‘ยำผักปลัง’ บำรุงสุขภาพ มี ‘แคลเซียม’ และ ‘วิตามิน’

ก่อนจะไปถึงเมนู “ยำผักปลัง” บำรุงสุขภาพ มาทำความรู้จักกับ “ผักปลัง” ซึ่งเป็นไม้ล้มลุก เถาเลื้อยมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของเอเชีย และแอฟริกา  ลำต้นอวบน้ำ เกลี้ยง กลม ไม่มีขน แตกกิ่งก้านสาขามาก มีทั้งสีขาว และสีแดง พบเจอได้ตามป่า-ทุ่ง ทุกภาคของประเทศไทย “ผักปลัง” มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายเช่น มีแคลเซียม และธาตุเหล็กสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี นิยมใช้ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน นำมาลวกหรือต้มให้สุก ใช้รับประทานร่วมกับน้ำพริก

"ยำผักปลัง" ฝีมือ หมอล็อต-น.ส.พ.ภัทรพล มณีอ่อน

เช่น น้ำพริกอ่อง พริกตาแดง น้ำพริกดำ เป็นต้น หรือจะใช้ยอดอ่อนและใบอ่อนนำไปประกอบอาหาร เมนูผักปลัง เช่น แกงจืดหมูสับ แกงแค แกงเลียง แกงส้ม แกงใส่อ่อมหอย แกงปลา แกงผักปลัง ผัดกับแหนม ผัดน้ำมัน ผัดใส่ไข่ ส่วนช่อดอก ต้นและ ใบ นำมาทำแกงส้ม เป็นต้น ส่วนผลอ่อนก็ใช้รับประทานได้เช่นกัน  ทางเหนือของประเทศไทยนำยมนำมาทำเมนู “จอผักปั๋ง” กรรมวิธีการทำคล้ายกับ “จอผักกาด” ผลของผักปลัง ยังนำมาตำคั้นน้ำได้สีม่วง-แดง เอาไปนวดกับแป้งทำขนมบัวลอย ขนมเปียกปูน ซาหริ่ม น้ำดอกไม้ ฯลฯ เป็นสีผสมอาหารตามธรรมชาติได้อีกด้วย

"หมอล็อต" กับเมนู "ยำผักปลัง"

“หมูหวาน” มีโอกาสได้คุยกับ หมอล็อต-น.ส.พ.ภัทรพล มณีอ่อน เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกิน จากนั้น “หมอล็อต” ก็ปรุง เมนู “ยำผักปลัง” บำรุงสุขภาพให้ลองชิม ถือว่าเป็นเมนูที่ “อร่อย” และมีคุณค่าจริงๆ เนื่องจากงานของ “หมอล็อต” ต้องเข้าป่าไปใช้ชีวิตอยู่กับชาวบ้านบ่อยๆ ทำให้เขาเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย นอกจาก ข้าวไข่เจียว กับน้ำปลาพริก และก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยทุกร้านแล้ว อาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการจำเป็นสำหรับการใช้สมองและความคิด การมีสุขภาพที่แข็งแรงก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน

"ผักปลังขาวและผักปลังแดง" อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ 

“ผมเป็นคนกินง่ายๆ แต่พิถีพิถันเรื่องของโภชนาการมากกว่า เพราะเราต้องใช้สมอง ใช้ความคิด ใช้พละกำลังในการทำงาน ผมมีโรคประจำตัวตั้งแต่เกิดคือโลหิตจาง ไม่สามารถบริจาคเลือดได้ เพราะปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อย ผมก็จะกินอาหารที่มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด มีสรรพคุณในการกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด อาหารที่มีธาตุเหล็ก วิตามินบี วิตามินบีรวม ช่วยในเรื่องของการดูดซึมอาหาร ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารเอาไปใช้ได้ วิตามินที่บำรุงสายตา เบต้าแคโรทีน เราก็จะกินพวกนี้ไปด้วย ถือว่าเป็นคนที่ต้องการสารอาหารที่ครบ และต้องได้จากอาหารจริงๆ ไม่ใช่วิตามินเสริม เพราะร่างกายเราจะต้องได้ทำงานครบกระบวนการ กินอาหารที่มีกากใยให้ร่างกายได้ย่อย ได้ขับถ่ายเกิดการบีบตัว เกิดการสร้างน้ำย่อยไม่ใช่กินวิตามินเม็ดหนึ่งได้สารอาหารครบ แต่ร่างกายไม่ได้ทำงานเลย ก็อาจจะเกิดผลดีที่ไม่ตลอดไป”

หมอล็อตเล่าว่าเขาเป็นคนที่รับประทานอาหารได้ทุกอย่างยกเว้น “แมงดา” เพราะได้กลิ่นแล้วปวดหัว พอลองทานแล้วจะรู้สึกเป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ดังนั้น “น้ำพริกแมงดา”เป็นอาหารต้องห้าม เวลาเข้าป่าก็จะพกวัตถุดิบอย่างผักสดไปปรุงในป่า(ลูกน้องปรุง) ถ้าไปหลายวันเสบียงสดหมดก็จะกลายเป็นอาหารกระป๋อง อาหารแห้ง ที่พกพาไป

“อยู่บ้านผมก็จะทำอาหารง่ายๆ เช่นสเต็ก สลัดผัก ไข่เจียวผมทำได้อร่อยมาก บางฤดูกาลเวลาอยู่ในป่ามีพืชผักหลายชนิดที่กินได้ มีสรรพคุณทางยา บางอย่างก็มีโทษ ผักบางชนิดกินสดไม่ได้ต้องทำให้สุกก่อน ผักบางอย่างเห็นช้างกิน เราก็ลองไปกินบ้าง พอมาสืบค้นเป็นผักที่มีสรรพคุณทางยา เราก็จะจดจำไว้ อีกอย่างที่ผมอยากจะฝากไว้คือ มนุษย์เรา เข้าใจผิดคิดว่าเมนูอาหารที่ทำจากสัตว์ป่ามีสรรพคุณทางยาโด๊ป ยาชูกำลัง แท้จริงแล้วก็แค่แหล่งโปรทีนอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง แถมในเนื้อสัตว์ป่าจะมีเชื้อโรคที่ไม่ทำให้สัตว์เจ็บป่วย  แต่พอเราไปชำแหละะอาจติดเชื้อโรคจากสัตว์ป่ามาสู่ตัวเราได้”

“หมอล็อต” อธิบายต่อไปว่า สิ่งที่ทำให้เกิดสรรพคุณชูกำลังได้จริงๆ ก็คือพืชผักสมุนไพร ผักริมรั้วครัวพื้นบ้านต่างหาก ไม่ใช่เนื้อสัตว์ป่าซึ่งเป็นแค่แหล่งโปรทีนไม่ต่างจากเนื้อหมู เนื้อไก่ ฯลฯ ว่าแล้วหมอล็อตก็ถือโอกาสเข้าครัวทำ ยำผักปลัง ผักพื้นบ้านที่มีประโยชน์  เป็นผักที่ต้องปรุงสุกก่อนรับประทาน ช่วยแก้โรคเบาหวาน มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือด มีวิตามินบีสูง  ว่าแล้วหมอหนุ่มก็เข้าครัวลงมือปรุงเมนูชนิดยำรสแซ่บโดนใจ

ยำผักปลัง

เครื่องปรุง :

ผักปลัง, กากหมู , หมูสับ,กุ้งสด,พริกแห้งเบรคแตก,พริกขี้หนูซอย,น้ำปลา,น้ำตาลละลาย,น้ำมะนาว,หอมแดงซอย

วิธีทำ :

1. เด็ดใบผักปลังอ่อนๆ จากนั้นนำไปลวกพอสุกตักขึ้นพักไว้ จากนั้นรวนหมูสับและกุ้งสดพอสุกพักไว้
2. นำเครื่องปรุงเช่นน้ำตาลละลาย, น้ำปลา, น้ำมะนาว, หอมแดง และพริกขี้หนู คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. จากนั้นใส่หมูสับและกุ้งลงไปคนคลุกเคล้า ใส่กากหมูลงไปคลุกเคล้า ตามด้วยพริกเบรคแตก
4. สุดท้ายใส่ผักปลังลวกลงไปคนคลุกเคล้าให้เข้ากับเครื่องยำก่อนเสิร์ฟ