‘Facialific’ ศาสตร์ปรับรูปหน้าด้วยนวัตกรรมความงามระดับสากลตามหลัก ‘Golden Ratio’
“Facialific” เป็นศาสตร์รูปแบบใหม่ในการปรับรูปหน้าเฉพาะบุคคล โดยปรับตามหลัก "Golden Ratio" รวมถึงสามารถพักฟื้นจากการทำหัตถการน้อยที่สุด
“Facialific” คือ ระบบกระบวนการในการวิเคราะห์ ออกแบบและปรับแก้รูปหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงใบหน้าเฉพาะบุคคล ตามหลักการ “Golden Ratio” หรือ “สัดส่วนทองคำของใบหน้า” บนพื้นฐานทางการแพทย์ที่ปลอดภัย โดยมุ่งเน้นให้ระยะพักฟื้นของการรักษาน้อยที่สุด
พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์ หรือ “หมอขนม” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เวชศาสตร์ความงามและการชะลอวัย เธอเป็นคุณหมอที่มีประสบการณ์การปรับรูปหน้ามามากกว่าหมื่นเคส จนได้ชื่อเป็นหนึ่งในแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศไทย และยังได้รับตำแหน่งแพทย์ผู้ถ่ายทอดเทคนิคการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน การฉีดฟิลเลอร์ และการร้อยไหม ที่อายุน้อยที่สุดในอาเซียน
ด้วยความสามารถที่โดดเด่นนี้ของหมอขนมนี่เอง จึงทำให้ล่าสุด เธอได้รับรางวัล "Best of Facial Transformation Result" จากสื่อดังระดับโลก ในการปรับรูปหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ถึงแม้ว่าจะมีการันตีจากนิตยสารชื่อดัง แต่หมอขนมก็ไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาตนเองและองค์กรเพื่อให้เติบโตไปข้างหน้าจนถึงจุดสูงสุด เธอได้พยายามค้นหาวิธีการปรับรูปหน้าที่ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด และทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ผู้รับบริการพึงพอใจมากที่สุด เป็นการสร้างระดับมาตรฐานความงาม ที่พร้อมสรรพทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
ที่มาศาสตร์ “Facialific”
จากการตั้งข้อสังเกตของ “หมอขนม” ในการปรับรูปหน้ามากกว่าหนึ่งหมื่นคน จึงทำให้เธอค้นพบว่า ความงามของแต่ละคนนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่จะทำให้ความงามเหล่านี้ลงตัวได้คือหลัก “Golden Ratio” หรือ “สัดส่วนทองคำของใบหน้า” ที่จะส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า facial terrific ดังนั้นหมอขนมจึงได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในระดับสากลร่วมกันคิดค้นและพัฒนาเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า “Facialific” ที่สามารถดึงรูปแบบความงามที่ดีที่สุดของแต่ละบุคคลออกมาได้อย่างโดดเด่นชัดเจน
กระบวนการ “Facialific” เอกสิทธิ์เฉพาะหมอขนม
Facialific คือ ระบบกระบวนการในการวิเคราะห์ ออกแบบและปรับแก้รูปหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงใบหน้าเฉพาะบุคคล ก่อเกิดความสมดุลเป็นธรรมชาติ บนพื้นฐานทางการแพทย์ที่ปลอดภัย โดยมุ่งเน้นให้ระยะพักฟื้นของการรักษาน้อยที่สุด ซึ่งจะจัดสรรกระบวนการต่างๆ ที่เหมาะสมกับผู้ใช้บริการด้วยระบบ “Threshold Matrix Management” หรือ TMM ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้ผู้มารับบริการปรับแก้รูปหน้าจะยังคงความเป็นธรรมชาติในแบบของตัวเอง ตามหลัก “Unique Golden Ratio” หรือ “สัดส่วนทองคำ” หรือ TMM ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงความเป็นธรรมชาติในแบบของตัวเอง ตามหลัก “Unique Golden Ratio” หรือ “สัดส่วนทองคำ” โดยมีขั้นตอนการรักษาทั้งหมด 5 กระบวนการ
ขั้นตอนการรักษามี 5 กระบวนการ ดังนี้
กระบวนการที่ 1 Alignlytic
