ไฮโซ.. ‘มาร์ค ธาวิน’ ชวนลงทุนในสินค้า ‘แบรนด์เนม’
เซเลบไฮโซที่ออกงานพร้อมแต่งตัวด้วย “แบรนด์เนม” ทั้งตัว “มาร์ค ธาวิน” แนะนำนักลงทุนและนักสะสมของหรู ราคาแพง เลือกไอเท็มชิ้นเด่นที่จะแปลงเป็น “ผลกำไร” ได้ในอนาคต
“ปัจจุบันการลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้มากขึ้น และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรูปแบบของการออมเงิน การสร้างธุรกิจ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน หรือหุ้น เท่านั้น แต่ทุกวันนี้ยังมี การลงทุนที่เกิดจากความหลงใหล หรือที่เรียกว่า Passion Investment ในรูปแบบของสะสม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ งานศิลปะ ของใช้ เสื้อผ้า และสินค้าแบรนด์เนม ที่นับวันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
โดยเฉพาะสินค้า แบรนด์เนมที่มีประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของแบรนด์ เป็นสิ่งที่สามารถสร้างมูลค่าได้ และสามารถต่อยอดความมั่นคงในชีวิตได้ หากนักลงทุนคนไหนอยากจะเข้ามาลงทุนในตลาดนี้ แน่นอนว่าต้อง ศึกษาเกี่ยวกับตัวแบรนด์ และของแต่ละชิ้นให้ลึกซึ้ง เพื่อที่จะประเมินได้ว่าของชิ้นไหนควรค่าแก่การลงทุน”
มาร์ค ธาวิน พี เซียวตง เซเลบริตี้นักลงทุนแบรนด์เนม และเจ้าของธุรกิจร้านทำผมระดับเวิลด์คลาส Maison Mark Thawin Hair & Elite Lifestyle ว่าไว้...
“จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ชอบและเลือกซื้อของสะสมมีค่า มายาวนานกว่า 20 ปี จึงอยากแชร์เคล็ดลับการเลือกของล้ำค่า ที่ลงทุนแล้วมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มเครื่องประดับและจิวเวลรี่ : ชิ้นแรกที่ต้องแนะนำคือ มุกเมโล ไข่มุกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากหอยทากทะเล ซึ่งมีโอกาสเกิดแค่ 1 ใน 3,000 ตัวเท่านั้น ถ้าหากจะหาไข่มุกเม็ดที่มีความสมบูรณ์ สวยงามไร้ที่ติ อาจจะเจอแค่ 1 ในแสนตัว และในอดีตมุกเมโล มีความพิเศษตรงที่เป็นมุกประดับบนมงกุฎของจักรพรรดิจีน ด้วยความพิเศษนี้มุกเมโลจึงมีมูลค่าสูง อย่างเม็ดที่มีอยู่นี้มีความสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ หากเปิดประมูลก็จะได้ราคาก็ไม่ต่ำกว่า 8 หลัก
ต่อมา พลอยสี พลอยที่มีสีสัน มีเอกลักษณ์และลวดลายเฉพาะตามถิ่นกำเนิด ไม่สามารถผลิตทดแทนกันได้ เช่น ทับทิมสยาม, ทับทิมพม่า เป็นพลอยสีที่หายากมากในท้องตลาด เพราะต้นกำเนิดเหมืองพลอยที่พม่าได้ปิดทำการไปแล้ว ส่งผลให้ทับทิมสยาม และทับทิมพม่า เป็นพลอยสีที่มีมูลค่ามากในความเป็นธรรมชาติ หากเป็นมรกต ควรเลือกเป็น สีมูโซ่กรีน (Muzo Green) ซึ่งเป็นสีเขียวเหลือบฟ้า จะเป็นสีที่สวยและสะอาดที่สุด สำหรับคนที่เริ่มสะสมและลงทุนกับพลอยสี ควรเลือกพลอยสีที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ผ่านความร้อนหรือกระบวนการหลอมใด ๆ ไม่มีสารปนเปื้อน และมีตำหนิน้อยที่สุด ซึ่งความธรรมชาติของพลอยสีนั้นจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับพลอยสีเป็นอย่างดี
ชิ้นถัดมาเป็นไฮ-จิวเวลรี่จากแบรนด์ บุลการี (Bvlgari) ลักชัวรี่แบรนด์ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ตำนานเครื่องประดับรูปงู ที่มีชิ้นเด่นเป็นสร้อยคอ Monete Pendant Watch ซึ่งเป็นทั้งเครื่องประดับและเครื่องบอกเวลา ความพิเศษอยู่ที่ตัวจี้จะเป็นเหรียญ Monete ที่ประดับอยู่บนนาฬิกาตูร์บิยง ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตมาจากเหรียญโรมันโบราณ ชื่อว่า เตตราดราคม (Tetradrachm) สืบทอดมาจาก Alexander the Great โดยสร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่มีเส้นเดียวในโลก ส่งผลให้มูลค่าของสร้อยปรับเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา”
มาร์ค ธาวิน เจ้าของร้านทำผมระดับไฮเอนด์ ที่นอกจากจะคอยดูแลให้คำปรึกษาด้านทรงผมแล้ว ยังเปิดคอร์ส Celebrity Coaching ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องภาพลักษณ์ การแต่งตัว การทำผม รวมไปถึงการวางตัวเมื่อต้องออกงานสำคัญ ให้ความรู้เรื่องการลงทุนในสินค้าแบรนด์เนมเพิ่มว่า
“กลุ่มถัดมาเป็น นาฬิกา เริ่มจากแบรนด์ โรเล็กซ์ (Rolex) แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มักสวมใส่โดยคนดังระดับโลกมากมาย เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ อย่างรุ่น Daytona Rainbow Everose ที่เปิดตัวในปี 2012 หน้าปัดนาฬิกาล้อมรอบด้วยพลอยสีไล่เรียงเฉดสวยเสมอกัน วางประดับบนตัวเรือนที่ออกแบบมาสามสี ได้แก่ สีทองคำขาว, สีทองเหลือง และสีทองชมพู ในปัจจุบันไม่มีการผลิตในรูปแบบนี้แล้ว จะมีก็แต่การ After setting ที่ซื้อนาฬิกามาแล้วเอาไปฝังพลอยเอง ซึ่งคุณภาพก็จะไม่เหมือนกับที่แบรนด์ทำอย่างแน่นอน โดยรุ่นราคาเปิดตัวเมื่อตอนวางขายประมาณ 2.8 ล้านบาท ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 10 ล้านบาท
ยังมีแบรนด์ ปาเต็ก ฟิลิปป์ (Patek Philippe) แบรนด์นาฬิกาข้อมือเรือนแรกในประวัติศาสตร์ มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และฟังก์ชันที่มีมากกว่าการบอกเวลา เป็นที่รู้กันดีในกลุ่มนักลงทุนว่า เป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างแน่นอน อย่างรุ่น Patek Philippe Nautilus 5724R-001 ขนาด 40 มม. ตัวเรือนเป็นโรสโกลด์ 18K ประดับเพชรด้านหลัง คริสตัลแซฟไฟร์เม็ดมะยมแบบขันเกลียว ตัวสายทำจากหนังจระเข้สีน้ำตาล ที่ใช้มือเย็บแบบแฮนด์เมดทั้งหมด ความพิถีพิถันในการผลิตอย่างหรูหราไร้ที่ติ ทำให้ ปาเต็ก ฟิลิปป์ น่าหลงใหล ไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา
ถัดมาเป็น กลุ่มเสื้อผ้า หลายคนอาจเข้าใจว่าเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ลงทุนไม่ได้ แต่หากเรามี หลักในการเลือกเสื้อผ้าก็สามารถลงทุนเพื่อเก็งกำไร ได้เช่นกัน เช่น เสื้อผ้าแบรนด์เนมที่ผลิตเป็นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น หรือคอลเลคชั่นที่ออกแบบร่วมกับดีไซน์เนอร์แบรนด์อื่น ๆ ก็จะมีความโดดเด่นกว่าเสื้อผ้าทั่วไป” เซเลบริตี้เล่า
สำหรับแบรนด์เสื้อผ้าที่เหมาะแก่การลงทุนในมุมของ มาร์ค ธาวิน พี เซียวตง นั้น คือแบรนด์ กอมม์ เดส์ การ์ซงส์ (COMME des GARCONS) แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น โดย เรย์ คาวาคูโบะ ที่โดดเด่นเรื่องของการนำความงดงามทางศิลปะที่แปลกตามาผสมผสานกับแฟชั่น เห็นได้ชัดเจนจากคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2013 ด้วยลายพิมพ์ดอกไม้บนชุดโอเวอร์โค้ท ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ อาวองการ์ด (Avant-Garde) ราคาวางขายประมาณ 8 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันราคาทะยานขึ้นสูงถึง 2 แสนบาท
“สุดท้ายเป็น กลุ่มกระเป๋า แน่นอนว่าแบรนด์ไฮเอนด์ที่น่าลงทุน และน่าครอบครองมากที่สุดคือ แอร์เมส (Hermès) ลักชัวรี่แบรนด์ที่มีกลยุทธ์ในการขายสินค้าที่แตกต่าง และไม่เหมือนใคร ซึ่งถ้าหากไม่ได้เป็นแฟนตัวจริงของแบรนด์ก็ยากที่จะได้เป็นเจ้าของ
สำหรับรุ่นที่สามารถลงทุนได้นั้น อาทิ รุ่น Hermes Ghillies Kelly 35 Tri-Color Alligator Bag หรือที่เรียกกันว่า รุ่น 3 หนัง ความพิเศษของตัวกระเป๋าผลิตจากหนังสัตว์ 3 ชนิดประกอบกัน ได้แก่ หนังนกกระจอกเทศ, หนังลิซซาร์ด (Lizard) และหนังจระเข้ ซึ่งในปัจจุบันไม่มีการผลิตรุ่นนี้แล้ว ราคาเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 2.25 ล้านบาท ส่วนราคาปัจจุบันอยู่ที่ราว 3 ล้านบาท นอกจากนั้นแล้วยังมี Hermes Kelly 40 Limited Edition Teddy Shearling Plush ที่ตัวกระเป๋าด้านนอกผลิตจากหนังแกะสีน้ำตาล ส่วนด้านในกระเป๋า และหูกระเป๋าผลิตด้วยหนังแพะภูเขา ราคาเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา ประมาณเกือบ 1 ล้านบาท ปัจจุบันสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าของแบรนด์เนมแต่ละชิ้นนั้น เมื่อเทียบราคาซื้อกับราคาปัจจุบันแล้ว ราคาปัจจุบันปรับตัวสูงกว่าหลายเท่า แสดงให้เห็นว่ามูลค่าของสินค้าแบรนด์เนมนั้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอยู่ทุกปี ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจรูปแบบใด การลงทุนกับสินค้าแบรนด์เนมจึงจัดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อีกทางหนึ่ง
เคล็ดลับสำคัญคือ ต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ และแบรนด์ที่สนใจ รวมถึงความต้องการในท้องตลาด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับของสิ่งนั้น และเพิ่มกำไรให้กับผู้ลงทุนได้”
อยากรู้เรื่องราวการลงทุนในสินค้าแบรนด์เนมมากกว่านี้ ดูที่
https://www.youtube.com/watch?v=VB7Sa-s1CxA และ FB, IG, You Tube ในชื่อ The World of Mark Thawin