ความเหมือนที่แตกต่าง
ภายใต้โลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเสาะแสวงหาเทคโนโลยีใหม่อย่างเดียวไม่พอ ในฐานะผู้ที่ดูแลงานด้านเทคโนโลยีมาโดยตลอด จึงได้ย้ำถึงทิศทางที่เราทุกคนควรปฏิบัติ นั่นคือ การเปิดใจ ยอมรับ และปรับตัวตามให้ทัน
หากพูดถึงบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ภาพที่สะท้อนในความคิดของคนไทยส่วนใหญ่ คงหนีไม่พ้นธุรกิจด้านพลังงาน อย่างน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมี ที่อยู่คู่คนไทยมากกว่า 40 ปี
แต่ในยุคที่ทั่วทั้งโลกกำลังมุ่งเปลี่ยนสู่การใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บวกกับของเทรนด์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล จึงเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ต่อธุรกิจหลักของ ปตท. ที่อาจถูก Disrupt หากไม่มีการปรับตัว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เราจึงได้เห็นความเคลื่อนไหวปรับทิศทางธุรกิจ สู่การเดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve
เบื้องหลังการแสวงหาและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับสายงานเทคโนโลยีและวิศวกรรม ผู้ที่รับผิดชอบดูแลงานด้านพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-curve ให้กับ ปตท.
โดยวันนี้ เรามีนัดกับหัวเรือใหญ่ของสายงานนี้ คุณวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท. หรือเรียกสั้นๆ ว่า CTO ที่โรงเรียนสอนขี่ม้า สถานที่ที่จะเป็นจุดมุ่งหมายต่อไปของเขาหลังจากเกษียณอายุ ด้วยการทุ่มเทเวลาอยู่กับการขี่ม้า กีฬาที่เขารักมากที่สุด
“ในวัยเด็ก ผมเป็นคนค่อนข้างซน คุณพ่อคุณแม่ก็เลยพาเราเล่นกีฬา ซึ่งกีฬาประเภทแรกที่ได้ลองเล่นคือ ขี่ม้า ตอนอายุ 11 ปี เมื่อก่อน ผมอยู่กับม้าตั้งแต่เช้าจนค่ำเลย”
แม้จะเป็นกีฬาที่ชอบมาก แต่ด้วยความเป็นคนกระตือรือร้น คุณวิทวัสจึงมีกิจกรรมยามว่างที่หลากหลาย ทั้งการยิงปืน ที่ได้รางวัลมานับไม่ถ้วน รวมถึงการดำน้ำที่เป็นถึงระดับครูสอนดำน้ำของสถาบัน NAUI เลยทีเดียว
“สำหรับผม ม้าเป็นอะไรที่รักที่สุด การขี่ม้าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ต้องบาลานซ์ตัวเราเองกับม้าที่เราขี่ให้ได้ ก่อนหน้านี้ด้วยหน้าที่การงานทำให้ไม่มีเวลาว่างนัก ก็เลยวางแผนว่าหลังเกษียณจะทำเรื่องเกี่ยวกับม้าให้มากขึ้น ตั้งใจจะปรับปรุงคอกม้าแห่งนี้ซึ่งเป็นคอกเก่าของเพื่อนต่างชาติให้สวยงามขึ้น”
นอกจากจะเล่าถึงแผนการหลังเกษียณจากบทบาท CTO ของ ปตท. แล้ว คุณวิทวัสยังได้แชร์มุมมองที่เชื่อมโยงระหว่างการขี่ม้าและการทำงานในแง่มุมที่น่าสนใจ
“การขี่ม้าเทียบกับการทำงานได้อย่างชัดเจนเลย อย่างตอนเราขึ้นไปอยู่บนหลังม้า ครูฝึกเขาก็จะคอยดู คอยไกด์เราอยู่ข้างล่าง และปล่อยให้เราสัมผัสม้าและหาจังหวะบังคับม้าเอง เช่นเดียวกันกับการทำงาน ครูสอนขี่ม้าก็คล้ายกับผู้ใหญ่ในองค์กร ที่คอยมองการทำงาน และคอยแนะนำ ช่วยเสริมส่วนที่ขาดให้พนักงานที่รับผิดชอบงานแต่ละส่วนได้ลงมือปฏิบัติงานเอง เมื่ออยู่หน้างาน จะได้รู้ว่าจำเป็นต้องปรับส่วนไหน อย่างไร ต้องพูดคุยประสานกับส่วนไหน เพื่อให้งานที่รับผิดชอบสำเร็จลุล่วง”
ซึ่งนั่นได้สะท้อนถึงแนวทางการทำงานของคุณวิทวัส จนนำไปสู่ธุรกิจใหม่ของ ปตท. โดยได้ตั้งทีมคนรุ่นใหม่ในชื่อ ExpresSo (Express Solutions) ขึ้น เพื่อคอยจับตานวัตกรรมใหม่ ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อเป็นโอกาสการทำธุรกิจของ ปตท.
“แนวทางของผม เพียงแต่บอกน้อง ๆ ในทีมเสมอว่า ให้มีความรู้สึกเป็นเจ้าของในสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้าเขาไปเจออะไรใหม่ ๆ และเขาตั้งใจที่จะทำ และรู้สึกเป็นเจ้าของ เขาจะลุยทำ และไม่ทิ้งมัน ส่วนเรื่องเทคโนโลยีไม่ต้องห่วงเลย เขาตามได้ทันอยู่แล้ว”
แม้เหลือเวลาเพียงไม่นานในตำแหน่ง CTO ของ ปตท. แต่คุณวิทวัสยังคงแสดงให้เราเห็นถึง Passion และความตั้งใจในสายงานด้านเทคโนโลยี ให้เราเห็นอยู่ตลอดการสนทนา
“วันนี้ผมใกล้เกษียณอายุแล้ว แต่ก็มั่นใจว่าได้วางรากฐานงานด้านเทคโนโลยีเอาไว้แล้ว จึงเชื่อมั่นว่าสายงานนี้จะสามารถสร้าง New Business ให้กับ ปตท. ได้ แม้ในอนาคต พลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอาจจะถูก Disrupt แต่เราจะค้นพบนวัตกรรมด้านพลังงานใหม่ ๆ ที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน”
ภายใต้โลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเสาะแสวงหาเทคโนโลยีใหม่อย่างเดียวไม่พอ คุณวิทวัส ในฐานะผู้ที่ดูแลงานด้านเทคโนโลยีมาโดยตลอด จึงได้ย้ำถึงทิศทางที่เราทุกคนควรปฏิบัติ นั่นคือ การเปิดใจ ยอมรับ และปรับตัวตามให้ทัน
“เทคโนโลยีในปัจจุบันมาเร็วและแรงมาก ขอให้ทุกคนติดตาม ถึงจะไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ในตอนนี้ แต่ขอให้รับรู้ ตามเทคโนโลยีให้ทัน ถ้าไม่ทัน เราจะถอยหลังทันที” คุณวิทวัสทิ้งท้ายก่อนที่จะโชว์ลีลาขี่ม้าคู่ใจให้เราได้ชม