‘โคคาสุกี้’ เสิร์ฟมา 64 ปี น้ำจิ้มถึงใจ น้ำซุปไก่ อร่อยมาก
“โคคาสุกี้” เสิร์ฟมา 64 ปี จากรุ่นคุณปู่คุณย่า มาจนถึงรุ่นที่ 3 ความอร่อยยังคงเดิม ด้วยความใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบ พิถีพิถันในการปรุงแบบโฮมสไตล์ เหมือนทำกินเองในครอบครัว “สุกี้ยากี้” มีจุดเด่น “น้ำจิ้มถึงใจ" และ "น้ำซุปไก่" อร่อยมาก
วันนี้หมูหวานขอแนะนำ “โคคา ภัตตาคาร” สาขาสุรวงศ์ หรือรู้จักกันในนาม “โคคาสุกี้” ทำให้มองเห็นภาพของหม้อสุกี้ที่มี “น้ำซุปไก่” ตั้งอยู่ตรงกลางโต๊ะ ผู้ที่นั่งอยู่รายล้อมรอน้ำซุปเดือด อย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่บนโต๊ะพรั่งพร้อมไปวัตถุดิบที่แต่ละคนชื่นชอบ อาทิเช่น ผักชุดใหญ่ เนื้อวากิวริบ, เนื้อออสเตรเลียวากิว, เนื้อหมัก,โกเบริบอาย,เนื้อวากิว ชัค โรล (Aua Wagyu Chuk Roll) หมูสไลด์,ไก่หมัก, กุ้งลายเสือ,ตับหมู,เซี่ยงจี๊, ปลาเก๋า,ปลาแซลมอน ฯลฯ
โคคา ภัตตาคาร เปิดบริการในปี พศ. 2500 (คศ.1957) วันนี้อายุ 64 ปีแล้ว ยังคงรสชาติดั้งเดิม “น้ำจิ้มถึงใจ” และ “น้ำซุปไก่” อร่อยมากนี่คือรสมือของเจ้าของร้าน “รุ่นที่ 1” คุณนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าว่า ขณะเธออายุ 12 ปีกำลังจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ คุณพ่อ พิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณ (ทายาทรุ่นที่ 2) ถามเธอว่า จะสืบทอดธุรกิจ “โคคาสุกี้” ไหม ? เพราะขณะนั้นเป็นช่วงธุรกิจต้มยำกุ้ง คุณพ่อกำลังตัดสินใจ
“ด้วยความที่เรารัก และผูกพันธ์กับคุณย่า(ปัทมา พันธุ์เพ็ญโสภณ)มาก ปกติท่านจะนั่งอยู่โต๊ะหัวมุมตรงโน้น คอยทักทายลูกค้าทุกคนที่เดินเข้ามา คุณย่าเป็น Business Women ทำอาหารอร่อยมาก และชอบทำงานมาก นัฐก็เลยตอบคุณพ่อไปว่า อย่าเพิ่งขายธุรกิจนี้ นัฐจะทำเอง อาจเป็นเพราะเราโตมากับร้านอาหาร ได้คลุกคลี ก็เลยชอบ จำได้ว่าตอนเด็กๆคุณย่าซื้อคุ๊กกี้ที่เป็นปี๊บ เราก็เอามาแพคเป็นถุงเล็กๆ ขายให้พนักงาน น่าจะมีแววว่าชอบด้านนี้ (หัวเราะ) กลายเป็นคนทำอาหารตั้งแต่เด็ก เกิดไอเดียค้าขายตั้งแต่เด็ก คิดว่าเราคงชอบด้านนี้แหละ ก็เลยบอกคุณพ่อไปว่า อย่าเพิ่งขายธุรกิจไปนะรอนัฐก่อน ทำให้ธุรกิจนี้ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้”
