พักผ่อน เติมพลังแบบรักษาระยะห่าง ที่ ‘ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ’

เรือแล่นมาถึงเกาะพีพี มองเห็นหน้าหาดโรงแรม “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” (SAii Phi Phi Island Village) 

ก่อนกรุงเทพฯมหานครจะทำการ “ล็อกดาวน์”  มีโอกาสเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าบินลัดฟ้าด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส(Bangkok Airways Asia's Boutique Airline) มุ่งหน้าสู่ จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 หลังงานเปิดตัวโครงการ “ภูเก็ต Sandbox”  เพียง 1 วัน พอไปถึงสนามบินภูเก็ต ก็มุ่งหน้าสู่ “ท่าเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ภูเก็ต” (Ao Po Grand Marina ,Phuket) จุดหมายก็คือ “เกาะพีพี”  และ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village)

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก็ถึง “เกาะพีพี” ต้อนรับเราด้วยสายลมที่พัดมาเบาๆอย่างอ่อนโยน แม้ว่าแสงแดดวันนี้จะดูเกรี้ยวกราด แต่ทะเลใสแจ๋วก็ส่งเสียงคลื่นมาปลอบประโลมจิตใจ พนักงานของโรงแรมกล่าวยินดีต้อนรับด้วยรอยยิ้มอย่างอบอุ่น พร้อมกับเสิร์ฟเครื่องดื่ม Welcome Drink เย็นๆแสนชื่นใจ เรียกได้ว่าแรกสัมผัสก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

 

พูดถึง “SAii” (ทราย) เป็นแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทใหม่ของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (S Hotels & Resorts Public Company Limited: SHR) ผู้นำธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติสัญชาติไทย ในเครือของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ถือว่าเป็นแบรนด์โรงแรม และรีสอร์ทไลฟ์สไตล์ระดับบน (Upper Upscale) ที่มีบุคลิกสนุกสนาน และมอบความอิสระให้กับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่

“ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” (SAii Phi Phi Island Village)  คำว่า SAii นอกจากจะหมายถึง “ทราย” แล้ว ยังหมายถึง “สาย” หรือ “เส้นทาง” ที่นำไปสู่ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอีกด้วย เรียกได้ว่าที่นี่เน้นตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย “InSAiiders” (อินทรายเดอร์) หรือ สาวกแบรนด์ “SAii” ที่มีหัวใจนักสำรวจ และรักในการแสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และการค้นพบอันน่าตื่นตาตื่นใจ สอดคล้องกับพฤติกรรมนักเดินทางรุ่นใหม่ยุคดิจิทัล 

ด้วยแนวคิดการบริการของ SAii ผู้เข้าพักจะได้รับความประทับใจตั้งแต่ “Hello” การต้อนรับแบบอบอุ่นสไตล์ไทย ไปจนถึง “Hub” ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และสังคม “Sleep” กับห้องพักที่สะดวกสบาย รวมถึงห้องสวีทและวิลล่า “Play” สะท้อนถึงกิจกรรมของรีสอร์ทอันหลากหลาย “Treat” นำเสนออาหารรสเลิศนานาชาติจากห้องอาหารหลากหลาย และ “Live” ที่จะช่วยเนรมิตงานแต่งงานหรืองานอีเวนต์สุดพิเศษไม่รู้ลืม ก่อนที่ “SAii For Now” กล่าวคำอำลาอย่างจริงใจจาก “SAiilanders” (ทรายแลนเดอร์) หรือพนักงานของ SAii เรียกได้ว่า ตั้งแต่เดินทางมาถึง จนกระทั่งหมดเวลาพักผ่อนจำต้องเดินทางกลับ ความประทับใจยังคงล่องลอยอยู่ในหัวใจอย่างไม่รู้ลืม

กิจกรรมทางน้ำ พายเรือคายัคหน้าหาดมองเห็นแนวปะการัง ถัดไปเป็นป่าชายเลนมองเห็นสัตว์ทะเลแหวกว่ายอย่างสบายใจ

เจ้าหน้าที่ กำลังอบรมการใช้อุปกรณ์ก่อนลงดำน้ำดูปะการังที่หน้าหาดของโรงแรม “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” (SAii Phi Phi Island Village)

ซึ่ง “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” (SAii Phi Phi Island Village) เป็นหนึ่งในรีสอร์ท 2 แห่งของแบรนด์ SAii ที่เปิดให้บริการในประเทศไทย อีกแห่ง ได้แก่ “ทราย ลากูน่า ภูเก็ต” (SAii Laguna Phuket) และเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2562 คือ ทราย ลากูน มัลดีฟส์ (SAii Lagoon Maldives)

 

SAii Phi Phi Island Village สวรรค์แห่งการพักผ่อนครอบคลุมพื้นที่กว่า 170 ไร่ริมชายหาดบนเกาะพีพีดอน ที่มีหาดทรายขาวละเอียดยาวกว่า 800 เมตร ได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งแต่ย่างก้าวแรก ณ ล็อบบี้แบบเปิดโล่งของรีสอร์ทที่สวยงาม สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระ สปาบรรยากาศผ่อนคลาย ร้านอาหารที่มองเห็นวิวทะเล ไปจนถึงห้องพักพรีเมียม อย่าง “ฮิลไซด์ พูลวิลลา” (Hillside Pool Villa) พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว สำหรับการพักผ่อนที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว และยังเพิ่มตัวเลือกใหม่สำหรับห้องพัก “ฮิลไซด์ พูลวิลลาแบบ 2 ห้องนอน”  SAii Phi Phi Island Village ยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ และวิวธรรมชาติที่สวยจับใจสำหรับสาวกอินสตาแกรม (Instagram)

 

มื้อเที่ยงอาหารพื้นถิ่นแดนใต้แสนอร่อย ทั้งคั่วกลิ้งเนื้อ ปลาทรายทอดขมิ้น แกงปูใบชะพลู หมูฮ้อง ใบเหลียงผัดไข่ แกงเหลืองปลากะพงอ้อดิบ น้ำพริกกุ้งเสียบ  

การบริการของ SAii Phi Phi Island Village นำเสนอนวัตกรรมการพักผ่อนที่โดดเด่นด้วยแนวคิดด้าน “สุขภาพ” (Wellness) และ “เอกลักษณ์ด้านอาหาร” (F&B) ประกอบด้วย  “Mr Tomyam” (มิสเตอร์ต้มยำ) ให้บริการอาหารไทยแบบฟิวชั่น พร้อมครัวแบบเปิด และพื้นที่รับประทานอาหารกลางแจ้ง “Miss Olive Oyl” (มิสโอลีฟออยล์) ห้องอาหารและบาร์ เสิร์ฟอาหารทะเลปิ้งย่างสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และ “Lèn Be Well” (เล่นบีเวล) กิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดี และ M.I.Y Aroma Lab ที่จะมอบประสบการณ์เลือกผสมเครื่องหอมที่ใช้ระหว่างการเข้าพักด้วยตนเองอีกด้วย

 

ทุกวันนี้นักเดินทางจำนวนมาก กำลังมองหาการพักผ่อนแบบมีการเว้นระยะห่างทางสังคม และจุดสัมผัสทางกายภาพน้อยลง ดังนั้น แอปพลิเคชัน SAii จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ inSAiider ไม่ว่าจะเป็นบริการใด ๆ ในห้องพัก สั่งอาหารไปรับประทานที่ห้อง (Room Service) การจองทริปท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชั่น รวมทั้งสามารถแชทกับทีม “SAillanders” ของรีสอร์ทได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วิลล่าหน้าชายหาด พักสบายมองเห็นหาดทรายและชายทะเล 

“เต่าหญ้า” (Olive Ridley Sea Turtle) ที่ทำรังและวางไข่อยู่บนชายฝั่ง

นอกจากนั้น รีสอร์ทแห่งนี้ยังสนับสนุนให้นักเดินทางใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมที่ “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” (Marine Discovery Centre) ซึ่งตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทอีกด้วย ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตทางทะเลแบบ Interactive และมีสถานที่รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย รวมถึงการขยายพันธุ์ปะการัง การเพาะพันธุ์ และการปล่อยพันธุ์สัตว์ทะเลพื้นเมือง การทัศนศึกษาเชิงนิเวศ และการเยี่ยมชมเพื่อการศึกษาจากโรงเรียนในพื้นที่ ภายในศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล ยังประกอบด้วยพื้นที่จัดนิทรรศการในร่มและกลางแจ้ง ห้องวิดีโอ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นเสมือนหน้าต่างที่น่าตื่นตาตื่นใจของโลกใต้ทะเล

หนึ่งผลงานของศูนย์ฯ ได้แก่ การศึกษาและดูแลแนวปะการังที่ “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์” (CROSSROADS Maldives) ที่พบว่า มีการขยายตัวถึงหกเท่า รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่เพิ่มขึ้น และล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2564 นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ได้ช่วยชีวิต “ฉลามกบ” (Bamboo Shark) ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นฉลามขนาดเล็ก ที่อยู่ในภาวะใกล้ถูกคุกคาม (Near Threatened) ของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature) การช่วยเหลือครั้งนี้จึงนับเป็นการรักษาชีวิตสัตว์ทะเลของรีสอร์ท ซึ่งปัจจุบันฉลามดังกล่าวได้รับการดูแลอย่างดีในบ่ออนุบาลสัตว์น้ำของศูนย์ฯ

