เทศกาลกินเจ "วัดเล่งเน่ยยี่" กราบไหว้ทวยเทพได้ แต่งดกิจกรรมบางอย่าง
ทุกๆ ปีในช่วงเทศกาล “กินเจ” ที่ “วัดเล่งเน่ยยี่” จะเปิดกราบไหว้ทวยเทพ และมีพระเณรมาสวดมนต์ทุกวัน แต่ปีนี้มีมาตรการเว้นระยะห่างในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด (ตามอ่านท้ายเรื่อง)
ในช่วงเทศกาลกินเจ(5-15 ตุลาคม 64) วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส จะมีงานใหญ่ประจำทุกปี
ในช่วงเทศกาลกินเจ วัดเล่งเน่ยยี่ จะมีพระเณรมาสวดมนต์ทุกวัน และมีญาติโยมนิยมมาฟังธรรมและทำบุญ แต่ปีนี้งดให้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อนุญาตให้เข้าร่วมพิธีเฉพาะเจ้าภาพเท่านั้น ก็คือ
1.ถวายโคมประทีปสิริมงคลแด่ "องค์กิ่วอ๊วงฮุกโจ้ว"
2.ร่วมเป็นเจ้าภาพอุปภัมถ์ (ฮกซิ่ว) ตลอดงาน
ที่นี่เป็นวัดที่คนไทยเชื้อสายจีนจะต้องแวะมาไหว้พระ ขอพร เนื่องจากเป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดในย่านเยาวราช เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานชื่ออย่างเป็นทางการจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
วัดเล่งเน่ยยี่อายุกว่า 150 ปี
หากย้อนไปค้นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ วัดเล่งเน่ยยี่เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี ก่อตั้งเมื่อปี 2414
อ่านข่าว : คกก.โรคติดต่อตรัง คุมเข้มเทศกาลกินเจ งดการออกโปรดสาธุชน
ที่สำคัญคือ วัดแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้อย่างดี เนื่องเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปเมื่อปี 2558 เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของวัดจีนแห่งนี้
วัดแห่งนี้ มีสไตล์จีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว กว่าจะก่อสร้างเสร็จใช้เวลากว่า 8 ปี มีการวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า
เหล่าทวยเทพที่คนมากราบไหว้
ส่วนกลางเป็นพระอุโบสถประดิษฐานเหล่าทวยเทพและเทพพระประธาน 3 องค์ คือ
1.พระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้าหรือ “เอี๊ยะซือฮุก” ผู้เป็นครูและผู้รักษาโรค
2.พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้าหรือ “พระโคดมพุทธเจ้า” ผู้ทรงตรัสรู้ความจริงอันประเสริฐ
3.พระอมิตพุทธเจ้า เชื่อกันว่าท่านจะนำดวงวิญญาณของผู้บูชาไปเกิดในดินแดนสุขาวดี
ส่วนหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ วิหารพระอวโลกิเตศวร (กวนอิม โพธิสัตว์) และวิหารเทพเจ้า เช่น เทพเจ้ากวนอู พระเพลิง เทพโชคลาภ เทพเจ้าเซียนซือกง (หมดฮั่วท้อเซียนซือ) เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาชีวิต (ไท้ส่วยเอี้ย)
ภาพจากเฟซบุ๊ควัดเล่งเน่ยยี่
สถาปัตยกรรมจีนโบราณ
ว่ากันว่า วัดมังกรกมลาวาส มีสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาแบบจีนโบราณ ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐและไม้ ประดับตกแต่งลวดลายสิริมงคลด้วยกระเบื้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆ มีภาพวาดรูปปั้นแกะสลักปิดทองอย่างสวยงาม
คนส่วนใหญ่ชอบที่จะไปไหว้เทพเจ้าขอพรให้คุ้มครอง เพราะที่นี่มีเทพหลายองค์ อาทิ เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา “หั่วท้อเซียงซือกง” ,เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ” เทพเจ้าเฮ่งเจีย หรือ “ไต่เสี่ยหุกโจ้ว”รวมเทพเจ้าในวัด มีทั้งหมด 58 องค์
เนื่องจากเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางพุทธมหายานของคณะสงฆ์จีนนิกายในประเทศไทย มีความเก่าแก่และมีประวัติยาวนาน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะบูชาทวยเทพธรรมบาลด้วยความศรัทธาและเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ฉันมีโอกาสไปกราบไหว้เทพเจ้าหลายองค์ในสถานที่แห่งนี้หลายครั้ง และยังได้มีโอกาสสนทนากับหลวงจีนปลัดวิศิษย์ วัดเล่งเน่ยยี่
ท่านเคยเล่าถึง แนวคิดเจ้าอาวาสที่อยากช่วยสังคมให้ฟังอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนให้มีการศึกษา ที่พักและอาหาร โดยการเปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมไทย-จีน เพื่อให้เด็กเหล่านั้นเข้ามาบวชเรียน
“ที่อื่นคัดเด็กออก เราคัดเด็กเข้ามา ขอเพียงอ่านภาษาไทยได้” ท่านกล่าวเช่นนั้น
นี่คือความเมตตากรุณาที่ท่านเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้ว อยากให้วัดแห่งนี้มีโอกาสช่วยเหลือสังคม
...................
เทศกาลกินเจ ปี 64 วัดเล่งเน่ยยี่
เนื่องจากสถานการณ์โควิด วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช และวัดเล่งเน่ยยี่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
-เปิดกราบไหว้พระได้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. เพื่อลดความแออัดควรใช้เวลา 15-30 นาที
-ไม่มีอาหารเจเลี้ยงเหมือนเช่นทุกปี
-ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปร่วมในพิธีในช่วงเทศกาลกินเจ (ยกเว้นเจ้าภาพ) ไม่ว่าพิธีสวดมนต์พิธีสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา,พิธีลอยกระทง ปล่อยนกและปลา