‘BNK48’ เปิดใจ วันนี้ของ ‘Only Today’ เพลงเดียวที่มี 2 เวอร์ชั่นสุดพิเศษ

ความพิเศษของ “Only Today” เพลงรองที่ไม่ว่าโอตะหรือว่าใครๆ ก็ต้องลองฟัง เพลงเดียวที่มีถึงสองเวอร์ชั่น สุดมันและสดใส โชว์ความสามารถแบบที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ จาก “BNK48”

หลังจากปล่อยซิงเกิ้ลล่าสุดอย่าง ดีอ่ะ จนกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงติดหูของวง BNK48 สาวๆ ไอดอลชื่อดังก็ยังมีอีกสองเพลงรองคือ Sukida Sukida Sukida - ชอบเธอนะ ที่มาสร้างความสดใส และเพลงสุดพิเศษอย่าง Only Today ที่มีถึงสองเวอร์ชั่น ซึ่งไพเราะทั้งสองสไตล์

กว่า 4 ปีของ “BNK48” ในฐานะวงไอดอลผู้สร้างปรากฏการณ์มากมายให้วงการไอดอลและวงการบันเทิงไทย เหล่าเมมเบอร์ตั้งแต่รุ่นหนึ่งจนถึงปัจจุบันได้มอบความสุขผ่านผลงานต่างๆ ซึ่งเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์และทักษะอยู่เสมอ ทำให้ในแต่ละบทเพลงหรือแม้แต่ผลงานด้านอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์, ละคร, โฆษณา ฯลฯ จะเห็นได้ถึงพัฒนาการรวมถึงความแปลกใหม่ด้วย

ในเพลง “Only Today” ก็เช่นกัน ถึงจะถูกจัดเป็นเพลงรอง ทว่าเป็นเพลงรองที่ให้เมมเบอร์ได้ใส่ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ด้วยการทำให้มีถึง 2 เวอร์ชั่น ทั้ง Band Version และ Acapella Version เกิดเป็น 2 ยูนิต 2 สไตล์ ยกตัวอย่างใน Band Version ที่มีเมมเบอร์คือ ก่อน, แพนด้า, แบมบู, นายน์, ซัมจัง, ผักขม และน้ำใส โดยมี ภัทรนรินทร์ เหมือนฤทธิ์ (นายน์ BNK48) และ จิดาภา แช่มช้อย (แพนด้า BNK48) ร้องนำ โดยทั้งคู่คือเมมเบอร์ในรุ่นสองที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งการร้องเพลงและเล่นดนตรี นี่จึงถือเป็นการผลักดันให้เมมเบอร์ได้ฉายแสง ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ควรจะมีอยู่เสมอๆ

วฑูศิริ ภูวปัญญาสิริ (ก่อน BNK48) ตัวแทนเมมเบอร์ใน “Only Today” ยูนิตสุดมันนี้ รับหน้าที่เล่นคีย์บอร์ด เธอเล่าว่าแม้ตำแหน่งคีย์บอร์ดจะมีสองคนคือก่อนและผักขม แต่เล่นคนละไลน์กัน ตัวเธอเองเล่นในไลน์เมโลดี้ ส่วนผักขมเล่นไลน์คอร์ด ซึ่งก็ต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักและลำบากมากเพราะสถานการณ์โควิด-19

“ตั้งแต่รู้ว่ามีการประกาศรายชื่อเมมเบอร์ในเพลงนี้ พวกเราก็ฝึกซ้อมด้วยกันประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นก็เจอโควิด-19 ทำให้พวกเราต้องฝึกซ้อมกันที่บ้าน ส่วนใน MV กว่าจะถ่ายทำให้ทุกคนได้เห็น ต้องใช้เวลาเยอะมาก โดยที่คุณครูขอให้พวกเราส่งการบ้านอยู่เรื่อยๆ”

เนื้อหาของเพลงแม้จะมาจากเพลงต้นฉบับทางฝั่งญี่ปุ่น แต่ก็แปลได้ดีทีเดียว จณิสตา ตันศิริ (แบมบู BNK48) พูดถึงเนื้อเพลง “Only Today” ว่าเป็นเพลงรักที่จบลง แต่ยังมีอีกหนึ่งความหวังสุดท้ายที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาดีดังเดิม

“เพลงนี้เป็นเพลงเกี่ยวกับความรักที่จบลงแล้ว แต่เราขออีกแค่สักวันเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ความรักนั้นกลับมามีชีวิตอีกรอบหนึ่ง ถึงแม้จะรู้ว่าตอนสุดท้ายความรักนั้นจะหายไปอยู่ดี เป็นเพลงรัก เศร้า และความสุข ในวันเดียว มีความย้อนแย้งในเพลง (หัวเราะ) แต่เป็นการผสมผสานความรู้สึกได้ดีเลยค่ะ

สำหรับตำแหน่งของหนูคือกลองค่ะ ถามว่าฝึกซ้อมนานไหม นานพอสมควรเลยค่ะ ประมาณ 2-3 เดือน เพราะพวกเราส่วนมากเป็นมือใหม่กันทั้งนั้น จะมีแค่บางคนที่มีพื้นฐานด้านการเล่นดนตรีมาแล้ว แต่อย่างหนูต้องใช้เวลาในการปรับตัวนิดหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนได้รับชมกันค่ะ”

