‘ยำมังคุด’ ง่าย อร่อย และมีคุณค่า
มังคุด ( Mangosteen ) ราชินีแห่งผลไม้ รสหวานอมเปรี้ยว รับประทานแล้วรู้สึกสดชื่น “เนื้อมังคุด” นำมาทำอาหารเช่น แกง ยำ เมนูหวานอย่าง มังคุดลอยแก้ว มังคุดกวน ไอศกรีมมังคุด แต่วันนี้เราจะทำ “ยำมังคุด" ง่าย อร่อย และมีคุณค่า
ก่อนจะเข้าครัวไปทำเมนู “ยำมังคุด” มาทำความรู้จัก ราชินีแห่งผลไม้ที่มีนามว่า “มังคุด” ที่มีประโยชน์ทางโภชนาการมากมาย เช่น ไฟเบอร์ หรือเส้นกากใยสูง ดีต่อระบบขับถ่าย แถมยังมีวิตามินเกลือแร่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็น กรดอินทรีย์ น้ำตาล แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันอาการไข้ต่ำๆอีกด้วย
ส่วน น้ำมังคุด ช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ด้วยการหลั่งสาร Interleukin Iและ Tumor Necrosis Factor ช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีน ลดอาการแพ้ภูมิตัวเอง ( ในโรค SLE ) และลดการอักเสบ ในผู้ป่วยเบาหวาน ตับเสื่อม ไตวาย ข้อเข่าเสื่อม ความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน ไทรอยด์เป็นพิษ ความผิดปกติของสมองอันเนื่องจากการอักเสบ เปลือกมังคุด ยังนำไปทำเครื่องสำอางเช่น สบู่สมุนไพรเพื่อชำระล้างผิวให้สะอาดหมดจด ครีมเปลือกมังคุด ช่วยบำรุงผิวพร้อมและแก้ปัญหาบางประการของผิวพรรณได้อีกด้วย
ในเมนู “ยำมังคุด” ยังมีส่วนประกอบเช่น ใบสะระแหน่ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ หลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กประโยชน์ของ “สะระแหน่” ก็คือช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นด้วยการนำใบสะระแหน่มาบดแล้วทาบนผิว สะระแหน่จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย และใช้เป็นยาเย็นช่วย ดับร้อน และขับเหงื่อในร่างกาย แถมยังช่วยบำรุงและรักษาสายตาอีกด้วย หากต้องการลดรอยคล้ำใต้ตา ให้นำใบสะระแหน่มาบดละเอียด (เติมน้ำระหว่างบดเล็กน้อย) ใส่น้ำผึ้งคลุกเคล้าก่อนนำมาทาใต้ตาทิ้ง ไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
“ใบสะระแหน่” ยังมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเครียด รักษาอาการปวดศีรษะ ไมเกรน ทำให้สมองปลอดโปร่ง โล่งคอ ด้วยการดื่มน้ำใบสะระแหน่ 5 กรัมกับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย วันละ 2 ครั้ง ช่วยแก้อาการหน้ามืดตาลาย ด้วยการดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่กับขิงสด ช่วยบรรเทาอาการและแก้หวัด น้ำมูกไหล อาการไอช่วยรักษาโรคหอบหืดอีกด้วย ส่วนประกอบอื่นๆใน เมนู “ยำมังคุด” ที่มีประโยชน์ทางโภชนาการ ก็คือ มะนาว,หอมแดง,พริกขี้หนู
เป็นวัตถุดิบที่เมนูยำขาดไม่ได้ “พริกขี้หนู” ช่วยให้เจริญอาหาร มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ทำให้อารมณ์ดีเพราะร่างกายสร้างสารแห่งความสุข (Endorphin) เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และมี“วิตามินซี” ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย บำรุงสายตา “มะนาว” มีวิตามินซี ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต ฟอกโลหิต ช่วยล้างสารพิษกระตุ้นเอนไซน์ธรรมชาติ บำรุงผิวพรรณ ขับเสมหะ ส่วน“หอมแดง” ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียต่างๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเรื่องสมอง ความจำดี ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เจริญอาหาร บำรุงธาตุไฟ บำรุงหัวใจ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของโลหิต และลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดอีกด้วย
เมื่อทราบคุณประโยชน์ของ “มังคุด” และส่วนประกอบต่างๆของ “ยำมังคุด” ว่าแล้วก็รีบจัดหาวัตถุดิบมาทำเมนูอร่อยแถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายกันดีกว่า หมูหวานได้สูตรเด็ดจาก คุณ จารุวรรณ เจริญงาม เจ้าของร้านอาหารชื่อดังแห่งจังหวัดจันทบุรี นั่นก็คือร้าน “ร้านจันทรโภชนา” เนื่องจากเป็นเมืองผลไม้ เจ้าของร้านจึงคิดนำผลไม้ต่างๆของเมืองจันท์มาปรุงเป็นเมนูเด็ดหลากหลาย เช่น มัสมั่นทุเรียน ส้มตำทุเรียน ต้องใช้ทุเรียนหมอนทองสุก 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ถ้าทุเรียนอ่อนก็จะเละไปไม่อร่อย ส่วน “มังคุด” นำมาทำ แกงเขียวหวาน ยำมังคุด และไอศกรีมมังคุด ทว่า “ยำมังคุด” ถือว่าเป็นจานเด่นของที่นี่ มีโอกาสไปเที่ยวเมืองจันท์ อย่าลืมแวะไปชิมอาหารพื้นเมืองที่ร้านเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 50 ปี ว่าแล้วเรามาทำ “ยำมังคุด” สูตรคุณจารุวรรณ เจริญงาม เจ้าของร้าน “จันทรโภชนา” กันดีกว่า
ยำมังคุด สูตรจันทรโภชนา
ส่วนประกอบ : เนื้อมังคุด,กุ้งสดลวก,กุ้งแห้งป่น,หอมแดงซอย,พริกขี้หนูซอย,น้ำตาลทราย,น้ำมะนาว,น้ำปลา,ไข่ต้ม และ ใบสะระแหน่
วิธีทำ : นำเนื้อมังคุดใส่ลงไปในภาชนะสำหรับผสม บีบมะนาว ปรุงน้ำตาลทราย น้ำปลาตามชอบ จากนั้น คลุกเคล้าเบาๆ แล้วใส่หอมแดงซอย พริกขี้หนูซอยและกุ้งแห้งป่นลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ขั้นตอนสุดท้าย ตักยำมังคุดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยหอมแดงซอย กุ้งลวก และไข่ต้ม ตามด้วยใบสะระแหน่ และกุ้งแห้งป่นอีกครั้ง