“คุณย่า กับคุณปู่ (ศรีชัย พันธุ์เพ็ญโสภณ) ของนัฐมาจากเมืองจีน แล้วสองคนก็มาเจอกันที่เมืองไทย พอคุณย่าตั้งท้องคุณพ่อ ด้วยความที่เป็นคนทำงานมาตลอด ก็เลยไม่อยากอยู่เฉยๆ ลองทำร้านอาหารเล็กๆที่ซอยเดโช ขึ้นมา มีประมาณ 20 ที่นั่ง สมัยก่อนหาร้านอาหารจีนอร่อยๆยาก พอขายดีมากๆ เจ้าของที่ก็ขอขึ้นค่าเช่า 3 เท่า คุณย่ารู้สึกไม่โอเค ก็เลยไปหาทำเลใหม่ เจอที่ตรงนี้แล้วสร้างตึกโดยคุมงานก่อสร้างเองทั้งหมดตั้งแต่ลงเสาเข็ม โดยจ้างสถาปนิกเก่งๆมาคนหนึ่ง โครงสร้างของตึกนี้จะไม่มีเสาตรงกลางเลย คุณย่าบอกว่าไหนๆก็สร้างแล้วก็เลยให้อลังการไปเลย”
“โคคา ภัตตาคาร” สาขาสุรวงศ์ มีทั้งหมด 4 ชั้น เมื่อ 10 ปีก่อนมีการปรับปรุงอาคารไปแล้ว 1 รอบแค่ทาสีเก็บงานเล็กๆน้อยๆส่วนใหญ่ยังคงแบบเดิม ชั้นล่างเปิดเป็นร้านอาหาร ชั้น 2 เป็นห้อง VIP ชั้น 3 เป็นห้องโถง สำหรับงานจัดเลี้ยง เช่นแต่งงาน เนื่องจากคนสมัยก่อนหากไม่จัดงานแต่งฯ ที่โรงแรม ก็จะจัดที่ภัตตาคารจีนหรูๆ สมัยนั้นมีคนมาจัดงานแต่งงานที่นี่เยอะมาก ส่วนชั้นบนสุดของอาคารเป็นที่พักอาศัยของครอบครัว ปัจจุบันกลายเป็นออฟฟิศของคุณนัฐไปเรียบร้อยแล้ว
นับจากวันแรกที่เปิดร้านขายอาหาร มาจนวันนี้ “สุกี้โคคา” อยู่มา 64 ปี อะไรคือเคล็ดลับความอร่อยที่เป็นอมตะ เช่น “น้ำซุปไก่” รสดั้งเดิม “น้ำจิ้มถึงใจ” อร่อยเด็ด คุณนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าต่อไปว่า
“ก่อนอื่นต้องเล่าว่า เชฟสมัยนี้มีความเป็น Professionals กว่าสมัยก่อนที่อาหารต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์เชฟ ถ้าอร่อยแสดงว่าเชฟอารมณ์ดี ถ้าไม่อร่อยแสดงว่ากำลังโมโห มีครั้งหนึ่งคนจองเข้ามา 400 ที่ เชฟเกิดอารมณ์เสียขึ้นมา ไม่ทำอาหาร Walk Out คุณย่าก็เลยบอกว่า ออกไปเลยไม่ต้องกลับมาแล้วนะ ฉันทำเอง คุณปู่เป็นนัก Innovation ก็เลยคิดว่าเรามีตึก 4 ชั้นหรูหราลงทุนไปเยอะ แล้วต้องมานั่งเอาใจเชฟ คงไม่ไหว คิดว่าจะทำอย่างไรให้อาหารจัดการได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็เลยเป็นไอเดียขาย สุกี้ยากี้ ขึ้นมา เพราะแรกเริ่มเราทำร้านอาหารจีนกวางตุ้ง สุกี้สมัยก่อนเรียกว่า โล้ว เสิร์ฟมาเป็นถาดมีทุกอย่างอยู่ในนั้น มีไข่อยู่ข้างบน น้ำเดือดก็คนทุกอย่างแล้วเทลงไปในหม้อ เป็นสุกี้โบราณ แต่คุณปู่ ไม่ชอบกินเครื่องใน คิดว่าทำไมเราต้องจ่ายค่าเครื่องใน เพราะเราไม่ได้กิน ก็เลยคิด Businee Model ขึ้นมาเป็น สุกี้ a la Carte ฉันอยากกินอะไร ก็สั่งแบบนั้น”
จากนั้นผู้ก่อตั้ง ทุ่มทุนไปเปิดสาขาสองที่ “สยามสแควร์” (ปัจจุบันได้ปิดไปแล้ว) ออกแบบอาคารและสร้างขึ้นมาจนกลายเป็นภัตตาคารจีนแบบไฟน์ไดนิ่ง สุดหรู มี 3 ชั้นจุคนได้ 400 คน เฉพาะบันไดทองเหลือง เคลือบทองคำเปลว มูลค่า 2 ล้านบาท เมื่อ 54 ปีก่อนถือว่าแพงมาก ทว่าขายบะหมี่ชามละ 20 บาท เป็นที่รู้จักกันในนาม “โคคา-บะหมี่” ดังในเรื่อง “บะหมี่น่องไก่ตุ๋น” “บะหมี่เป็ดย่าง” “บะหมี่หมูแดง-หมูกรอบ” เป็นบะหมี่ทำเองใหม่สดทุกวัน
“บะหมี่รถเข็นสมัยก่อนขายกันชามละ 5 บาท แต่ของเราขาย 20 บาท แต่มีแอร์เย็นๆ มีความหรูหรา มี Private Room ก็เลยมีความ Popular เป็นจุดกำเนิดของโคคาที่สยาม แต่สาขาสุรวงศ์ใหญ่กว่าเยอะ ส่วนเรื่องคุณภาพของอาหาร คุณพ่อนัฐจะเหมือนกับคุณปู่เลยตรงที่ว่าลูกค้าต้องมาก่อน อาหารคุณภาพดีต้องมาก่อน ขายได้กำไรเท่าไหร่ค่อยว่ากัน ทุกคนมาแล้วต้องได้กินของดี เราเลือกวัตถุดิบออร์แกนิค ใช้ผลิตภัณฑ์ดอยตุงตั้งแต่ออกมาในยุคแรกๆ
เนื้อสัตว์ก็ใช้แบบออร์แกนิค เช่นผลิตภัณฑ์ของเบทาโกร เรายึดติดกับคำพูดของคุณย่าที่ว่า อาหารที่อร่อย ต้องมาจากวัตถุดิบที่ดีและสดเท่านั้น คุณไม่สามารถเอาปลาที่มีกลิ่นแล้วไปทอดคลุกกับซอส แล้วทำให้มันอร่อยออกมาได้ อันนี้เป็นความเชื่อของเรา ตั้งแต่คุณปู่คุณย่า มาถึงวันนี้คิดว่าอันนี้คือ เคล็ดลับความอร่อยของเรา ทุกคนถามว่าร้านอาหารอยู่มาได้ยังไงตั้ง 3 Generation พูดได้คำเดียว เราไม่มี Shortcut อะไรเลย และเราจะไม่ Shortcut อะไรทั้งสิ้น นี่คือการทำธุรกิจแบบยั่งยืนของเรา”
วันแรกที่ คุณนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ มารับช่วงธุรกิจคุณพ่อให้โจทย์มาว่า ทำอย่างไรให้ “โคคาสุกี้” อยู่ไปถึง 500 ปี จากคำพูดนี้ทำให้ “ทายาทรุ่นที่ 3” ต้องคิดทุกอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจในทุกๆเรื่อง ขณะนี้เธอรับช่วงธุรกิจมาได้ 5 ปีแล้ว