ด้าน สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์ (ซัทจัง BNK48) รับหน้าที่เล่นกีต้าร์อคูสติก ยอมรับว่าเป็นเพลงที่เหมือนจะง่ายแต่ก็ยาก ถึงจะเล่นกีต้าร์ได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด

“หนูฝึกซ้อมนานพอสมควรเลยค่ะ เพราะเพลงนี้ยาก ส่วนการถ่าย MV ที่เป็นแบบ Performance เราก็เลยไม่ได้ถ่ายกันยาวนานอะไรขนาดนั้น แต่ว่าเราการฝึกซ้อมถือว่ายาวนานพอสมควรค่ะ”

สำหรับใน Acapella Version ก็เป็นอีกมุมที่แฟนคลับไม่เคยเห็น เพราะสาวๆ ในยูนิตนี้ ทั้ง สตางค์, มายยู, นิกี้, จ๋า, นิว, ฟ้อนด์ และมิโอริ ขนความสุขมามอบให้ผ่านเสียงร้องสไตล์ Acapella

ตริษา ปรีชาตั้งกิจ (สตางค์ BNK48) บอกว่า เวอร์ชั่นนี้คือการร่วมกันทำงานอย่างหนักระหว่างเมมเบอร์ ครู และทีมงานทุกคน จนได้ผลงานที่ทำให้รู้สึกมีความสุขมาก

“การร้องแบบ Acapella เป็นความท้าทายมากๆ เพราะพวกเราเป็นมือใหม่ด้านการร้อง Acapella ซึ่งการร้องประเภทนี้คือการใช้เสียงของเราแทนเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ในเพลงนี้จึงไม่มีเครื่องดนตรีเลย ความท้าทายก็คือเราต้องร้องพร้อมกัน กะบีทให้พร้อมกัน เพราะแต่ละคนมีไลน์อัพการร้องไม่เหมือนกัน แต่ยังคงต้องร้องให้พร้อมเพรียงกัน ทั้งแปลกใหม่และสนุกมากๆ ค่ะ”

นอกจากการร้องแบบ Acapella แล้ว การทำงานในภาวะโควิด-19 เป็นอีกความท้าทายที่สตางค์ยอมรับว่าทำงานยากมาก การซ้อมผ่านออนไลน์ไม่เหมาะกับแนวเพลงยากๆ แบบนี้ แต่พวกเธอต้องทำ

“การร้อง Acapella ต้องร้องพร้อมกันจริงๆ เราควรต้องอยู่ร่วมกัน ซ้อมกัน แต่พอเราร้องจากต่างที่ ด้วยสัญญาณอินเทอร์เน็ต ด้วยอะไรหลายอย่างทำให้ซ้อมยากมาก”

ด้าน กวิสรา สิงห์ปลอด (มายยู BNK48) เล่าว่าตั้งแต่รู้ว่าจะมีเพลง “Only Today” Acapella Version ก็เซอร์ไพรส์มากๆ เพราะเป็นครั้งแรกของ “BNK48” ที่มีเพลงแนวนี้ และแม้ตัวมายยูเองจะร้องเพลงดี แต่การร้องเพลง Acapella ก็ยังยาก

“ปกติก็เคยฟังเพลง Acapella มาก่อน แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสร้องเพลงแนวนี้จริงๆ เป็นสิ่งใหม่มากๆ สำหรับพวกเรา แต่ว่าทุกคนก็ตั้งใจและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด จนได้เป็นผลงานชิ้นนี้ที่ทุกคนได้ฟังกัน

สำหรับมายยูนี่เป็นอะไรที่ Challenge ที่สุดแล้ว ด้วยความที่ปกติจะร้องเสียงต่ำได้ไม่ค่อยดี แต่ว่าพอครูๆ วัดจากย่านเสียงของทุกคนว่าจะเหมาะกับตำแหน่งไหนที่สุด มายยูจะเป็นคนที่ย่านเสียงต่ำที่สุด เลยได้หน้าที่เป็นเทนเนอร์หรือประสานต่ำ และไลน์เบสค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ตอนที่รู้ว่าได้หน้าที่นี้ก็ร้องไห้เลย เพราะกังวลว่าตัวเองจะทำออกมาได้ไม่ดี แต่สุดท้ายก็ฝึกฝนอย่างหนักจนทำได้ และเป็นการได้ขยาย range เสียงของตัวเองให้กว้างขึ้นไปอีก ถือเป็นผลพลอยได้ที่ดี”

มาถึงน้องเล็กแต่แซ่บ วรินท์รัตน์ ยลประสงค์ (นิกี้ BNK48) เป็นอีกคนที่เหมือนได้เปิดประสบการณ์ใหม่กับการร้องเพลงแนวนี้ และความที่ต้องการทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบจึงค่อนข้างกดดัน

“นี่เป็นความแปลกใหม่มาก หนูไม่เคยร้องประสานเสียงแบบ Acapella ขนาดนี้เลย แล้วหนูก็ต้องการทำให้ออกมาอย่างมืออาชีพมากที่สุด เพลงนี้จึงยากมากที่สุดเพลงหนึ่งของหนูค่ะ แถมในเนื้อเพลงบางท่อนก็แปลยากมาก เช่น ท่อนของพี่จ๋าที่ร้องว่า “กาแฟที่ไม่สด กระป๋องจากตู้กด” แต่ครูแมนกับครูเอ๊ะก็แปลออกมาได้ดีมากและน่ารักด้วย”

162970267324