'คูราโซ'  ลิเคียวร์จากเปลือกส้มสีทอง

จึงเป็นที่มาชองชื่อเหล้าชนิดนี้ โดยส้ม Laraha ได้รับฉายาว่าเป็น Golden Orange of Curaçao

เกาะคูราโซ ที่พื้นที่ 444 ตารางกิโลเมตร อยู่ในทะเลแคริบเบี้ยน สังกัดเนเธอร์แลนด์ แอนทิลเลส (Netherlands Antilles) เดิมคือ เนเธอร์แลนด์ เวสต์อินดีส (Netherlands West Indies) หรือ ดัตช์แอนทิลลิส/เวสต์อินดีส (Dutch Antilles/ West Indies)  เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเลสเซอร์ แอนทิลลิส (Lesser Antilles) และประกอบด้วยเกาะในทะเลแคริบเบี้ยน 2 กลุ่ม ๆ แรกเรียกว่า หมู่เกาะลีเวิร์ด (Leeward Islands) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งประเทศเวเนซุเอลา มี คูราโซ และโบแนร์เป็นหลัก  กลุ่มสองหมู่เกาะวินด์เวิร์ด (Windward Islands) อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่กาะเวอร์จิ้น มีซินท์เอิสทาทิอุส ซาบา และซินท์มาร์เทินเป็นหลัก หมู่เกาะเหล่านี้มีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองอยู่ภายใต้ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์    

        เกาะคูราโซ

ในบ้านเราคนไทยรู้จักเกาะคูราโซเพราะเขาทราย แกแล็กซี่ ไปป้องกันแชมป์โลกรุ่น 115 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก (WBA) ครั้งที่ 4 ชนะน็อกยก 5 อิสราเอล คอนเตรรัส  นักมวยชาวเวเนซูเอลา ที่เกาะคูราโซ เนเธอร์แลนด์ แนทิลเลส  เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 โดยเกาะ Curaçao อยู่ห่างจากชายฝั่งเวเนซูเอลา ประมาณ 60 ไมล์

     ส้มลาราฮา

สันนิษฐานกันว่า ส้มลาราฮา นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเมืองบาเลนเซีย (Valencia) เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศสเปน โดยชาวสเปนมาตั้งถิ่นฐานบนเกาะนี้ตั้งแต่ปี 1499 ก่อนจะนำส้มชนิดนี้มาจากบาเลนเซีย มาปลูกอย่างเป็นล่ำเป็นสันตั้งแต่ปี ค.ศ.1527 เป็นต้นมา

ส้มชนิดนี้ถ้าปลูกในบาเลนเซียรสจะหอมหวาน แต่เมื่อมีการนำเข้ามาปลูกบน เกาะคูราโซ สภาพของดินฟ้าอากาศทำให้รสชาติกลับไม่หวานเท่าที่ควร แต่ความไม่หวานของส้มลาราฮากลับกลายเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับการทำลิเคียวร์ที่ชื่อเดียวกับเกาะ

      เปลือกส้มที่ยังไม่ตากแห้ง

การนำ ส้มลาราฮา มาผสมในคูราโซเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ในศตวรรษที่ 19 โดยครอบครัวซีเนียร์ ซึ่งเป็นชาวยิวจากเกาะคูราโซ  คิดทำเหล้าด้วยการเตรียมส้มลาราฮาไว้เป็นหนึ่งในส่วนผสม ขณะที่เตรียมอย่างอื่น ผลส้มลาราฮาเกิดแห้งและมีน้ำมันหวานออกมา หลังจากแช่ในหม้อกลั่นพร้อมกับแอลกอฮอล์และน้ำหลายวัน จึงนำเปลือกส้มลาราฮาออกแล้วใส่อย่างอื่นที่ให้ความเผ็ดลงไป ปรากฏว่าได้เหล้าที่รสชาติหอม หวาน กลมกล่อม

    เปลือกส้มที่ตากแห้งแล้ว

ปัจจุบัน คูราโซ มีผู้ผลิตหลายสิบบริษัท และทำในหลายประเทศ  ส่วนใหญ่แอลกอฮอล์ประมาณ 30 % และตกแต่งให้มีสีสันต่าง ๆ เช่น ขาว ฟ้า เขียว ส้ม  และสีสันเหล่านี้กลายเป็นเสน่ห์สำคัญของเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล (Cocktail) โดยคูราโซแต่ละสีมีข้อแตกต่างกันดังนี้

    ไวท์ คูราโซ ที่ผลิตในญี่ปุ่น

ไวท์ คูราโซ (White Curacao) เป็นคลาสสิก คูราโซ (Classic Curacao) สีขาวใสราวตาตั๊กแตน เหมือนเหล้าขาวกลั่นทั่วไป เช่น เหล้าขาวของเรา วอดก้า จิน และรัม เป็นต้น นิยมดื่มธรรมดามากกว่าจะนำมาผสมเป็นค็อกเทล ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีสีสัน ขณะเดียวกันเหล้าสีขาวอย่างวอดก้าเมื่อนำมาเป็นส่วนผสมค็อกเทลจะได้รสชาติ ความหอมมากกว่าไวท์ คูราโซ อย่างไรก็ตามมีค็อกเทลสีชมพูเรื่อ ๆ คล้ายแก้มสาววัยกระเตาะ ที่ชื่อ ร็อบ เลิฟ (Rob Love ) ที่มีส่วนผสมของไวท์ คูราโซ, วอดก้า, สไปซีเฮิร์บ, สตรอว์เบอร์รี ไซรัป, สวีท เวอร์มุธ และน้ำมะนาว เป็นต้น

     บลู คูราโซ

     บลู คูราโซ ที่ทำในเยอรมนี

บลู คูราโซ (Blue Curacao) เป็นคูราโซยอดนิยม อันดับ 1 ใช้เป็นส่วนผสมของค็อกเทลกว่า 300 ชนิด สาเหตุที่บลู คูราเซา ได้รับความนิยมมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อนำมาผสมค็อกเทลแล้ว สีออกฟ้า ๆ สวยงาม สบายตา น่าดื่ม  ค็อกเทลชื่อดัง ๆ เช่น บลู คอสโมโปลิแทน (Blue Cosmopolitan) ผสมผสานจาก บลู คูราโซ, แอบโซลูท ซิตรง วอดก้า (Absolut Citron Vodka),มาราสชิโน เชอร์รี่ (Maraschino Cheery), น้ำองุ่น, น้ำเชื่อม และน้ำตาล

     บลู กามิกาเซ่

บลู กามิกาเซ่ (Blue Kamikaze) ค็อกเทลยอดนิยมอีกแก้วหนึ่งมีส่วนผสมไม่มากแต่สวยและอร่อย เช่น บลู คูราโซ, วอดก้า, น้ำมะนาว และน้ำแข็ง ขณะที่ บลู ฮาวายเอี้ยน (Blue Hawaiian) มีส่วนผสมของบลู คูราโซ, ไลท์รัม (Light Rum), น้ำสับปะรด, ครีม ออฟ โคโคนัท (Cream of Coconut), สับปะรดฝาน และเชอร์รี่ เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถนำไปดัดแปลงได้อีกมากมาย

     ออเรนจ์ คูราโซ

    Marlene Dietrich

ออเรนจ์ คูราโซ (Orange Curacao) เป็นคูราโซยอดนิยมรองจาก บลู คูราโซ สามารถนำไปผสมเป็นค็อกเทลสูตรต่าง ๆ ประมาณ 41-50 ชนิด เช่น มาร์ลีน ดีทริช (Marlene Dietrich) ผสมผสานจากออเรนจ์ คูราโซ, แคนาเดี้ยนวิสกี้ และแองกอสตูรา บิตเตอร์ส (Angostura Bitters), เคเบิ้ล คาร์ (Cable Car) มีส่วนผสมของออร์เรนจ์ คูราโซ, สไปซ์รัม, น้ำมะนาว ฯลฯ ขณะที่ ฟูลมูน (Full Moon) ใช้บลู คูราโซ ผสมกับอมาเรตโต (Amaretto) แล้วดื่มแบบออน เดอะ ร็อก

     กรีน คูราโซ

    Cable Car

      แคนาเดี้ยน ซอมบี้

กรีน คูราโซ (Green Curacao) แม้จะไม่ได้เป็นหนึ่งเหมือนบลู คูราโซ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากรีน คูราโซ ก็เป็นคูราโซที่บาร์เทนเดอร์ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะ แคนาเดี้ยน ซอมบี้ (Canadian Zombie) ค็อกเทลตระกูล “ซอมบี้” (Zombie) ที่มีรสชาติร้อนแรงมีส่วนผสมของ ไวท์รัม, ดาร์กรัม, รัม 151 ปรู๊ฟ, กรีน คูราโซ, เกรนาดีน ไซรัป, น้ำส้มและน้ำมะนาว ขณะที่ คิง วิลลีย์ (King Willy) มีมิโดริ เมลอน ลิเคียวร์, เซเว่นอัพ, กรีน คูราโซ และเกรนาดีน เป็นต้น

      ดราย ออเรนจ์ คูราโซ

ดราย ออเรนจ์ คูราโซ (Dry Orange Curacao) เป็นออเรนจ์ คูราโซ ที่หมักบ่มไว้นานกว่าออเรนจ์ คูราโซ ธรรมดา และดีกรีเพิ่มอีก 5 %  เป็น 35 % ค็อกเทลที่ใช้ดราย ออเรนจ์ คูราโซ เป็นส่วนผสมคือ คารา สปอซา (Cara Sposa) ผสมกับคอฟฟี่ ลิเคียวร์, วิปปิ้ง ครีม, เลมอนและน้ำตาล ขณะที่ ดาวน์ฮิลล์ ค็อกเทล (Downhill Cockhill) ทำให้หลายคนหัวทิ่มบ่อเหมือนชื่อ เพราะมีส่วนของของ คอนญัค, ยิน, ออเรนจ์ คูราโซ, ดราย เวอร์มุธ และสวีท เชอร์รี่ 

     Cara Sposa

     ไวท์ คูราโซ

คูราโซ นอกจากจะเป็นลิเคียวร์ส้มที่สุดสวยและแสนคลาสสิกแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับชาวเกาะคูราโซในแต่ละปีไม่ใช่น้อย...!!