‘กุ้งแม่น้ำเผา’ ร้าน ‘ฮงเส็งโภชนา’ 64 ปียังอร่อยเหมือนเดิม

กุ้งแม่น้ำตัวโตเผามาหอมกรุ่น หัวกุ้งมันเยิ้ม เนื้อกุ้งนุ่มชุ่มฉ่ำ 

เจ๊หมวย-ศรีนวล สิทธิกรวงศ์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของร้าน ฮงเส็งโภชนา (ริมน้ำ) ปากเกร็ด

เจ๊หมวย-ศรีนวล สิทธิกรวงศ์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของร้าน ฮงเส็งโภชนา (ริมน้ำ) ปากเกร็ด สืบทอดเสน่ห์ปลายจวัก “64 ปียังอร่อยเหมือนเดิม” จากรุ่นพ่อ ฮงเส็ง แซ่อึ้ง เนื่องจากเป็นลูกสาวคนโต ช่วยงานทุกอย่างในครัวมาตลอด วันหนึ่งที่คุณแม่ไม่สามารถทำงานในครัวได้ “เจ๊หมวย” ก็กระโดดเข้าครัวปรุงอาหารได้ทุกประเภท เรียกว่าเป็นลูกไม้หล่นใกล้ๆต้นโดยแท้ วันนี้ “เจ๊หมวย” อายุ 67 ปีแล้วโชคดีเหลือเกินที่ยังมีผู้สืบทอดคือ  ผึ้ง-วรรณภา (ทำอาหารในครัว)และ เอ๋-อรรถสิทธิ์ สิทธิกรวงศ์ (ดูแลหน้าร้าน) ทั้งคู่เป็นลูกสาวและลูกชายของพี่ชายคนโต มาช่วยงานสานต่อ เตรียมจ่อคิวทายาทรุ่นที่ 3  

บรรยากาศร้านอาหารริมน้ำ "ฮงเส็งโภชนา"

ภายใต้บรรยากาศบ้านไม้ริมน้ำ ทาสีเขียวมองดูแล้วเย็นสบายตา ที่มีระเบียงโล่งโปร่งสบาย มองเห็นสายน้ำเจ้าพระยา และการสัญจรไปมาของเรือโดยสาร เรือหางยาว เรือข้ามฟากฯลฯ  “ฮงเส็งโภชนา” อยู่ติดกับท่าเรือ หรือ “ท่าน้ำปากเกร็ด”พอดี   “เจ๊หมวย” เล่าให้ฟังว่า เตี่ยกับแม่เริ่มกิจการร้านอาหารมาตั้งแต่ปีพศ. 2500 สมัยก่อนแถวนี้มีกุ้งและปลาแม่น้ำชุกชุมมาก จึงเป็นที่มาของ “กุ้งแม่น้ำเผา” ร้าน “ฮงเส็งโภชนา”

กุ้งแม่น้ำเผาตัวโตเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด 

“เตี่ยเขาก็ไม่ได้เรียนทำอาหารมาจากไหน แต่เป็นคนที่ชอบทำอาหาร ก็เลยมาทำอาหารขาย พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ สมัยก่อนแถวนี้ยังไม่เจริญแบบนี้  เราก็ทำร้านอาหารขายให้คนในละแวกนี้แหละ สมัยก่อนคนใช้เรือเยอะ สะพานข้ามแม่น้ำก็ยังไม่มี เรือนไม้นี้ก็สร้างมาตั้งแต่สมัยเตี่ย เราเองก็อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย อาหารร้านเราก็เป็นแบบชาวบ้านๆ มีปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ เรามีชื่อเสียงจากกุ้งแม่น้ำเผา เพราะว่าหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี (สวัสดิวัตน์) ท่านมาทานแล้วชอบก็เลยให้เชลล์ชวนชิมไว้ ตั้งแต่พศ. 2017 ตอนนี้อาหารขึ้นชื่อก็ยังเป็นกุ้งแม่น้ำเผา”

