‘จิบน้ำชายามบ่าย’ ที่ ‘วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ’

หาที่แฮงค์เอาท์ “จิบน้ำชายามบ่าย” พูดคุยกับเพื่อนฝูงที่ไม่พบเจอกันนาน “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” เตรียมชุดน้ำชา เซ็ตใหม่ “บลอสซั่ม แอนด์ บลูม” พร้อมเสิร์ฟแล้วที่ “พีค็อก อัลเลย์” (Peacock Alley) รังสรรค์โดย “เชฟท็อดดี้” และ “เชฟแอนเดรีย”
“เชฟแอนเดรอา โนลิ” พูดถึงแรงบันดาลใจว่า เกิดจากสถานการณ์ “โควิด-19” ที่ส่งสัญญาบวกในยุโรปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เขาเองได้รับพลังบวกจากครอบครัวและเพื่อนๆในประเทศบ้านเกิดอิตาลี รวมทั้งหลายประเทศในยุโรปต่างกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ “ผมพูดกับทีมของผมว่า สถานการณ์ในประเทศไทยจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน อนาคตอันใกล้นี้ถูกอย่างจะกลับมาผ่อนคลายผู้คนจะมีรอยยิ้ม มีความสุขกับการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างปกติอีกครั้ง จากสิ่งที่ทุกคนได้เรียนรู้ร่วมกัน ในสถานการณ์โควิด การให้กำลังใจซึ่นและกัน ความเอาใจใส่ช่วยเหลือในสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทีมเราแข็งแกร่งมากขึ้น และพลังบวกเหล่านี้คือแรงบันดาลใจของ บอสซั่ม แอนบลูม ชุดน้ำชายามบ่ายที่หมายให้ผู้ที่ได้รับประทาน สัมผัสกับความสดใส มีกำลังใจ เหมาะกับการแบ่งปันช่วงเวลาดีๆให้กับเพื่อนและคนที่รู้ใจ”
อากาศช่วงนี้บางวันมีสายฝนโปรยปราย บางทีแสงอาทิตย์ก็สาดส่องลอดก้อนเมฆลงมา ทุกช่วงเวลามีความหมาย มีความสุขหากได้ดื่มกินกับคนที่เราถูกใจ เช่นวันนี้ “จิบน้ำชายามบ่าย” ที่ “พีค็อก อัลเลย์” (Peacock Alley) โรงแรม “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” เซ็ตน้ำชา “บลอสซั่ม แอนด์ บลูม” สำรับเครื่องคาว-หวาน พอดีคำ ถูกถ่ายทอดจากเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศสในระดับผู้เชี่ยวชาญ ฝีมือ “เชฟท็อดดี้” และ “เชฟแอนเดรีย”
ประกอบไปด้วยวัตถุดิบชั้นดี อาทิเช่น “เนื้อวากิวรมควัน” เสิร์ฟกับ “ขนมปังบริยอช” และ “ไข่ปลาคาเวียร์” (Smoked Wagyu Beef Tartar, Brioche, Horseradish, Caviar) แล้วยังมี โรลแซลมอนรมควันพร้อมไข่ปลาแซลมอน และขิงดอง (Smoked Salmon, Cheese Gel, Salmon Roe, Ginger Pickled, Bage) ตับห่าน แอปเปิลเขียวพันธุ์แกรนนีสมิธ และถั่วพิสตาชีโอ (Foie Gras, Granny Smith Compote, Apple Cider, Pistachio) มินิ ปาเตอ็องแตรีน (Mini Pâté En Croûte) พายสอดไส้เนื้อสัตว์ สไตล์ฝรั่งเศส สูตรพิเศษจากครอบครัว “เชฟท็อดดี้” เสิร์ฟพร้อมไข่ตุ๋นญี่ปุ่นเย็นราดโฟมดาชิ และเม็ดแปะก๊วย(Royal Project Egg Chawanmushi, Dashi Foam, Ginko Seed)
“เชฟแอนเดรีย” กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของขนมหวาน ในเซ็ต “จิบน้ำชายามบ่าย” ส่วนผสมสำคัญที่นำมาใช้ในขนมหวานชุดนี้ก็คือ “ผงชาและผลไม้” เป็นความหวานตามธรรมชาติของผลไม้ ผสมผสานกับ “ชา” ที่มีรสขมเล็กน้อย ทำให้ขนมแต่ละชิ้นมีรสชาติกลมกล่อม โดยทีมเชฟได้ออกแบบของหวานแต่ละชิ้นให้มีลกั ษณะเหมือนดอกไม้นานาชนิดที่มีสีสันสดใส อาทิเช่น ชู ลาเวนเดอร์ และลูกแพร (Lavender & Pear Choux) เค้กคาโมมายล์และแบล็คเบอร์รี่ (Chamomile & Blackberry Cake) ทาร์ตส้มและช็อกโกแลต (Orange Blossom Chocolate Tartelette) มูสดอกมะลิ เชอร์รี่ และเลมอน(Jasmine, Cherry and Lemon Flower Mousse)และอื่นๆอีกมากมาย
“หมูหวานชวนชิม” ได้ไป “จิบน้ำชายามบ่าย” กับเพื่อนรุ่นพี่สุดเลิฟ พูดคุยกันแบบออกรสชาติที่ห้องพักส่วนตัวมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม ทว่าเป็นชุดน้ำชาก่อนหน้านั้นซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีจำหน่ายจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 หรือจะไปนั่งจิบน้ำชาชิลชิลที่ ห้องอาหาร “พีค็อก อัลลีย์” (Peacock Alley) ท่ามกลางบรรยากาศสุดผ่อนคลายกับวิวสนามกอล์ฟสีเขียวจากราชกรีฑาสโมสร ก็ได้
หรือจะเลือกสัมผัสประสบการณ์ “จิบน้ำชายามบ่าย” อย่างเป็นส่วนตัวภายในห้องพัก เมื่อเข้าพัก ณ โรงแรม “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” วันนี้ – 31 ตุลาคมศกนี้ ทางโรงแรมฯ แนะนำ 2 Staycation Package รวมเครดิตสำหรับใช้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสปา ได้แก่ Unforgettable Escape ราคาเริ่มต้นที่ 9,500 บาทสุทธิ / คืน สำหรับห้องพักแบบ Deluxe City View รวมอาหารเช้า 2 ท่านที่ห้องอาหาร The Brasserie หรือแบบ in-room dining เครดิตมูลค่า 5,000 บาทสำหรับใช้บริการอาหารและเครื่องดื่ม (รวม in-room dining) และสปา หรือในราคา 15,500 บาทสุทธิ / คืน สำหรับห้องพักแบบ One-Bedroom Astoria Suite รวมอาหารเช้า 2 ท่านที่ห้องอาหาร The Brasserie หรือแบบ in-room dining เครดิตมูลค่า 5,000 บาท และสปา 60 นาที
“บลอสซั่ม แอนด์ บลูม” ชุดน้ำชายามบ่าย ฝีมือ “เชฟท็อดดี้” และ “เชฟแอนเดรีย” ที่ “พีค็อก อัลเลย์” (Peacock Alley) โรงแรม “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” ราคา 2,200 บาท++ (2,590 บาทสุทธิ) สอบถามโทร. 02 846 8888 หรือ bkkwa.fb@waldorfastoria.com หรือไลน์ @WaldorfAstoriaBKK