตัวแทนจำหน่ายของ Rolex เกือบทุกแห่งจะมีช่างนาฬิกาที่ผ่านการรับรองโดยแบรนด์ให้บริการอยู่ ซึ่งสามารถให้บริการบางประเภทที่ลูกค้าสามารถรับนาฬิกากลับบ้านได้ภายใน 1 วัน

การให้บริการหลังการขายที่ปฏิบัติอย่างพิถีพิถัน

การให้บริการหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบของโรเล็กซ์ ต้องอาศัยหลากหลายขั้นตอนที่พิถีพิถัน โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งผ่านการทดสอบและพัฒนาขึ้นโดยแบรนด์เอง

ในบางกรณี เมื่อได้รับนาฬิกา ช่างจะประเมินค่าบริการและระยะเวลาในดำเนินการให้ลูกค้าอนุมัติ จากนั้นช่างจึงจะให้บริการตามขั้นตอน ตั้งแต่การถอดสายออกจากตัวเรือน และบรรจงถอดกลไกการทำงานที่ยังประกอบอยู่กับหน้าปัดและเข็มนาฬิกา

จากนั้น กลไก ตัวเรือน และ สายนาฬิกา จะถูกแยกดูแลในกระบวนการที่แตกต่างกัน

ส่วนประกอบทุกชิ้นจะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด

หน้าปัดและเข็มนาฬิกาจะถูกถอดออกจากตัวกลไก ซึ่งจะมีการแยกชิ้นส่วนอย่างสิ้นเชิง ส่วนประกอบทุกชิ้นจะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของโรเล็กซ์หรือไม่

หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนด จะมีการนำอะไหล่จากโรงงานการผลิตใน Bienne ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกลไกการทำงานของโรเล็กซ์มาเปลี่ยนให้ใหม่ ส่วนประกอบแต่ละชิ้นจะได้รับการทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างอัลตราโซนิคเพื่อขจัดร่องรอยของสิ่งสกปรก หลังจากนั้นทุกชิ้นส่วนจะถูกทำให้แห้ง โดยกลไกการทำงานทั้งหมดจะถูกนำกลับมาประกอบทีละชิ้นและหยอดน้ำมันหล่อลื่น

ช่างนาฬิกาประกอบหน้าปัดและเข็มนาฬิกา

หลังจากทำการปรับกลไกการทำงานครั้งแรกเพื่อความเที่ยงตรง ช่างนาฬิกาจะทำการประกอบหน้าปัดและเข็มนาฬิกากลับเข้าไป

ตัวเรือนจะถูกถอดแยกส่วนประกอบออกจากกัน โดยไม่ว่าจะทำจาก Oystersteel, ทองคำ 18 กะรัต หรือ แพลทินัม 950 ทุกชิ้นส่วนจะได้รับการขัดให้เงาวาวหรือขัดเงาผิวซาตินโดยช่างผู้ชำนาญการ ซึ่งขั้นตอนการขัดเงานี้ต้องอาศัยความชำนาญขั้นสูงเป็นอย่างมาก เพื่อให้ตัวเรือนกลับมาเงางามดังเดิมและลบร่องรอยการขีดข่วน

ช่างนาฬิกาจะเปลี่ยนซีลและส่วนประกอบต่างๆ ได้แก่ กระจก ขอบหน้าปัด และตัวเรือนตรงกลาง จะถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกัน

การขัดเงาให้กลับมางดงามดังเดิม

วางชิ้นส่วนในตะกร้าพิเศษเพื่อทำความสะอาดแบบ Ultrasonic Bath

สายนาฬิกาก็จะได้รับการดูแลรักษาในรูปแบบเดียวกัน ข้อต่อแต่ละข้อจะได้รับการขัดให้เงาหรือขัดผิวซาตินอย่างพิถีพิถันให้กลับมางดงามดังเดิม โดยสายนาฬิกาก็จะได้รับการทำความสะอาดอย่างหมดจด

ช่างนาฬิกาจะบรรจงประกอบกลไกการทำงานกลับเข้าไปภายในตัวเรือน และตรวจวัดความเที่ยงตรงของนาฬิกาอีกครั้ง และปรับแก้ส่วนที่จำเป็นเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานโครโนมิเตอร์ที่ตั้งไว้ เสร็จแล้วทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จากนั้นตัวเรือนนาฬิกาจะได้รับการทดสอบแรงดันใต้น้ำ

การทดสอบแรงดันใต้น้ำหลังทดสอบความเที่ยงตรง

นำสายนาฬิกามาประกอบเข้ากับตัวเรือนอีกครั้ง

เมื่อผ่านการทดสอบการกันน้ำแล้วและนำสายนาฬิกามาประกอบเข้ากับตัวเรือนอีกครั้ง นาฬิกาก็จะพร้อมสำหรับการดูแลขั้นตอนสุดท้าย คือการตรวจสอบสมรรถภาพและฟังก์ชันการทำงาน พร้อมการตรวจสอบลักษณะภายนอกของนาฬิกาให้มีความงดงามอย่างไร้ที่ติ

ในขั้นตอนสุดท้าย นาฬิกาจะได้รับการบรรจุไว้ในกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเรือนเวลาในขณะที่ไม่มีการสวมใส่หรืออยู่ในระหว่างเดินทาง พร้อมด้วยการรับประกันการให้บริการทั่วโลกเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งครอบคลุมทั้งอะไหล่และค่าบริการ

การส่งมอบนาฬิกาที่บูรณะแล้วให้ลูกค้า

นาฬิกาที่ผ่านการบูรณะแล้วจะถูกส่งคืนให้แก่เจ้าของในกล่องนาฬิกาที่ถูกจัดทำมาเป็นพิเศษ พร้อมแนบคู่มือการใช้งานสำหรับเครื่องบอกเวลาแต่ละรุ่นโดยเฉพาะ