‘นกยูง’ ในงานศิลป์เลอค่า

คอลเลคชั่นเครื่องประดับ The Colours of Spendour จาก โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์ (Lotus Arts de Vivre) เผยโฉมงานออกแบบและงานช่างฝีมือชั้นครู และนำรูปทรงของ นกยูงรำแพน ถ่ายทอดสู่งานเครื่องประดับ กระเป๋า และของตกแต่งบ้าน

 

มร.รอล์ฟ วอน บูเรน ผู้ก่อตั้ง โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์ บอกว่า

“คอลเลคชั่นพิเศษนี้ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากความหลงใหลใน นกยูง สองตัวที่เป็นสมาชิกของบ้าน วอน บูเรน ที่มีความสง่างาม โดดเด่นด้วยขนสีเขียวประกายรุ้ง สามารถรำแพนหางออกเป็นวงพัดได้อย่างงดงาม อีกทั้ง นกยูง มีสัญชาตญาณหวงแหนอาณาเขต ทำให้มีบุคลิกน่าเกรงขามและมีมนต์ขลัง”

     ต่างหูทำจากเปลือกหอยประดับอัญมณี

ด้วยความใกล้ชิดและความเอ็นดูที่ มร. รอล์ฟ มีให้กับเจ้านกยูงทั้งสอง ที่มีความเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง เพราะเมื่อใดก็ตามที่มันมองเห็นผู้เป็นเจ้านาย ก็จะเข้ามาที่หน้าต่างและเอาปากเคาะกระจกเบา ๆ เพื่อทักทายอย่างคุ้นเคย ผู้ก่อตั้งงานเครื่องประดับล้ำค่า บอกอีกว่า

“นกยูง ได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชาแห่งวิหค เนื่องมาจากรูปลักษณ์อันงดงามโดดเด่นกว่าวิหคทั้งปวง ในประเทศจีน นกยูงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์หมิง เปี่ยมด้วยความเป็นเทวะ มีสถานภาพสูงส่ง ทรงอำนาจ และยังมีความเกี่ยวโยงกับพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้เปี่ยมบารมีแห่งความเมตตากรุณา สามารถแปลงสิ่งที่มีพิษหรือความชั่วร้ายให้กลายเป็นดี การที่นกยูงเพศผู้สลัดขนหางทิ้งปีละครั้ง ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินคริสต์ยุคไบแซนไทน์ นำมาสร้างเป็นภาพเขียนซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนการเกิดใหม่ เรื่องราวและตำนานของนกยูงเหล่านี้ได้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ กลายมาเป็นจิตวิญญาณของ The Colours of Spendour Collection ของ โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์”  

 

        ต่างหูรูปนกยูงประดับเพชรและขนนกยูง

ผลงานในคอลเลคชั่นเครื่องประดับคือสิ่งที่ผู้ชื่นชอบความโก้หรู มีดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ประกอบด้วยต่างหู แหวน สร้อยคอ และเข็มกลัด ตกแต่งรูปทรงนกยูงอันอ่อนช้อย สะท้อนความงามสง่าของวิหคชั้นสูง เครื่องประดับแต่ละชิ้นประดับด้วยอัญมณี อาทิ เพชรโกลคอนดา (Golconda Diamonds) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำดีมีประกายสุกใสที่สุดของโลก มีต้นกำเนิดมาจากเหมืองโบราณของประเทศอินเดียที่ได้ปิดกิจการลง จึงไม่สามารถหาได้อีกแล้ว รวมถึง ทับทิม ไข่มุก และเปลือกหอยมุกสีฟ้า จากประเทศเม็กซิโก

       ต่างหูนกยูงตกแต่งด้วยขนนกยูง เพชร และมรกต

ต่างหู เป็นผลงานอันโดดเด่นที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ได้แก่ เซตต่างหูตกแต่งด้วยขนนกยูงที่ได้จากส่วน ลำคอ ศีรษะ และปีก นำมาตกแต่งอย่างประณีต จึงได้สีสันและลวดลายสวยงามราวกับมีชีวิต และหรูหรายิ่งขึ้นด้วยเพชรและทองคำ

เซตต่างหูเกลียว ทำจากแบล็คโกลด์ 18K ห้อยประดับไข่มุกร้อยเรียงกับพลอยสีม่วงและลูกปัดทอง ปลายพู่ห้อยของต่างหูแต่งด้วยขนนกยูง

      ต่างหูเกลียวประดับทอง ไข่มุก และพลอยสีม่วง

กระเป๋า ตกแต่งลายนกยูงดูน่าดึงดูดใจไม่แพ้กัน เช่นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน นกยูงประดับอัญมณีร้อยดูราวกับมีชีวิตและกำลังรำแพนหาง ลำตัวของนกยูงทำจากปีกแมลงทับสีเขียวแกมฟ้าระยิบระยับ ส่วนลำคอและศีรษะทำจากทอง 18K ประดับเพชรและพลอยน้ำดี กรอบฝากระเป๋าทำจากไม้ใผ่ถมทอง

      กระเป๋าตกแต่งอัญมณี ตัวนกยูงทำจากปีกแมลงทับ

ที่พิเศษคือด้านในกระเป๋าทุกใบจะมีซองผ้าไหมบรรจุ หวีญี่ปุ่นโบราณ ที่หาได้ยากยิ่งและเป็นที่หมายปองของเหล่านักสะสมแนบไว้ เพื่อมอบให้เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความล้ำค่าสุดพิเศษนี้

 

        ผ้าโอบิลายนกยูง ใช้ขนนกยูงทอสลับเส้นไหมเงินและทอง

ยังมี ผ้าโอบิญี่ปุ่นลายนกยูง ของ คอนดายา-เกนเบ (Kondaya-Genbei) ถักทอด้วยเทคนิคชั้นสูงโดยถ่ายทอดจินตนาการลวดลายนกยูงลงบนผืนผ้าไหมอย่างวิจิตรและนำขนนกยูงมาทอสลับกับเส้นไหมเงินและทอง เพื่อเพิ่มประกายความเงางาม ผ้าโอบินี้ล้ำค่ายิ่งเพราะมีเพียงหนึ่งผืนจากทั้งหมดสองผืนที่ได้ถูกถักทอขึ้นในโลก

 

        ของตกแต่งบ้านประดับอัญมณี

ของตกแต่งบ้าน ประกอบด้วยไม้เนื้อแข็งสายพันธุ์หายาก ประดับอัญมณีเช่น ทับทิม เงิน หินโมรา และเปลือกหอยมุก ทั้งงดงามและครบฟังก์ชั่นการใช้งาน ได้แก่ ไอเทมรูปสลักนกยูง ทำจากไม้เนื้อแข็งที่หายาก โดยใช้รูปทรงดั้งเดิมตามธรรมชาติ นำมาออกแบบเพิ่มเติม ตกแต่งด้วยชิ้นงานเงินแกะสลัก ตกแต่งหางด้วยขนนกยูง พร้อมปลุกชีพให้มีชีวิตชีวาด้วยการประดับเทอร์ควอยซ์ที่หงอนและดวงตา

       ถาดทำจากเปลือกหอยมุกเรียงเป็นโมเสก

นกยูง เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา สง่างาม และอีกหลากหลายความเชื่อในตำนานตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน มร.รอล์ฟ วอน บูเรน พร้อมเปิดตัวคอลเลคชั่น The Colours of Spendour Collection อย่างเป็นทางการผ่าน Live Stream บน Facebook ของ Lotus Arts de Vivre (https://www.facebook.com/LotusArtsdeVivre ) ใน วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2564 นี้ เวลา 20.00 – 20.45 น. เป็นต้นไป

จากนั้นชมได้ที่ Flagship Boutique - Lotus Arts de Vivre ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ หรือเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ www.lotusartsdevivre.com