Alignlytic มาจากคำว่า Align + Analytic เป็นกระบวนการที่แพทย์ทำการวิเคราะห์ใบหน้าเพื่อปูพื้นฐานสู่กระบวนการปรับปรุงรูปหน้าในขั้นตอนต่อไป เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ใบหน้าตามหลักการสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และลดการบาดเจ็บจากการทำหัตถการให้น้อยที่สุด โดยจะทำการตรวจประเมินและวิเคราะห์ใบหน้า ร่วมกันกับการประเมินความต้องการของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการรักษาให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้เข้ารับบริการต้องการและพึงพอใจต่อไป
กระบวนการที่ 2 คือ Designative
Designative มาจากคำว่า Design + Native เป็นกระบวนการสร้างรูปหน้าโดยมุ่งเน้นการปรับสภาพและปูพื้นฐานให้ผิวเสมือนกลับคืนสู่วัยเยาว์ ด้วยการฟื้นฟูคอลลาเจนและฟื้นฟูโครงสร้างชั้นผิวควบคู่กันโดยการใช้เทคโนโลยียกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัดเพื่อให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
กระบวนการที่ 3 คือ Fulfillage
Fulfillage มาจากคำว่า Fulfill + Age เป็นกระบวนการการเติมเต็มสาร Hyaluronic Acid เพื่อแก้ไขตามโครงสร้างกระดูกใบหน้าหรือกะโหลกศีรษะ ซึ่งต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมกับสภาพผิว ปัญหา และช่วงอายุของผู้เข้ารับการบริการ ร่วมกับการนำเทคโนโลยีความงามที่เรียกว่า “Ultra Facial Utilization” หรือ UFU มาใช้งาน โดยเป็นการใช้คลื่นพลังงานความถี่สูง ยิงเข้าสู่ใต้ผิวหนังเพื่อตรวจสอบโครงสร้างที่สำคัญภายในร่างกาย เช่น โครงสร้างเส้นเลือด ชั้นผิว ชั้นกระดูกที่ทรุดลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้มีความแม่นยำ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการทำหัตถการต่างๆ
กระบวนการที่ 4 คือ Tightenic
Tightenic มาจากคำว่า tighten + harmonic เป็นกระบวนการเพิ่มความกระชับและความแข็งแรงของชั้นผิว รวมไปถึงแก้ไขความหย่อนคล้อย คืนความกระชับให้กับผิวด้วยวิธีการร้อยไหม โดยเริ่มตั้งแต่ชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อ และผิวหนังชั้นบน เพื่อช่วยในเรื่องของการพยุงโครงสร้างชั้นผิวให้แข็งแรงแบบถาวร เน้นย้ำให้ผลลัพธ์ของผิวแข็งแรงขึ้นแบบยั่งยืน และแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยส่วนเกิน
กระบวนการที่ 5 คือ Turn all round
Turn all round มาจากคำว่า Turnaround + All เป็นกระบวนการสุดท้ายก่อนเข้าสู่การวัดผลการรักษา ด้วยการปรับเปลี่ยนสภาพผิว (Resurfacing) โดยการใช้เลเซอร์เปิดผิว เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ร่วมกันกับการทำ PRP ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ลง และส่งผลให้ผลลัพธ์ทั้งหมดจากทั้ง 4 กระบวนการ ให้คงอยู่อย่างยาวนานและยั่งยืนมากขึ้น
ท้ายสุดของกระบวนการ Facialific เป็นการวัดผลโดยการนำผลลัพธ์ก่อนและหลังการรักษามาเปรียบเทียบถึงความเปลี่ยนแปลง โดยจะสามารถเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนด้วยการใช้เครื่อง F-Ray Beauty Compass ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวในอาเซียน ที่เปรียบเสมือนหลักประกันผลลัพธ์ความงามที่ตรวจวัดได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์หลังจากจบกระบวนการอย่างเป็นรูปธรรม และจับต้องได้มากยิ่งขึ้น
แนวทางและความตั้งใจของหมอขนมจากกระบวนการ Facialific
ดั่งสโลแกน Facialific “Make A Terrific Face” ที่สะท้อนเจตนารมณ์ของ “หมอขนม” โดยมุ่งเน้นถึงความสำคัญของผลลัพธ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติในแบบของตัวเอง เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาให้ไปสู่ระดับที่ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ผู้รับบริการได้รับความพึงพอใจในระดับสูงสุดแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน