ไขข้อข้องใจ แฮชแท็ก #แบนมดดำ มีที่มาอย่างไร
ทำไมแฮชแท็ก #แบนมดดำ ถึงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยถึง 2 วันเต็มแล้ว ต้นตอของดรามานี้คืออะไร มาไขข้อข้องใจได้ที่นี่
ติดเทรนด์ฮิตในทวิตเตอร์ประเทศไทยมา 2 วันติดๆ ด้วยยอดทวิตกว่า 1.86 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว แล้วสำหรับแฮชแท็ก #แบนมดดำ ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงที่มาที่ไปว่ามีต้นตอมาจากอะไร แล้วเกี่ยวข้องกับใครบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทราบกัน
-
แฮชแท็ก #แบนมดดำ เกิดขึ้นหลังจากที่ ‘มดดำ’ คชาภา ตันเจริญ พิธีกรบันเทิงชื่อดัง ได้เล่าข่าวเกี่ยวกับการปล่อยเพลงโซโล่ของ ‘ลิซ่า’ ในรายการ แฉ เทปที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 โดยนำไปเปรียบเทียบกับศิลปินชาวไทยอีก 2 คนที่ไปโด่งดังในวงการ K-Pop เหมือนกัน นั่นก็คือ นิชคุณ หรเวชกุล และ ‘แบมแบม’ กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ในเชิงที่ว่าทั้งสองคนมีความดังไม่เท่าลิซ่า
-
โดย มดดำ คชาภา ได้พูดเอาไว้ว่า "แน่นอนนี่คือปรากฎการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เราไม่เห็นซูเปอร์สตาร์ที่ไปไกลขนาดนี้ จริงๆ ตอนนั้นเรามีนิชคุณแต่ก็ยังไม่ได้ขนาดนี้ เรามีแบมแบมก็ยังไม่ได้ขนาดนี้ อันนี้คือแบบระดับโลก คำว่าระดับโลกจริงๆ มันเกิดขึ้นกับประเทศไทยเราแล้วจริงๆ นะ"
แบมแบม และ นิชคุณ credit : ไอจีแบมแบม @bambam1a
-
หลังจากเทปนี้ออกอากาศ แฟนคลับของ ‘แบมแบม’ ได้พากันติดแฮชแท็ก #แบนมดดำ ทางโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงความไม่พอใจกับคำพูดของมดดำ โดยให้เหตุผลว่าเราสามารถชมคนๆ หนึ่งได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องพาดพิงหรือเปรียบเทียบกับใคร ทั้งยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมาแบมแบมพยายามหนักมาก ไม่ควรที่จะถูกด้อยค่าความพยายามของเขาเช่นนี้
-
ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น แฟนคลับประเทศต่างๆ ของแบมแบม ทั้งจีน เกาหลี รวมถึงแฟนคลับอินเตอร์อีกหลายชาติต่างพากันเข้าไปถล่มทั้งในไอจีของมดดำ รวมไปถึงโซเชียลมีเดียของช่อง GMM 25 ซึ่งทางรายการแฉออกอากาศอยู่ เรียกร้องให้มดดำออกมาขอโทษ ทั้งยังติดแฮชแท็ก #ApologizeToBamBam และ #RespectBamBam เพิ่มเข้ามาด้วย
-
ทางด้านมดดำก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกมาโพสต์ขอโทษทางไอจีแล้วบอกว่าจะพูดขอโทษออกอากาศในรายการ แฉข่าวเช้า อีกครั้ง
-
แต่ความร้อนระอุของดราม่านี้ก็ยังไม่จบลงเมื่อ ‘แบมแบม’ ได้ออกมาทวิตว่า “ไม่เป็นไรครับ บางที หลายๆ คนอาจจะไม่รับรู้ถึงความพยายามของผม แต่มีทุกคนคอยรับรู้และเข้าใจ ผมก็มีความสุขแล้วครับ”
-
ตามด้วยคุณแม่ของแบมแบมที่โพสต์ไอจีว่า “ความจริงก็รับได้นะ...แต่ก็แหละ!! หัวอกคนเป็นแม่..
-
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในกรณีนี้ เช่น เฟซบุคคุณหมอเด็กที่ชื่อว่า ‘หมีน้อยกระตุ้นพัฒนาการฝึกพูด’ @BEARCANTALK ที่บอกว่า “ เราสามารถชื่นชมคนๆนึงได้ โดยไม่จำเป็นต้องพาดพิงเปรียบเทียบใคร กรณี #แบนมดดำ เป็นตัวอย่างที่ดีมาก เวลาเลี้ยงลูกพร้อมๆ กันสองคน หรือเมื่อเด็กๆ อยู่ด้วยกันหลายๆ คน ผู้ใหญ่มักจะ #เปรียบเทียบ โดยไม่รู้ตัว อย่าลืมนะคะ จะชมก็ชมเลย ไม่ต้องเปรียบเทียบให้รู้สึกว่าอีกคนดี อีกคนไม่ดีเท่า การที่เด็กๆ เขาพยายาม มันดีที่สุดแล้ว”
-
หรือเพจ ทนายคลายทุกข์ ที่ออกมาให้ความรู้ทางกฎหมายว่า “การนำคนมาเปรียบเทียบ อาจเป็นการกระทำละเมิดและต้องชดใช้ค่าเสียหาย ที่ผ่านมาศาลฎีกาเคยตัดสินไว้แล้วต้องระมัดระวังนะครับอาจถูกดำเนินคดีได้ เข้าใจว่าต้องการความบันเทิง เข้าใจว่าต้องการ Rating แต่อย่าลืมนะครับเรตติ้งของคุณอาจอยู่บนความเดือดร้อนอับอายของบุคคลอื่น อย่าด้อยค่บุคคลอื่นโดยอาศัยความเป็นบุคคลสาธารณะ”
-
แม้แต่ ‘พระมหาไพรวัลย์’ ก็มีคนนำดราม่านี้ไปถามท่านซึ่งท่านได้ตอบกลับมาว่า "ชีวิตใครก็เป็นของคนนั้น ไม่เหมือนกัน ไม่ต้องเปรียบเทียบ"
-
ส่งผลให้ตอนนี้ดรามานี้ยังคงร้อนระอุ แฮชแท็ก #แบนมดดำ ยังคงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยอยู่เช่นเดิม