‘ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์’ Work-Life Solutions แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านบางนา

‘ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์’ Work-Life Solutions แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านบางนา

เยี่ยมชม “ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านบางนา อาคารสำนักงานใหญ่ ของ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ชูจุดเด่นตอบโจทย์การทำงานเพื่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและการทำงานร่วมกันด้วยโซลูชั่นทันสมัยครบครัน พร้อมเปิดให้บริการแล้วอย่างเป็นทางการ

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว

ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ถือเป็นแลนด์มาร์คด้านธุรกิจและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของย่านบางนา ด้วยอาคารสูง 25 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 52,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานที่มีความคล่องตัวสูงและพื้นที่เปิดส่วนกลาง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ บริษัทข้ามชาติ ธุรกิจ SME และสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบเปิดกว้าง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำงานประสานกัน รวมถึงช่วยสร้างสมดุลชีวิตการทำงานและไลฟ์สไตล์ที่ลงตัวให้แก่พนักงานของบริษัทที่เข้ามาเช่าพื้นที่”

ด้วยความโดดเด่นด้านดีไซน์ตัวอาคาร ที่ออกแบบโดย บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ (ประเทศไทย) ตั้งแต่แนวเส้นโค้งไล่ระดับ เปรียบดั่งภูเขาที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางพื้นที่โดยรอบ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากอักษรจีนโบราณซึ่งสื่อถึงพลัง ความมั่นคงและมั่งคั่ง ทำให้ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Awards สาขา “สถาปัตยกรรมอาคารสำนักงานแบบไฮไรส์” ประจำประเทศไทย (Commercial High Rise Architecture Thailand) ในปี 2563

“เราตั้งใจออกแบบ อาคารดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ให้เป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ในย่านบางนา และเราภูมิใจที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้” นางสาวจรีพร จารุกรสกุล กล่าว

‘ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์’ Work-Life Solutions แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านบางนา

  • สภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

ภายในอาคารยังประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  อาทิ  โคเวิร์คกิ้งสเปซ ร้านกาแฟ แวดล้อมด้วยภูมิทัศน์สวนและน้ำพุ และพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับกิจกรรมอื่นๆ  เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพและให้พนักงานบริษัทมีรูปแบบชีวิตการทำงานที่สมดุล ผ่อนคลาย และสนุกสนานด้วยไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพและความบันเทิงที่ครบครัน

Co working area, coffee shops, green landscape and water feature, and recreation areas

  • เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยและคล่องตัว

ผสมผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีภายในตัวอาคาร ประกอบด้วย เทคโนโลยีความปลอดภัยควบคุมด้วยระบบดิจิทัล ติดตั้งระบบเข้า – ออกอาคารด้วยคีย์การ์ด โดดเด่นด้านการดูแลรักษาความปลอดภัย ระบบวินิจฉัยอาคาร ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยที่รวดเร็วแม่นยำ และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ที่จอดรถรองรับรถได้ประมาณ 500 คัน ระบบการเข้าจอดรถแบบอ่านป้ายทะเบียนรถ ระบบเครื่องปรับอากาศกลางทำความเย็นด้วยน้ำ ลิฟต์ความเร็วสูงแยกโซนชั้นสูงและชั้นต่ำที่ออกแบบมาอย่างล้ำสมัย ระบบตรวจวัดอุณหภูมิทุกทางเข้าออก ระบบการสแกนใบหน้า (Face Scan) เพื่อใช้ในการเข้าออกพื้นที่สำนักงานผ่านประตูที่กั้นอัตโนมัติ (Turnstile) และเมื่อขึ้นและลงลิฟต์ สามารถเลือกติดตั้งได้ตามความต้องการ ระบบ Network Neutral และบริการคลาวด์และบริการ Colocation เชื่อมต่อการทำงานได้อย่างคล่องตัว และการบริหารจัดการอาคาร รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566

“โครงการดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ มีทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานครและโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ซึ่งถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในการติดต่อธุรกิจและเจรจาการลงทุน รวมถึงสามารถเดินทางไปยังโลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ของดับบลิวเอชเอ บนถนนบางนา-ตราด และโลจิสติกส์พาร์ค ตลอดจนนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอได้อย่างสะดวกสบาย”

นางสาว จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “โครงการฯ ยังเชื่อมต่อการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าเมกะบางนาและ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนา ตลอดจนโครงการที่อยู่อาศัยมากมาย ทำให้การเดินทางเข้าและออกจากกรุงเทพฯ และไปยังถนนสายหลักต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ตัวอาคารออกแบบมาโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด และช่วยให้ผู้เช่าพื้นที่และผู้ที่เดินทางมาติดต่อสามารถเลือกใช้เส้นทางสัญจรได้หลากหลายเส้นทางตลอดเวลา”

สำหรับผู้ที่สนใจและกำลังมองหาอาคารสำนักงานที่มีความคล่องตัวสูง พร้อมตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถติดต่อฝ่ายการตลาดองค์กร เพื่อเข้ามาเยี่ยมชมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป