‘คนบันเทิง’ทำไมไม่ ‘Call Out’ เพื่อ#savethailand
คนบันเทิงที่ออกมา "Call Out" แสดงความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการของรัฐบาลในเรื่องไวรัส “โควิด” ทำให้หลายคนตกงานทันที และนี่คือหลากความคิดคนบันเทิง
“ดาราที่ออกมา Call Out กันน่ะ ไม่มีใครกล้าออกมา Call Out กันเยอะหรอก โอเค.การ Call Out มันสะใจนะ แต่ถึงเวลาปุ๊บมันไม่มีงานทำอ่ะ ใครจะรับผิดชอบชีวิตเขาวะ ?” มดดำ คชาภา ตันเจริญ พิธีกรรายการ‘ข่าวใส่ไข่’ พูดในรายการเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 กรณีที่มีคนตั้งขอสังเกตว่า ทำไมคนบันเทิงถึงไม่มีใครออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเลย
หลังจากนั้น มดดำก็ได้รับความคิดเห็นมากมาย จนต้องพูดเรื่องนี้อีกครั้งในรายการ‘แฉ’ว่า
“ที่พูดในรายการหนึ่งมันอาจจะพูดเร็วไปพอตัดมาปุ๊บ...อย่างแรกมดดำมีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้ว อย่างที่สองไม่ได้หมายถึงไม่สนับสนุนให้ดารา Call Out ใครอยากจะทำก็ทำ นั่นคือสิ่งที่เป็นประชาธิปไตย แต่ขณะเดียวกัน ดาราจะกล้า Call Out กันไหม
เพราะเขา Call Out เขาก็ตกงาน ไม่มีงานทำ ขออธิบายจากใจยืนยันไม่เคยเกาะกระแส ตนเองไม่มีสิทธิไปบังคับใคร มดดำรู้ว่าตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนกันหมด แต่ด่ามาก็อ่านอยู่ และน้อมรับคำติชมของทุกท่าน พร้อมทั้งกราบขอโทษที่ทำให้หลายๆ ท่านไม่พอใจด้วย กราบขอโทษจริงๆ ครับ”
สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 ในประเทศไทยเข้าสู่ระลอก 4 แล้ว แต่การฉีดวัคซีนในประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ถึงเป้าหมายไม่สามารถทำให้เกิด ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity)ได้ อีกทั้งมีผู้ป่วยโรคระบาดติดเชื้อและเสียชีวิตมากขึ้นหลายเท่า
การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่วงการบันเทิง กระทั่งวง BLACKPINK ยังต้องเขียนในสัญญาไว้ว่า ห้ามไม่ให้ศิลปินแสดงความเห็นต่อสาธารณะในประเด็นที่ทำให้สังคมเกิดความแตกแยกส่งผลกระทบกับทุกฝ่าย
ในเมื่อความเป็นอยู่ในสังคมไม่เป็นปกติสุข เหล่าแฟนคลับก็ต่างออกมาเรียกร้องให้ศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบออกมา Call Out (แสดงจุดยืนทางการเมือง) ด้วยความหวังในใจลึกๆ ว่าเขาคงจะคิดเหมือนกัน แต่ทว่า ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่ แม้ว่ายอดไลค์ที่ได้จากแฟนคลับมากมายจะทำให้เขาได้ประโยชน์นำตัวเลขนั้นไปต่อรองเพิ่มค่าตัวได้มากขึ้นก็ตาม
หรือบางคนที่ไม่ออกมาก็เพราะห่วงกังวลเรื่องที่ตัวเองเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้านั้นๆ การแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองคิดทางการเมืองอาจจะทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย จึงเงียบไปจะดีกว่า
"Call Out" แล้วยังไง
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 ครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ ผู้สอนภาษาอังกฤษ ที่มีผลงานแสดงละครและพิธีกร ประกาศลาออกจากวงการบันเทิง ผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า
“ลูกกอล์ฟขอออกจากวงการบันเทิงนะคะ เพราะถ้าจะเงียบขนาดนี้ ลูกกอล์ฟไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ในที่แห่งนี้ค่ะ ขอให้ทุกคนไม่เอ่ยถึงลูกกอล์ฟในฐานะคนในวงการบันเทิงอีกนะคะ ปกติ เข้าไปแค่นิ้วก้อย วันนี้ขอเดินออกมาเต็มตัวแล้วค่ะ
ขยายความคำว่า เงียบขนาดนี้ ลูกกอล์ฟหมายถึง การไม่ออกมาพูดถึงการจัดการวิกฤตที่ล้มเหลว การไม่ยอมที่จะพูดถึงรัฐบาลตามเนื้อผ้า ลูกกอล์ฟไม่ได้พูดถึงการออกมาชวนให้คนบริจาค หรือลงไปช่วยคนด้วยตัวเอง
ต่อจากนี้ ขอให้พี่ ๆ นักข่าวทุกสำนักที่เห็นข้อความนี้ กล่าวถึงลูกกอล์ฟในฐานะ คนไทยคนนึงเท่านั้น ไม่ต้องเชื่อมโยงลูกกอล์ฟกับคำว่า “วงการบันเทิง” อีก ขอบคุณนะคะ
และไม่ต้องทำข่าวเรื่องนี้ค่ะ เสียเวลา เอาเวลาไปทำข่าวช่วยประชาชนค่ะ และลูกกอล์ฟของดรับงานในวงการบันเทิงทั้งหมด ไม่ต้องติดต่อมานะคะ ขอบคุณค่ะ”
ซึ่งก่อนหน้า ครูลูกกอล์ฟ ได้คุยเรื่อง ประชาธิปไตย และ เปิดพื้นที่ ร่วมแสดงความเห็น คิดยังไงกับคนที่ให้ข้อมูลว่า กระบวนการนำเข้าวัคซีน mRNA ที่ล่าช้านั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นไปตามกลไกตลาด เป็นไปตามขั้นตอนการผลิตวัคซีนตามปกติ และไม่ใช่ความผิดรัฐบาล เพราะเราต้องรอคิว เหมือนทุกประเทศ
ล่าสุด 13 กรกฎาคม 2564 ครูลูกกอล์ฟ โพสต์ว่า
“อยากบอกทุกคนที่เห็นข้อความนี้ ลูกกอล์ฟอาจจะหงุดหงิดไม่เห็นด้วยกับความเงียบระดับนี้ ทรมานแทนคนมากมายที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตนี้และการช่วยบริจาคอย่างเดียว มันไม่พอแล้วสำหรับลูกกอล์ฟ เราต้องพูดถึงการบริหารที่ผิดพลาดกันด้วย...
ลูกกอล์ฟ เห็นว่าการวิจารณ์รัฐบาลโดยสร้างสรรค์ มันทำได้จริงๆ ใช่ค่ะ มันมีแรงปะทะ เราอาจจะต้องรับมือกับความเห็นที่ทำร้ายจิตใจ แต่วันนี้ มีอะไรแย่กว่าคนที่กำลังจะเสียชีวิต เพราะการบริหารวิกฤตครั้งนี้ และบางทีคนเหล่านั้นอาจจะเป็นแฟนๆ ที่สนับสนุนเรามาตลอดด้วยซ้ำ
คนที่กลัวว่า การพูดถึงการจัดการวิกฤตโควิดของรัฐบาล จะกระทบต่องาน ตอนนี้มันมีอะไรกระทบมากกว่านี้ อาชีพในวงการเสียภาษีเท่าไร ได้รับการเยียวยาบ้างหรือยัง ? แล้วถ้าวิกฤตนี้ลากยาวไปเรื่อยๆ เพราะการบริหารที่ไม่ดีขึ้น จะเหลือแฟนคลับกี่คนที่มีเงินมาสนับสนุนเรา ขอแชร์ความเห็นแค่นี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ
สำหรับทุกคนที่ติดตามกัน ต่อจากนี้ไม่ต้องเอาชื่อพี่ไปเป็นบาร์ เปรียบเทียบกับคนในวงการบันเทิงอีกแล้วนะคะ พี่ขอร้อง และได้รับกำลังใจที่ส่งมามากมายแล้ว ขอให้ทุกคนปลอดภัย”
Call Out แล้วตกงาน ใครรับผิดชอบ ?
26 มิถุนายน 2564 หมิว สิริลภัส กองตระการ นักร้อง นักแสดง นางแบบ ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ ช่อง7 ประกาศยกเลิกสัญญาจ้างการเป็นพิธีกรรายการทางโทรทัศน์ก่อนกำหนด จากเดิม 31 ธันวาคม 2565 มาเป็น 16 กรกฎาคม 2564 หลังเธอโพสต์ข้อความที่รุนแรงวิพากษ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เธอได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียว่า
"หมิวได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่โทรมาบอกหมิวว่า “มีความจำเป็นต้องถอดหมิวออกจากรายการ เพราะการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมของหมิวใน social media หมิวขอน้อมรับความผิดและต้องขอโทษด้วยค่ะที่ใช้คำหยาบคาย ไม่สุภาพ ทั้งๆ ที่หมิวเป็นบุคคลสาธารณะ ควรจะเป็นตัวอย่างที่ดี
27 กรกฎาคม 64 จะเป็นเทปสุดท้ายที่หมิวได้ทำรายการนะคะ รู้สึกใจหายเหมือนกัน แล้วก็เสียดายที่จะไม่ได้ออกไปมีส่วนร่วมในการช่วยคนในด้านนี้อีกแล้ว... ไม่ต้องห่วงนะคะ ความตั้งใจและอุดมการณ์ของหมิวจะยังเหมือนเดิม แต่คงจะต้องลดความเกรี้ยวกราดลง จะพยายามใช้คำที่สุภาพขึ้น
และยังขอเป็นกระบอกเสียงต่อความไม่ถูกต้อง ความไม่ยุติธรรมเหมือนเดิมค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและขอโทษสำหรับการทำตัวไม่เหมาะสมค่ะ ปล. หมิวทำพิธีกรได้นะคะ เต็มที่ทุกงาน เผื่อใครสนใจ 5555 ทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ จ้างได้ ไม่ดื้อ ลาก่อน ปลดหนี้ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นสิ่งดีๆอีกอย่างในชีวิตเรานะ"
คู่กัดกลางทะเล "โจ VS ฮาร์ท"
10 กรกฎาคม 2564 โจ จิรายุส วรรธนะสิน นักร้อง นักดนตรี วงนูโว ได้ออกมาโพสต์ IG ส่วนตัวว่า
“เราอยู่ในเรือลำหนึ่ง เป็นเรือที่มีรูรั่วหลายแห่ง บางคนตะโกนด่าโวยวาย บางคนกรีดร้องไห้ไม่หยุด บางคนยื่นเท้าลงราน้ำ ปากด่าทอนายท้ายตลอดเวลา บางคนป้องปาก กระซิบเล่าข่าวปลอมสู่กัน บางคนแอบเจาะรูเพิ่ม บางคนก้มหน้าวิดน้ำเงียบๆ บางคนพยายามอุดรูรั่ว บ้างปลอบโยนให้กำลังใจคนอื่น อย่าลืมว่า เราอยู่ในเรือลำเดียวกัน”
ทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ล่าสุด ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล อดีตนักร้อง นักดนตรี พิธีกร ก็ได้แชร์ข่าวของโจ พร้อมกับเขียนข้อความว่า
“เรียนน้องโจที่เคารพ เรื่องเรือรั่วนี่ พี่ถือว่าเป็นเรื่องของพวกน้องแล้วกันนะครับ เพราะพวกพี่ ลอยคอในทะเลมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่พวกน้องๆ ช่วยกันเปลี่ยนตัวกัปตันเรือ ...อิๆๆ เรากระเซ้าเล่นนะเพื่อน ว่างๆ มาเล่นดนตรีกัน”
คู่กัดสายร็อค "กบ ไมโคร VS เล็ก คาราบาว"
12 กรกฎาคม 2564 กบ ไมโคร หรือ ไกรภพ จันทร์ดี อดีตสมาชิกวงไมโคร มือกีตาร์ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึง เล็ก คาราบาว ที่ไม่ Call Out เพราะเกรงว่าจะทำให้ใครไม่สบายใจ ด้วยคำพููดว่า
“ผมสงสารพี่จังเลยครับ น่าสงสารกว่าประชาชนที่ปาดน้ำตาตะโกนหาพวกพี่เยอะเลย พี่คงกลุ้มใจมาก ว่าพูดอะไรไปจะไปเข้าทางการเมืองฝ่ายไหน จะถูกใจผิดใจกองเชียร์ข้างไหนรึป่าว ใช่มะครับ เลยขยับไม่ได้ทั้งซ้ายทั้งขวา
คือถ้าแยกไม่ออกว่าอะไรการเมือง อะไรนรกบนดิน ที่ผู้คนกำลังเจอ ผมว่าให้ความเงียบเป็นคำตอบกับสังคมก็ดีครับ เพราะบางทีความเงียบนั่นแหละที่แม่งน่าเจ็บปวดที่สุด ขอโทษที่ผมล่วงเกินนะครับ พี่จะด่าผมว่าไอ้หน้าส้น-ีนก็ได้ครับ ผมยอม
และผมไม่สนเรื่อง Call Out อยู่แล้วครับพี่ น้องๆ ที่กล้าลุกออกมาพูดกันนั่น พวกเขาไม่ได้คิดอะไรลึก แค่สามัญสำนึกกับหัวใจพามาล้วนๆครับ เพื่อชีวิต.…ในวันที่ผู้คนสิ้นชีวิต ขอให้มีความสุข คิดถึงพี่เสมอครับ”
ซึ่งก่อนหน้า กบ ไมโคร ได้โพสต์ข้อความว่า
"ฝากให้คิด คนข้างล่างตะโกนทั้งน้ำตาถึงเรา ‘ขอเสียงหน่อย’ กลับหลบยืนเงียบ ขอตัดสินด้วยใจตัวเอง"
คู่กัดเพื่อนรัก "น็อต VS เพชร"
วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ และ เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยคำหยาบคาย จนทำให้ #แบนน็อตวรฤทธิ์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ จนน็อตต้องลบโพสต์นั้นออกไป ส่วน เพชร กรุณพล ก็มาอธิบายในทวิตเตอร์ว่า
“ถึง เพชร กับ น็อต จะคุยกันด้วยคำหยาบคาย แต่เป็นคำที่เราใช้กันในกลุ่มเพื่อนสนิท ถึงความเห็นทางการเมืองเราจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่เราก็เคารพในความเชื่อของกันและกัน น็อตไม่เคยระรานใครไม่เคยด่า ใครที่คิดต่างอาจดื้อไปบ้าง แต่เค้าก็ถือเป็นคนดี และ เป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึง” ด้าน น็อต วรฤทธิ์ ก็อธิบายว่า
“เราคุยกันทุกเรื่อง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่คุยกันคือนำเสนอเรื่องวัคซีน ผมไปอ่านมาจากคนอื่น กะจะโพสต์เก็บไว้อ่านเพราะมันยาว เป็นข้อความว่าไวรัสเชื้อตายเป็นไวรัสที่ปลอดภัย ส่วน mRNA เป็นไวรัสใหม่ที่ยังไม่มีผลการทดลอง
การมีวัคซีนหลากหลาย ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่ต้องมีต้นทุนเก็บรักษา ซึ่งเพชรเห็นต่างว่า การมีวัคซีนหลากหลายใช้กับคนที่แตกต่างกันได้ เพชรเข้ามาให้ข้อมูลของเขาในที่ของผม ผมก็บอกว่านั่นเป็นข้อมูลของมึง สิ่งที่ผมโพสต์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมืองเลย”
ช่วงกลางดึกวันเดียวกัน น็อต ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพคู่ เพชร ในโซเชียลมีเดียพร้อมแคปชั่นว่า
“อย่าให้ความคิดมาทำลายมิตรภาพ คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ ร่วมมือกันฟันฝ่าโควิด”
คนบันเทิงร่วมใจ ส่งข้อความถึงรัฐบาล
โบว์ สุนิตา ได้ออกมาโพสต์จดหมายน้อยเปิดผนึกถึงรัฐบาลว่า
“ฝากถึงภาครัฐ 1 ชีวิต..มีค่ากว่าที่คุณคิด เค้าอาจจะเป็นแม่เด็ก 1,2,3 คนหรือมากกว่านั้น เค้าอาจเป็นภรรยา หรือสามีที่ดีของคู่เค้า เค้าอาจเป็นครูที่มีเด็กๆ รัก และชอบเรียนกับครูคนนี้มากที่สุด เค้าอาจเป็นเสาหลัก ที่พึ่งของทุกคนในครอบครัว เค้าอาจเป็นผู้ใหญ่คนสุดท้ายของครอบครัวที่เหลืออยู่
เค้าอาจใกล้ได้แต่งงานกับคนที่เค้ารัก เค้าอาจกำลังได้งาน ที่ตอนนี้หาได้ยากเหลือเกิน พวกเราขอ วัคซีน mRNA ประชาชนควรได้ฉีดฟรี!!! เร็วที่สุดเท่าที่รัฐจะทำให้พวกเราได้ อย่าทำให้ประชาชนต้องเสียคนที่เค้ารัก ไปมากกว่านี้เลยค่ะ ประชาชนรู้ว่าความเป็นจริงมันมากกว่าตัวเลขที่เป็นข่าว #หดหู่ที่สุด"
ส่วน ตั๊ก ศิริพร ก็ได้โพสต์ภาพข้อความเดียวกัน พร้อมเขียนแคปชั่นว่า
“พี่รู้ว่าทุกคนท้อ พี่จะไม่โกหกตัวเองว่า บางทีพี่ก็ท้อสงสารประชาชนและทีมแพทย์ แต่พี่ก็ต้องสู้และคอยเป็นกำลังใจให้แก่คนที่เค้าเดือดร้อนกว่าเราซึ่งเยอะมากกกกกก อะไรที่เราช่วยได้เราทำค่ะสู้ๆ นะคะ สู้เท่าที่แรงเรามีเราไหว ถ้าอะไรมันจะเกิด ก็ถือว่าเราได้สู้แล้ว เราทำดีที่สุดแล้วนะคะทุกคน#เมื่อวานสัมภาษณ์ทีวีหลายช่อง พี่ก็ฝากไปยังภาครัฐถึงเรื่องนี้ หวังว่าแค่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งจะไปถึงนะคะ..สู้ต่อไป แม้จะยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ตาม”
‘ตูน บอดี้สแลม’ หายไปไหน
เป็นคำถามที่ทุกคนสงสัยถามหา ถามมามาก จน เภา รัฐพล พรรณเชษฐ์ อดีตมือกีตาร์วงบอดี้สแลม ต้องออกมาตอบคำถามแทนตูนบอดี้สแลม ว่า
"การที่ตูนยังไม่ได้ทำอะไรตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำอะไรอีกเลย และตูนเองก็แทบไม่มีงานเกือบ 2 ปี ถือเป็นผู้ได้รับผลกระทบอันดับต้นๆ "
วงการลูกทุ่งรวมตัวกันส่งเสียง
เอกชัย ศรีวิชัย นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่ ออกมาไลฟ์สดทางโซเชียลมีเดียด้วยภาษาใต้ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน
ส่วน เบิ้ล ปทุมราช ก็โพสต์ว่า “เสียใจที่ประเทศเกิดแผลใหญ่ตอนคนแก้ปัญหา ‘ไอคิว แทบไม่มี’
ด้าน ก้อง ห้วยไร่ ก็กำลังล่ารายชื่อรวมพลังลูกทุ่งอินดี้เรียกร้องรัฐบาล โดยมีผู้ที่เข้าร่วมได้แก่ แคนดี้ รากแก่น, เบิ้ล ปทุมราช, เพชร สหรัตน์ และ คิง ก่อนบ่าย ฯลฯ