กาเตนา ซาปาตา “ไวน์กรองด์ ครู แห่งอเมริกาใต้”
ขอฉลองความยิ่งใหญ่กับ “อาร์เจนตินา” ด้วย “ไวน์อาร์เจนตินา” กับ “ไวน์กรองด์ ครู แห่งอเมริกาใต้” นั่นคือ “โบเดกา กาเตนา ซาปาตา”
ทำไมต้องฉลองด้วย ไวน์กรองด์ ครู เพราะเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของทีมชาติอาร์เจนตินา เมื่อเอาชนะบราซิล 1-0 ได้ครองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้ 2021 หรือ โคปา อเมริกา 2021 เป็นสมัยที่ 15 และเป็นแชมป์โลกในรอบ 28 ปี และเป็นแชมป์แรก ที่ ลิโอเนล เมสซี ได้ในฐานะนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ด้วย
โบเดกา กาเตนา ซาปาตา หรือ ไร่องุ่น กาเนตา ซาปาตา (Bodega Catena Zapata) เป็นไวเนอรีแบบครอบครัว อยู่ในเมนโดซา (Mendoza) เขตผลิตไวน์ชื่อดังของประเทศอาร์เจนตินา ตัวอาคารที่ทำการก่อสร้างเป็นรูปทรงคล้ายปิรามิด ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมมายัน (Mayan Architecture) ชนเผ่าอินเดียนที่มีอิทธิพลในอเมริกากลาง
กาเตนา ซาปาตา กำเนิดในปี 1902 เริ่มต้นจาก นิโกลา กาเตนา (Nicola Catena) อพยพมาจากอิตาลี ถึงเมนโดซาเมื่อปี 1898 ดั่งเช่นชาวอิตาเลียนอีกจำนวนมากที่อพยพมาลงหลักปักฐานในเมนโดซา จนเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น “ลิตเติ้ล อิตาเลียน” ศาสตร์และศิลป์ในการทำไวน์ก็ได้มาจากพวกอิตาเลียนนี่เอง
ปี 1902 นิโกลา กาเตนา ปลูกองุ่น มาลเบค (Malbec) ครั้งแรกในไร่ที่เมนโดซานั่นเอง แม้มาลเบคจะใช้เป็นองุ่นพระรอง ใช้สำหรับเบลนด์ในบอร์กโดซ์ของฝรั่งเศส แต่เขาเชื่อว่าภายใต้เงื้อมเงาของเทือกเขาแอนเดส (Andes) สามารถทำให้มาลเบคเป็นพระเอกได้
โดมิงโก กาเตนา (Domingo Catena) ลูกชายคนโตของนิโกลา กาเตนา สานฝันของพ่อให้เป็นความจริง เขายกระดับไวเนอรีของครอบครัว จนกลายเป็นหนึ่งในเจ้าของไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในเมนโดซา พร้อมกับความเชื่อเดียวกับพ่อคือ สามารถทำให้มาลเบคยิ่งใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามปี 1960 เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาฟองสบู่แตก ครอบครัวกาเตนาก็ถูกผลกระทบไปด้วย โดมิงโก ต้องตัดสินใจว่าจะเก็บเกี่ยวหรือไม่ เพราะถ้าเก็บเกี่ยวต้องใช้ค่าแรงค่อนข้างสูง ขณะที่ นิโกลัส วัย 22 ปี เพิ่งจบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์มาหมาด ๆ แนะนำว่าไม่ต้องเก็บเกี่ยว แต่พ่อไม่เชื่อและเก็บเกี่ยว ปรากฏว่าขาดทุน เป็นความเศร้าที่ฝังใจเขามาโดยตลอด
นิโกลัส ซึ่งมารับหน้าที่แทนหลังจากพ่อเสียชีวิต มาแจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อ ลอร่า (Laura) ลูกสาวของเขาใช้ กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 95% และ มาลเบค (Malbec) 5% วางตลาดในปี 2001 และนำไปชิมในอเมริกาและยุโรป ในแบบ Blind Tasting เทียบกับไวน์ดัง ๆ อย่าง Château Latour, Chateau Haut Brion, Solaia, Caymus และ Opus One ปรากฏว่า Nicolás Catena Zapata 1997 ได้คะแนนอยู่ในอันดับต้น ๆ
คำว่า Zapata ที่ตามหลังชื่อนิโกลัส กาเตนา ซาปาตา (Nicolás Catena Zapata) นั้นเป็นชื่อกลางของแม่ของเขา ทุกวันนี้เขาและ ลอร่า กาเตนา ลูกสาวที่มีดีกรีถึงด็อกเตอร์ พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวร่วมกันสร้าง โบเดกา กาเตนา ซาปาตา จนโด่งดังไปทั่วโลก
โดยเฉพาะ ด็อกเตอร์ลอร่า ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 4 นั้น นอกจากทำไวน์แล้วเธอยังสร้างกิจกรรมต่าง ๆ อีกหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ได้รับการชื่นชมมากมาย หนึ่งในจำนวนนั้นคือ เดฟ แม็คอินทาย (Dave McIntyre) แห่ง นสพ. The Washington Post เขียนว่า
"Since Laura Catena took over and put her name on the label, the estate series seems to have taken on a bigger, brasher expression. The Catena Zapata wines can stand proudly among the best in the world."
นิโกลัส กาเตนา ซาปาตา ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่นำแท็คติกและเทคโนโลยีในการทำไวน์แบบยุโรปมาสู่อาร์เจนตินา ขณะเดียวกันก็เป็นหัวหอกในการทำให้มาลเบค มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไร่เอเดรียนนา ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 ฟุตนั้น ผลิตไวน์ได้ยอดเยี่ยมจนได้รับการขนานนามให้เป็น ไวน์กรองด์ ครู แห่งอเมริกาใต้
ลองดูแคแร็กเตอร์ของไวน์ที่ผมได้ชิมก่อนที่โควิด-19 จะระบาดอย่างหนัก เป็นไวน์ขาว 1 ตัว ไวน์แดง 3 ตัว นำเข้าโดยบริษัท IWS
โบเดกา กาเตนา ซาปาตา “อลามอส” ชาร์โดเนย์ เมนโดซา อาร์เจนตนา 2017 (Bodega Catena Zapata “Alamos” Chardonnay Mendoza Argentina 2017) : ทำจากชาร์โดเนย์ 100% หมักในถังสแตนเลส 65% มาโลเลคติก
สีเหลืองทองเข้ม หอมกลิ่นผลไม้ เช่น สับปะรด กรีนแอปเปิ้ล แพร์ เมลอน ซีทรัส เลมอน ดอกส้ม วานิลลา คาราเมล ควันไฟ ครีมมี่ สไปซีโอ๊คและเฮิร์บ จันทน์เทศ มิเนอรัล แอสิดปานกลางแต่สดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ วานิลลา ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 10-12 องศาเซลเซียส....18/20 คะแนน
โบเดกา กาเตนา ซาปาตา ไฮจ์ แลนด์ เมาน์เทน มาลเบค 2017 (Bodega Catena Zapata High Mountain Vines Malbec 2017) : ทำจากมาลเบค 100% จาก 3 ไร่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลต่างกันคือ 920 เมตร 1,090 เมตร และ1,450 เมตร บางไร่องุ่นอายุกว่า 80 ปี หมักด้วยยีสต์ธรรมชาติ จากนั้นบ่ม 12 เดือนในถังโอ๊คใช้แล้ว 2-3 ครั้ง
สีแดงสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น บลูเบอร์รี แบล็คเบอร์รี ฟิก ดอกลาเวนเดอร์ และไวโอเลต วานิลลา ม็อคคา มิเนอรัล หนังสัตว์ ไอโอดีนกรุ่น ๆ สไปซีเฮิร์บ อบเชย ฟูลบอดี้ แอสิดสดชื่น แทนนินค่อนข้างหนักแน่นและนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล วานิลลา และสไปซี สามารถดื่มได้ ณ เวลานี้......19/20 คะแนน
โบเดกา กาเตนา ซาปาตา เอเดรียนนา วินเยิร์ด “ฟอร์ตูนา แตร์แร” มาลเบค 2016 (Bodega Catena Zapata Adrianna Vineyard Fortuna Terrae Malbec 2016) : คำว่า “Fortuna Terrae” ในภาษาลาตินหมายถึง Luck of the Land ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะ ไร่ Adrianna อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 5,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล จึงเต็มไปด้วยเมฆหมอกและเสียงร้องของนกนานาชนิด
ทำจาก มาลเบค 100 % หมักในถังโอ๊คหลายขนาด 225, 500 และ 2,200 ลิตร จากนั้นบ่มในโอ๊คฝรั่งเศส 18 เดือน อยู่ในขวดอีก 24 เดือน...สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี ดอกไวโอเลต สไปซีเฮิร์บ จันทน์เทศ อบเชย ใบยาสูบ สไปซีโอ๊ค ควันไฟ ช็อกโกแลต ผลโกโก้ แอสิดปานกลางแต่สดชื่น แทนนินหนักแน่นและเริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี่เฮิร์บ มิเนอรัล เป็นมาลเบคอากาศเย็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สามารถดื่มใน ณ เวลานี้ แต่อาจจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะอีกประมาณ 2-3 ปี......19.5/20 คะแนน
โบเดกา กาเตนา ซาปาตา เอเดรียนนา วินเยิร์ด “ริเวอร์ สโตน” มาลเบค 2016 (Bodega Catena Zapata Adrianna Vineyard River Stones Malbec 2016) : ทำจากมาลเบค 100% จากไร่ Adrianna เช่นเดียวกับรุ่น Fortuna Terrae แต่รุ่นนี้โครงสร้างดีกว่า ดินมีส่วนผสมของ White Stone และหินปูนค่อนข้างมาก ซึ่งเกิดจากเดิมที่เคยเป็นสายน้ำเก่า อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น River Stones หมักในถังโอ๊คฝรั่งเศสขนาด 225 และ 500 ลิตร บ่ม 20 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศส
สีแดงเข้มปึ้ก หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี ดอกไวโอเลต กลีบกุหลาบแห้ง ไอโอดีน มิเนอรัล แบล็คชอกโกแลต หินปูนเปียก ๆ น้ำ เปลือกหอยที่ทับถมกันนาน ๆ ใบยาสูบ สไปซี เฮิร์บ จันทน์เทศ อบเชย โอคกรุ่น ๆ ฟูลบอดี้ แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและเริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้สุก สไปซีเฮิร์บ มิเนอรัล สามารถดื่มได้ในเวลานี้ แต่ถ้ารออีกสัก 2-3 ปีจะเปิดตัวมากกว่านี้……19.5/20 คะแนน
นั่นคือส่วนหนึ่งของไวน์ กาเตนา ซาปาตา เจ้าของฉายา ไวน์กรองด์ ครู แห่งอเมริกาใต้ ท่านที่เป็นแฟนอาร์เจนตินาไม่ควรพลาดชิม ที่สำคัญชิมด้วยความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม นั่นคือ ชิมที่บ้าน..!