ว่าที่ร้อยตรี นันทิพัฒน์ แซ่จ๋าว เจ้าหน้าที่ “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” (Marine Discovery Centre) กับ จิราณี วงศ์ทิพากร Room Division Manager

นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2564 ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล ของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ยังได้ช่วยเหลือ “ปลาสิงโต” (Lionfish) ที่ได้รับบาดเจ็บ  โดยที่ชาวบ้านท้องถิ่นเป็นผู้นำมาส่งให้ศูนย์ฯ ของรีสอร์ท เนื่องจากปลาสิงโตที่ดูสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง จึงต้องอาศัยการจัดการปลาอย่างระมัดระวังโดยผู้เชี่ยวชาญของศูนย์ฯ โดยขณะนี้ “ปลาสิงโต” กำลังได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รวมถึงที่ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล ของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ยังมีบ่ออนุบาลปลาการ์ตูน (Clownfish Nursery) เพื่อเพาะขยายพันธุ์ก่อนที่จะปล่อยกลับสู่แนวปะการังในเวลาและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

 

“ปลาสิงโต” (Lionfish) ที่ได้รับบาดเจ็บ  โดยที่ชาวบ้านท้องถิ่นเป็นผู้นำมาส่งให้ศูนย์ฯ ของรีสอร์ทเพื่อให้ความช่วยเหลือ

“ปลาสิงโต” (Lionfish) ตัวเดิมปลอดภัยหายดีแล้วแหวกว่ายอยู่ในตู้ภายใน “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” 

ในขณะเดียวกันที่ เมื่อปีที่ผ่านมา “ทราย ลากูน มัลดีฟส์” ยังได้พบ “เต่าหญ้า” (Olive Ridley Sea Turtle) ที่ทำรังและวางไข่อยู่บนชายฝั่ง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้มีการพบเห็นเต่าสายพันธุ์นี้วางไข่ในมัลดีฟส์ รวมถึง เต่ากระ (Hawksbill sea turtles) ฉลามหัวค้อน (Scalloped Hammerhead Sharks) และ ปลาโรนัน (Bottlenose Wedgefish) ก็ถูกพบเช่นกัน

 

จากกิจกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” ของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ททำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอย่างไร ศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับแขกที่เข้าพักเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางการให้ความรู้สำหรับทุกคน รวมทั้งชาวบ้านและเยาวชนที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตท้องถิ่น นอกจากนั้น กว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ SHR (49.6%) เป็นผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น สะท้อนความเชื่อมโยงและความมุ่งมั่นของ SHR ในการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนพร้อม ๆ กับชุมชนอีกด้วย เรียกได้ว่าการเดินทางมาพักผ่อนที่เกาะพีพีครั้งนี้มีคุณค่าต่อจิตใจและร่างกายจริงๆ

 

ปลาการ์ตูนที่นำมาอนุบาลขยายพันธุ์ก่อนปล่อยคืนสู่ท้องทะเล 

ช่วงนี้ “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” (SAii Phi Phi Island Village)มีโปรโมชั่นสุดพิเศษกับ “Ready to SAii-in” ให้จองทริปสุดพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 31 ตุลาคม 2564 สามารถเข้าพักได้ถึง 23 ธันวาคม 2564 ราคาเริ่มต้น 3,750 บาท รวมอาหารเช้า และ บริการรับส่งไป – กลับฟรีสำหรับ 2 ท่านต่อห้อง สำหรับการเข้าพักอย่างน้อย 2 คืน และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี สามารถเข้าพักฟรีและรับประทานอาหารฟรีจากเมนูเด็ก เมื่อทานอาหารพร้อมผู้ปกครองทรวมบริการรับ – ส่ง (เฉพาะเส้นทางภูเก็ต) รวมทั้งได้รับส่วนลด 25% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และสปาอีกด้วย ราคาห้องในช่วง Low Season (May - Oct) ห้อง Superior Garden Bungalow 1 King เริ่มต้นที่ 2,500 บาทและ 2 Bedroom Oceanview Hillside Pool Villa  ราคา 10,000 บาท ส่วน High Season (Nov - Apr) ราคาห้อง Superior Garden Bungalow 1 King เริ่มต้นที่ 5250 บาท และ 2 Bedroom Oceanview Hillside Pool Villa ราคาเริ่มต้นที่ 16,000 บาท

ชมข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://www.saiiresorts.com/th/phiphiisland/village/play/len-forest-spa/

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ที่ www.shotelsresorts.com และติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook, Instagram, YouTube or LinkedIn