'NFT' คืออะไร? รู้จัก 'สินทรัพย์' แบบใหม่ ให้ผู้ครอบครองเป็น 'เจ้าของทิพย์' บนโลกดิจิทัล
ทำความรู้จัก "NFT" (Non-Fungible Token) "สินทรัพย์ดิจิทัล" รูปแบบหนึ่ง ที่สามารถเปลี่ยนงานศิลปะ บทเพลง ฯลฯ มาซื้อขายบน "โลกดิจิทัล" ได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องมีคนกลาง
เมื่อคลื่น "ดิจิทัล" กำลังเปลี่ยนโลก เมื่อสิ่งใดๆ ก็ตาม สามารถมาโลดแล่นอยู่ในโลกดิจิทัลได้ และไม่ได้มาอยู่แค่ในฐานะของภาพที่มองเห็นได้ทั่วโลก แต่มาในรูปแบบของ "กรรมสิทธิ์" เสมือนว่าเรากำลังครอบครองของเหล่านั้นอยู่จริง โดยเรามีสิทธิ์ในการซื้อขายสิ่งเหล่านั้นได้ในฐานะของเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ ด้วย
- รู้จัก "NFT"
สิ่งที่เรากำลังพูดถึงคือ "Non-Fungible Token" หรือ "NFT" คือ สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง อยู่ในเทคโนโลยีบล็อกเชน คล้ายกับ "Cryptocurrency" ที่จริงๆ มีหลายสกุลเงินมาก แต่ที่โด่งดังคุ้นหูที่สุดตอนนี้ ก็คือ สกุลเงินดิจิทัลอย่าง "Bitcoin"
สำหรับ จุดเด่นของ NFT คือ ตรงตามชื่อ คือ การเป็น "โทเคน" ที่ไม่สามารถทำซ้ำหรือคัดลอกได้ และจะมีชิ้นเดียวในโลกตามของสิ่งนั้นที่มีอยู่จริงๆ
NFT ในช่วงแรก นิยมนำมาใช้ในแวดวงศิลปะ โดยนำภาพวาด งานศิลปะ ประติมากรรม เพลง วิดีโอ เกม การ์ตูน ฯลฯ ที่เป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาของผู้สร้างมาเปลี่ยนเป็น NFT หรือที่ภาษาเทคนิคเรียกว่าการ "มินท์"
เมื่อมินท์งานศิลปะมาอยู่ในรูปแบบ NFT แล้ว มันจะกลายเป็น "เหรียญ" หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ผู้ถือครองเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นได้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเราจะได้ "กรรมสิทธิ์" ของเหรียญนั้นมา แต่ไม่ได้สิ่งของชิ้นนั้น (เว้นแต่เจ้าของผลงานต้องการส่งมอบให้จริงๆ เป็นกรณีพิเศษ) โดยการครอบครองนี้จะเรียกว่า "ครอบครองทิพย์" ก็ไม่ผิดนัก
เมื่อเราได้ครอบครอง NFT ของผลงานนั้นๆ แล้ว เราสามารถซื้อขาย โอนย้ายกรรมสิทธิ์บนระบบ "บล็อกเชน" ระหว่างคนที่ต้องการซื้อและคนที่ต้องการขายแบบไม่มีคนกลาง
"ข้อดี" ของการซื้อขายผ่าน "บล็อกเชน" คือ ทุกกิจกรรมหรือธุรกรรมที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกไว้ทั้งหมดในแบบที่ไม่สามารถมาแก้ไขได้ หรือหากมีคนพยายามแก้ไข ก็สามารถตรวจสอบได้ ตรวจสอบประวัติการโอนย้ายได้ทั้งหมดถึงขั้นรู้ว่าใครเคยเป็นเจ้าของ NFT มาก่อนหน้าเราบ้าง
ซึ่งการเก็บข้อมูลเหล่านี้ คือคุณสมบัติของบล็อกเชนที่ทำให้การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ยุคใหม่มีความโปร่งใสแบบไม่ต้องอาศัยคนกลางอีกต่อไป
- "NFT" มีประโยชน์อย่างไร ?
โลกของ NFT ในต่างประเทศ เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในแวดวงงานศิลปะและนักสะสมที่เข้ามาสร้างตัวตนแบบดิจิทัลกันมากขึ้น แต่มีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายวงการ เช่น งานศิลปะ เกม และการลงทุน
- "NFT งานศิลปะ" ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก
อีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนว่า NFT ได้รับความสนใจ และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต คือ "มูลค่าของ NFT" ที่ตัวเลขดันไปถึงหลัก "ล้านเหรียญ"
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวม 5 อันดับ "NFT งานศิลปะ" ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก (ข้อมูล ณ เดือนมิ.ย. 64) มาให้ดูกัน
อันดับ 1 ภาพ Everydays: the First 5,000 Days โดย Beeple มูลค่า 69.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 2 ภาพ CryptoPunk #3100 โดย Anonymous มูลค่า 7.58 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 3 ภาพ CryptoPunk #7804 โดย Anonymous มูลค่า 7.57 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 4 ภาพ Crossroads โดย Pablo มูลค่า 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 5 ภาพ The First Tweet โดย Jack Dorsey มูลค่า 2.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความน่าสนใจของงานศิลปะแบบ NFT คือ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นผู้สร้างงานศิลปะ และขายงานได้ หากงานนั้นๆ ถูกตาต้องในนักสะสม หรือเป็นที่ต้องการของใครก็ตามที่อยากครอบครอง ซึ่งนอกจากจะเปิดโอกาสให้นักสะสมได้พบกับผลงานศิลปินที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่มีพื้นที่ในการแสดงผลงานของตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วย
การใช้งาน NFT ในบ้านเรา ฟังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวนักในตอนนี้ เพราะ ณ เวลานี้ (ก.ค. 64) ก.ล.ต. ยังไม่อนุญาตให้ซื้อขาย NFT ได้อย่างถูกกฎหมายของประเทศไทย ในขณะที่ผู้พัฒนาระบบที่สนใจเปิดตลาด NFT ในไทยอย่าง "JNFT" ในเครือของ J-MART และ Token nine ก็กำลังรอความชัดเจนในเรื่องนี้เช่นกัน และคาดว่าอีกไม่ช้าไม่นานบรรดานักสะสม นักลงทุน จะมีโอกาสได้เห็นผลงานต่างๆ ของคนไทยโลดแล่นในรูปแบบของเหรียญดิจิทัล และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคนไทยที่สนใจได้