“เราต้องค่อยๆทำความเข้าใจกับลูกค้าที่มีอยู่ในมือด้วย เพราะอย่างแรกที่คนรุ่นใหม่จะทำก็คือ Rebranding เพราะคิดว่าของเก่ามันเชย จะเปลี่ยนโลโก้ดีไหม หรือยกหม้อสุกี้ออก ยอมรับว่าเคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน คิดว่าทำไมคนที่รู้จัก โคคาสุกี้ จึงเป็นกลุ่ม Baby Boomer เท่านั้น คนรุ่นใหม่ล่ะ จึงเริ่มศึกษาว่าอะไรคือ ฉันเคยกินสุกี้โคคา แต่ตอนนี้ฉันไม่กินแล้ว ตอนนี้ทุกๆวันหยุดจะเห็นคน 3-4 Generation มานั่งทานอาหารด้วยกันเป็นครอบครัว ก็เลยคิดว่า ถ้าเราสามารถเก็บ Memory ไว้ให้ครอบครัวต่อไปได้ ก็จะไม่เปลี่ยนอะไร เพราะปัจจุบันทุกคนทำงาน กว่าจะมารวมตัวกันกินข้าวพร้อมหน้านั้นยากกว่าสมัยก่อนมาก เด็กสมัยนี้งานเยอะมาก มีข้ออ้างต่างๆนาๆ แต่ถ้าเขาสามารถทำให้คุณปู่คุณย่าดีใจได้ด้วยการพาท่านมาทานอาหารที่นี่ ถ้าเราเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Memory ให้กับครอบครัวเขาได้ อันนี้สำคัญกว่า ดังนั้นสาขาที่มีอยู่ดั้งเดิมเช่นที่นี่สาขา สุรวงศ์ และสาขาสุขุมวิท 39 ก็จะเก็บไว้อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง”
“โคคาสุกี้” รสชาติอาหารตำรับคลาสสิคคงไว้เช่นเดิม เพิ่มเติมคือการนำเสนอในรูปแบบที่น่ารับประทานมากขึ้น เช่นเปลี่ยนจานอาหารให้ดูดีขึ้น การจัดจานให้ดูดี การทำร้านอาหารให้อยู่นานไปถึง 500 ปีนั้นเธอว่าไม่ควรอิน “เทรนด์” มากเพราะ “เทรนด์”อยู่ได้ไม่นาน ทว่าความเป็นกลาง และความคลาสสิค จะยั่งยืนกว่า เพียงเราค่อยๆปรับตัวไปกับกาลเวลา
กว่า 60 ปี “น้ำจิ้มสุกี้” ไม่เคยเปลี่ยนสูตรเลย ยังคง “น้ำจิ้มเด็ดถึงใจ” เพราะคุณย่าคิดสูตรน้ำจิ้มที่สามารถจิ้มกับอะไรก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะ “สุกี้” เท่านั้น ทว่า ทายาทรุ่นที่ 3 ก็ได้คิดสูตร “ซอสเผ็ดร้อน” ขึ้นมาเพิ่ม แรงบันดาลใจคือเวลาคนกิน "สุกี้ยากี้" มักจะต้องเติมพริก กระเทียม มะนาวลงไปในน้ำจิ้ม เธอมีไอเดียทำ "ซอสที่เผ็ด" เพื่อเอาไปผสมใน “น้ำจิ้มสุกี้” แบบดั้งเดิม ต้องการเผ็ดขนาดไหนเติมลงให้สะใจได้เลย
นอกจาก “สุกี้โคคา” แล้ว อาหารจีนตำรับคลาสสิคที่ขายมา 64 ปี ยังอร่อยเหมือนเดิมเช่น กุ้งยัดไส้โคคา (128 บาท)เป็นเมนูที่คุณย่าคิดขึ้นมาโดย นำเนื้อกุ้งสับมาผสมกับหมูสับ และหน่อไม้ ปรุงรส แล้วยัดกลับไปในตัวทอดจนเหลืองกรอบเสิร์ฟร้อนๆ ไก่ห่อโคคา (68 บาท)ก็จะเป็นเนื้อไก่หมักกับเครื่องปรุง นำใส่ลงไปในซองกระดาษ(สำหรับทำอาหาร) แล้วทอด สมัยก่อนต้องสั่งกระดาษจากประเทศจีน ไก่ที่ทอดออกมาจะมีความนุ่มชุ่มฉ่ำไม่แห้ง อีกเมนูคือ โกยซีหมี่ อร่อยไม่เหมือนใครเพราะ “บะหมี่” ทำเองใหม่สดทุกวัน ขั้นตอนคือนำบะหมี่ไปนึ่ง แล้วตากแห้ง ก่อนนำไปทอด ทำให้มีบะหมี่มีความกรอบ หนึบ ราดมากับซอสหน่อไม้ ไก่ฉีก อร่อยไม่รู้ลืม
ใครมา “โคคา ภัตตาคาร” ต้องสั่ง หมูหัน เป็น หมูหันสไตล์ฮ่องกง (2,998 บาท) หนังกรอบและ นกพิราบฮ่องกง (688 บาท)เป็นอีกเมนูคลาสสิคที่หารับประทานยาก ทางร้านอิมพอร์ต “นกพิราบ” มาจากฮ่องกง คัดตัวที่อ้วนๆ มันน้อยๆ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ อีกเมนูหวานคลาสสิคคือ กะลอจี๊ เนื้อบางกรอบ รับประทานแล้วไม่ทำร้ายสุขภาพมาก เพราะทั้งองค์กรใช้น้ำมันรำข้าว ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ปรับใช้มา 20 กว่าปีแล้ว รวมทั้งเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษ เนื่องจากรุ่นที่ 3 เรียนด้าน นิวทรีชั่น ที่ คิงส์ คอลเลจ ลอนดอน(จากนั้นเรียนปริญญาโทด้าน Food Science ที่ University of Reading) มีการพูดคุยกับรุ่นที่ 2 จนมีการ ปรับเปลี่ยนบางอย่างให้ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค
ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศภัตตาคารสุดหรูคลาสสิคที่เปิดมายาวนาน 64 ปี เชิญได้ที่ “โคคา ภัตตาคาร” ถนนสุรวงศ์ จะสั่ง ชุดสุกี้หม้อเดี่ยว (290 บาท) หรือ สุกี้โคคา Signature Suki เช่น ชุดคอมโบพรีเมียม (798 บาท) มีพร้อมทั้งชุดผัก เนื้อ และ ชุดทะเล แบบเต็มอิ่ม หรือจะสั่ง ชุดสุกี้หมู (498 บาท) ชุดสุกี้ซีฟู้ด (598 บาท) ชุดสุกี้ผัก (228 บาท) ก็สั่งกันได้ น้ำซุปมีให้เลือก 7 ชนิด เช่น น้ำซุปไก่ ใช้ซี่โครงไก่เคี่ยวกับหัวไชเท้าหอมกรุ่น กลมกล่อมอร่อยมานานตั้งแต่สมัยคุณย่า เสิร์ฟฟรี ทว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มเมื่อสั่ง ซุปหม่าล่า (98 บาท) ซุปไก่มะพร้าวอ่อน (128 บาท) น้ำซุปญี่ปุ่น (118 บาท) น้ำซุปต้มยำ (118 บาท) น้ำซุปผัก (50 บาท) น้ำซุปทรัฟเฟิล (128 บาท) เลือกรับประทานกันได้ไปตามสบาย
ประเภทอาหาร: สุกี้ยากี้ หม้อไฟ อาหารจีนกวางตุ้ง
เมนูเด็ด : สุกี้ยากี้ หมูหันฮ่องกง โกยซีหมี่
ราคา : 128-2,998 บาท
ที่อยู่ : โคคา ภัตตาคา (Coca Restaurant) เลขที่ 8 อนุมานราชธน ถนนสุรวงศ์ (ตรงข้าม Mango Tree) 400เมตร จาก MRT สามย่าน และ 500 เมตร จาก BTS ศาลาแดง เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-21.00 น. โทร. 02-236-0107