ก่อนพูดถึง “กุ้งแม่น้ำเผา” เคล็ดลับ “64 ปียังอร่อยเหมือนเดิม” ของร้าน “ฮงเส็งโภชนา” แห่ง “ท่าน้ำปากเกร็ด” ก็คือ คัดเลือกวัตถุดิบดี สด สะอาด และลงมือทำเองทุกขั้นตอน เวลาล้างผักต้องล้างให้สะอาดทุกซอกทุกมุม ล้างหลายน้ำ แล้วผึ่งให้แห้งก่อนเก็บไว้ใช้ เหมือนทำอาหารกินเองในบ้าน วัตถุดิบดีๆหาง่าย แต่ที่ยากก็คือราคาวัตถุดิบสูงขึ้นเรื่อยๆ จะทำอย่างไรให้ธุรกิจอยู่ได้ โดยไม่ขายอาหารแพงเกินไป “เจ๊หมวย” เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 60 ปีที่แล้ว “กุ้งแม่น้ำ” กิโลกรัมละ 20 บาท ปัจจุบันนี้ราคาเป็นพัน

“ถ้าของไม่สดเราจะทิ้งเลยจะไม่เอามาขาย   เพราะถ้าขายเราได้ตังค์ก็จริงแต่ลูกค้าไม่ประทับใจ คุณต้องคิดนะว่าจะขายไปแบบยาวๆ หรือจะขายสั้น ถ้าของคุณสดแล้วไม่แพงจนเกินไปคนก็มาทานได้เรื่อยๆ การที่จะมากินอาหารร้านเรานี่ลำบากเหมือนกันนะ(หัวเราะ) กว่าจะหาที่จอดรถได้ต้องแฟนจริงๆถึงจะมา แต่เราก็มีแฟนตัวจริงที่มากินตั้งแต่สมัยพ่อพาลูกมากิน ตอนนี้พ่อเกษียณไปแล้วลูกพาพ่อมากิน แล้วจูงหลานมาด้วย เห็นแล้วก็ปลื้มใจนะว่า ของเรานี่ก็โอเคใช้ได้เลยนะ ถ้าไม่ถูกใจเขาจริงๆคงไม่กินกันมายาวนานขนาดนี้ แต่ใจจริงไม่กล้าพูดหรอกว่าของเราอร่อย เพราะปากคนไม่เหมือนกัน เพียงแต่เราทำให้ดีที่สุด แล้วแต่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบเท่านั้นเอง”

เมนู “64 ปียังอร่อยเหมือนเดิมปลา” ก็มี กุ้งแม่น้ำเผา (ราคา 800-1,000 บาท)ที่ “เจ๊หมวย” เลือกกุ้งแม่น้ำเป็นๆตัวใหญ่ๆ ย่างบนเตาถ่านด้วยความเชี่ยวชาญพิเศษ จนได้เนื้อกุ้งที่หวาน สุกกำลังดี หัวกุ้งอุดมไปด้วยมันกุ้งสีสวยยั่วยวนเป็นยิ่งนัก ตักมาคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด แต่ไม่เผ็ดกระชากใจให้ต้องโดดแบบนักร้องแนวอัลเทอเนทีฟ น้ำจิ้มรสกลมกล่อมหอมกลิ่นพริกขี้หนูและน้ำมะนาว แสนคุ้มค่าไม่ต้องขับรถไปไกลถึงอยุธยาเพียงแค่มาที่ “ท่าน้ำปากเกร็ด”  

"ต้มยำกุ้งแม่น้ำ" แบบน้ำข้นด้วยน้ำพริกเผาไม่ใส่นมสด ไม่ใส่กะทิ อร่อยซดน้ำซุปแล้วสดชื่น 

อีกเมนูที่หมูหวานแสนประทับใจก็คือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ (ราคา 300-400 บาท) ซดน้ำต้มยำกุ้งแล้วหวนคิดถึงวัยเด็ก แม่สวัสดิ์ของหมูหวานเขาทำ “ต้มส้มปลาช่อน” รสชาตินี้เลย น้ำซุปไม่มันเลี่ยน ซดแล้วสดชื่นคล่องคอ เพราะมีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยเผ็ด เค็ม หวานน้อย แถมยังใส่ “เห็ดฟาง” นี่แหละต้มยำโบราณแท้

“ต้มยำกุ้งของเราโบราณจริงๆ  สมัยนี้เขาใส่นมสด ใส่กะทิ ซึ่งไม่ใช่สูตรโบราณ ต้มยำกุ้งใส่แค่น้ำพริกเผา ถ้าไม่ใส่ก็เป็นต้มยำน้ำใส ถ้าจะกินต้มยำกุ้งต้องใส่พริกเผาถึงจะอร่อย มีรสชาติเปรี้ยวปะแล่มๆ หวานนิดๆกลมกล่อม ปลาดุกฟูผัดพริกขิง ร้านเราใช้ปลาดุกแท้ ผัดมาแห้ง ไม่เละๆแฉะๆ บางร้านขายถูกได้เพราะเขาผสมเกล็ดขนมปังเข้าไปด้วยก็มีนะ ”

"มะระผัดปลาเค็ม"

ตะเพียนไร้ก้างทอดกรอบ เป็นเมนูที่มีตามฤดูกาล หากไม่ใช่หน้าปลาตะเพียนที่ตัวใหญ่และอ้วน “เจ๊หมวย” จะไม่สั่งมาปรุงเมนูอร่อยเด็ดขาด “ปลาตะเพียน” ทอดกรอบเสิร์ฟมากับ “ยำมะม่วง”  เป็นอีกเมนูเด็ดที่เจอแล้วต้องสั่งกันนะจ๊ะ   

"ปลาเนื้ออ่อนราดพริก"

วันนี้ได้ชิมเมนูเด็ดเช่น ปลาเนื้ออ่อนราดพริก ทอดปลามากรอบรับประทานได้ทั้งตัว พริกที่ราดมานั้นหอมกลิ่นพริก หวานนำนิดๆเผ็ดตาม ใครเป็นแฟนปลาเนื้ออ่อน และปลาราดพริกแนะนำจานนี้เลย อีกเมนูที่เจ๊หมวยบอกว่าค้นพบโดยบังเอิญจนกลายเป็นจานเด็ดที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง นั่นก็คือ มะระผัดปลาเค็ม วันหนึ่งคิดว่าเบื่อมะระผัดไข่จังดูมันจืดๆลองใส่ปลาอินทรีเค็มลงไปดีกว่า โอ้โห เด็ดถูกใจ นำมาเสิร์ฟลูกค้า ทุกคนติดใจมาจนถึงปัจจุบันนี้ มะระทำดีมากไม่มีกลิ่นและไม่ขม ใครที่ไม่ชอบมะระเพราะขม ลองสั่งเมนูนี้ดูนะคะ

"ลูกชิ้นปลากรายผัดขี้เมา"

เมนูถัดไป ลูกชิ้นปลากรายผัดขี้เมา จานนี้ ราคา 150 บาทแสนคุ้มค่าเพราะว่า “เจ๊หมวย” นำลูกชิ้นปลากรายแท้ มาผัดกับเครื่องขี้เมา ใส่ยอดมะพร้าวอ่อนลงไปด้วย ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่อร่อย เช่น เนื้อปูผัดผงกะหรี่ , กุ้งเต้น, กุ้งพล่า, แกงส้มชะอมไข่กุ้งสด ฯลฯ เรียกได้ว่าไปครั้งเดียวกินของอร่อยไม่ครบ

ร้านอาหาร ฮงเส็งโภชนา (ริมน้ำ) ภายใต้บรรยากาศบ้านริมน้ำ โล่ง โปร่งสบาย ไม่มีเครื่องปรับอากาศ เหมาะกับช่วงนี้ วิถีชีวิต New Normal เราต้อง Social Distancing กันนะจ๊ะ

 

ประเภทอาหาร: อาหารไทย กุ้งแม่น้ำ-ปลาแม่น้ำ

เมนูเด็ด : กุ้งแม่น้ำเผา, ต้มยำน้ำข้นกุ้งแม่น้ำ, ปลาเนื้ออ่อนราดพริก,ปลา มะระผัดปลาเค็ม

ราคา : 100-120-150-800-1,000 บาท

ที่อยู่ : ท่าน้ำปลากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ร้านเปิด จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.30-14.00 น. เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการ เวลา 10.30-16.00 น. โทร. 02-583 8631 และ 02-583 7654

"""""""""""""""""""

ตามอ่าน คอลัมน์ "50 ปีอร่อยเหมือนเดิม" ได้ทุกวันศุกร์ ทาง@taste

‘ตั้งซุ่ยเฮงโภชนา’ ย้อนรอยความอร่อย ‘ก๋วยเตี๋ยวเป็ด’ เจ้าเก่าแห่ง ‘สะพานเหลือง’