3 หาดดัง ‘บาหลี’ ที่คนรักทะเลและการเล่น ‘เซิร์ฟ’ ปักหมุดรอ
จดไว้ในใจกับ 3 หาดที่นักท่องเที่ยวและสาย “เซิร์ฟ” ต้องไปเมื่อ “บาหลี” เปิดให้กลับไปเที่ยวอีกครั้งหลัง “โควิด”
ถึง บาหลี จะยังไม่เปิด แต่ใจหลายคนคงเตลิดไปถึงการได้สัมผัสน้ำทะเลใสๆ หาดทรายขาวๆ และคลื่นลมที่สำหรับนัก เซิร์ฟ ต้องถูกใจมากเป็นแน่
“บาหลี” (Bali) เป็นหนึ่งใน 34 จังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศอินโดนีเซีย มีพื้นที่เป็นเกาะขนาดเล็ก ภูมิอากาศของบาหลีมี 2 ฤดูคือ ฤดูร้อน (ช่วงเมษายน–ตุลาคม) และฤดูฝน (ช่วงพฤศจิกายน-มีนาคม) บาหลีเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงามทั้งทะเล ภูเขา ทะเลสาบ น้ำตก ผสมผสานประเพณีและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม มีทั้งวัด พิธีกรรม และศิลปะ ที่สำคัญยังมีกิจกรรมสนุกๆ และสถานที่สวยๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย จึงไม่แปลกใจที่บาหลีจะเป็นหมุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
- เดือนไหนน่าไป “บาหลี”
สภาพอากาศของ “บาหลี” จะคล้ายเมืองไทย การเตรียมตัวโดยเฉพาะเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจึงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนัก แค่ชุดลำลองสบายๆ หรือสาวๆ จะจัดเต็มด้วยบิกินีอวดความเซ็กซี่ริมหาดก็ไม่มีใครว่า
จะบอกว่า “บาหลี” เที่ยวได้ทั้งปีก็ไม่ผิด แต่ช่วงที่แนะนำให้เที่ยวก็คือฤดูร้อน ประมาณพฤษภาคม-ตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่ท้องฟ้าแจ่มใส แดดดี ทะเลกำลังสวย ไม่มีฝนตกให้กวนใจ สำหรับหนุ่มสาวที่ชอบเล่น “เซิร์ฟ” หรือกระดานโต้คลื่น แนะนำให้เที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เพราะจะเป็นช่วงที่ลมแรง แถมทะเลมีคลื่นลูกใหญ่ จึงเหมาะกับการ “เล่นเซิร์ฟ” อย่างมาก
…ไปรู้จักกับ 3 หาดชื่อดังของ “บาหลี” (ฝั่งตะวันตก) ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาโต้คลื่นท้าแดดท้าลมกัน
- “หาดกูตา” ก้าวแรกของนักเซิร์ฟ
หาดกูตา หรือ กูตา บีช (Kuta Beach) ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักเล่น “เซิร์ฟ” เลยก็ว่าได้ เดิมทีกูตาเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะบาหลี และมีพื้นที่ติดกับชายหาดที่สวยงาม แต่ต่อมา “กูตา บีช” ได้กลายมาเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักในกีฬาโต้คลื่นจากทั่วสารทิศ เนื่องจากทะเลที่นี่มีคลื่นลมที่แรง จึงเหมาะสำหรับการนำกระดานโต้คลื่นหรือ “เซิร์ฟบอร์ด” มาวาดลวดลายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ “หาดกูตา” ยังมีนักท่องเที่ยวนิยมมานอนอาบแดดดกันตามชายหาดอีกด้วย เลยทำให้หาดนี้กลายเป็นหาดยอดนิยมจนถึงปัจจุบัน
จุดสังเกตอีกอย่างคือ บริเวณ “ชายหาดกูตา” จะมีซุ้มสำหรับตั้งกระดานโต้คลื่นไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย ใครที่อยากลองเล่น “เซิร์ฟ” แต่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน ตามซุ้มเหล่านี้ก็จะมีโค้ชคอยสอนและให้คำแนะนำวิธีเล่นเซิร์ฟให้ด้วย โดยเสียค่าบริการไม่แพงมากนัก ลองจินตนาการว่าตอนนี้คุณกำลังอยู่บนกระดานโต้คลื่นในช่วงเย็นๆ ยามที่พระอาทิตย์กำลังตกทะเลดูสิ โมเมนต์นี้คุณจะได้สัมผัสทั้งความสนุกตื่นเต้นและความงดงามของบรรยากาศยามพระอาทิตย์อัสดงไปพร้อมกันเลยละ
- “หาดเซมินยัค” สวรรค์คนรักเซิร์ฟ
หาดเซมินยัค (Seminyak Beach) อยู่ไม่ไกลจากหาดกูตามากนัก เพียงเลาะชายหาดถัดขึ้นมาทิศเหนือต่อจากหาดกูตานิดหน่อย นักท่องเที่ยวก็จะพบกับหาดที่มีจังหวะชีวิตช้าๆ ชิลๆ กว่าหาดกูตาที่แสนจะคึกคักวุ่นวาย เนื่องจาก “หาดเซมินยัค” นี้ค่อนข้างสงบ จึงเหมาะกับการมาเดินเล่นชิลๆ หรือมานอนอาบแดดสบายๆ ท่ามกลางชายหาดสีขาวสบายตา และที่หาดนี้ยังมีรีสอร์ทและที่พักตากอากาศซึ่งมีระดับเรียงรายอยู่ตามหาดมากมาย
สำหรับนักเล่น “เซิร์ฟ” ที่ชอบการโต้คลื่นแบบผู้คนไม่เยอะมากและไม่วุ่นวาย แนะนำให้มาที่ “หาดเซมินยัค” เพราะคลื่นไม่แรงมากนัก ใครที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นเซิร์ฟก็มาเล่นที่หาดนี้ได้ แถมยามเย็นยังมีบริการเครื่องดื่มค็อกเทลจากผับบาร์ริมหาดให้สั่งมานั่งจิบเบาๆ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกไปด้วย
- “หาดปาดังปาดัง” หาดดังของมือโปร
สำหรับนักโต้คลื่นระดับโปรทั้งหลาย เชิญมาที่ หาดปาดังปาดัง (Padang Padang Beach) หาดนี้เป็นหาดที่นัก “เซิร์ฟ” มือโปรจากทั่วโลกต้องมาให้ได้สักครั้ง พูดง่ายๆ ว่า “ปาดังปาดังบีช” เป็นหนึ่งในชายหาดสำหรับโต้คลื่นระดับโลกของบาหลีเลยก็ว่าได้
ดังนั้น นักเซิร์ฟฝีมือระดับเทพทั้งหลายจึงต้องไม่พลาด เพราะที่นี่มีคลื่นยาวสามเมตรเกิดขึ้นบ่อยครั้งและต่อเนื่องพอๆ กับคลื่นที่พบได้เฉพาะในฮาวายเชียวละ เนื่องจากกระแสน้ำที่รุนแรง แถมยังมีหน้าผาตามชายฝั่งและแนวปะการังที่อยู่ด้านล่างด้วยแล้ว ที่นี่จึงเปรียบเสมือนว่าได้รับการออกแบบจากธรรมชาติมาเพื่อผู้พิชิตคลื่นที่มากประสบการณ์เท่านั้น จึงไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเล่นเซิร์ฟ เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้
- ไป “บาหลี” กินอะไรดี
หลังจากเดินเล่นริมหาด อาบแดด โต้คลื่น จนพลังงานหมด คงจะดีถ้ามีเมนูอร่อยๆ เติมให้การเที่ยวบาหลีครบถ้วน สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ หนีไม่พ้น เป็ดทอดกรอบสไตล์บาหลี Bebek Goreng (crispy duck) เมนูนี้ถ้าไม่ลองถือว่าพลาด! โดยจะใช้เป็ดรุ่นๆ ทอดทั้งตัวด้วยวิธีปรุงอาหารแบบชาวเกาะชวา เนื้อและหนังเป็ดจึงออกมากรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมัน ไม่มีกลิ่นสาบ ยิ่งทานคู่กับเครื่องเคียงจำพวกซุป หอมแดงยำ น้ำพริกเผา ซอส ข้าวเกรียบทอด และสลัดถั่วหวาน ที่เสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยหุงสมุนไพร ก็ยิ่งเสริมให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปเมนูลักษณะนี้จะถูกเรียกกันในชื่อว่า Crispy Duck บ้าง หรือ Angry Duck บ้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือเป็ดทอดกรอบสไตล์บาหลีนั่นเอง เมนูนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างดีบนเกาะบาหลี มีทั้งในร้านอาหารทั่วไป ภัตตาคาร หรือในโรงแรมระดับ 5 ดาว
อีกหนึ่งเครื่องดื่มประจำถิ่น น้ำจามู น้ำสมุนไพรอินเดียโบราณ เสริมภูมิต้านทาน แก้ร้อนใน ส่วนผสมก็หาง่ายแสนง่าย ขมิ้นสด ขิงสด มะนาวสด เติมน้ำหวานนิดๆ หวานเปรี้ยวคลายร้อน สุขภาพดีได้ในแก้วเดียว
ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากไป “บาหลี” ก็อดใจไว้อีกหน่อย รอโควิดจางๆ เจอกันแน่นอน...บาหลี