“โหรฟองสนาน” ไขปริศนาคำถามวีระ ธีรภัทรข้ามปี-หลังราหูค้นทรัพย์เมือง(2)

"โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายผ่านบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่399 โดยฟองสนาน จามจันทร์

ไขปริศนาคำถามวีระ ธีรภัทรข้ามปี-หลังราหูค้นทรัพย์เมือง(2)

รูปดวงเมืองรัตนโกสินทร์ลัคนาสถิตราศีเมษ

พระราหูจร(8) เดินอยู่ในราศีพฤษภระหว่าง 10 กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 เกิดปรากฎการณ์-ราหูค้นทรัพย์+จันทร์ล่าราหู

พระราหูจร(8) ย้ายเข้าไปเดินในราศีเมษระหว่าง 29 มีนาคม 2565-18 ตุลาคม 2566

ต่อไปนี้ผู้เขียนจะได้ขยายผลที่ตอบคำถามของคุณวีระ ธีรภัทรตั้งแต่ปลายปี 2563 ว่า หลังปรากฎการณ์ราหูค้นทรัพย์(+จันทร์ล่าราหู) รอบนี้ผ่านไปแล้วลางดี-ร้ายทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

เพื่อฟื้นความจำ ขอย้อนความหลังว่าประมาณปลายปี 2562 เมื่อผู้เขียนไปออกรายการฟังหูไว้หูของคุณวีระ ธีรภัทร ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท.เมื่อประมาณต้นปี 2563 ที่ถูกถามว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะดีหรือไม่?

คำตอบในวันนั้นคือเมืองรัตนโกสินทร์ต้องผ่านปรากฎการณ์ราหูค้นทรัพย์รอบ 10 กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 ไปก่อนจึงจะเห็นลางดี

แล้วเรื่องร้ายก็เกิดเริ่มจากประมาณมกราคม 2563ประเทศต้องรับมือ โควิด19ก็เข้าประเทศ รวมถึงระยะราหูจรเริ่มค้นทรัพย์ดวงเมืองที่เริ่มมาเมื่อ10กันยายน 2563จนถึงทุกวันนี้ ที่ทางโหรถือว่าเป็นดวงชะตาแตก-ช้ำ-รั่วหรือพินทุบาทว์ประเภทหนึ่ง มีผลให้ทุกข์ๆยากๆทางเศรษฐกิจหนักหนาสาหัส

โดยรอบนี้คือรัฐบาลต้องกู้เงินมารับมือการระบาดของโควิด-19 จำนวนล้านล้านบาทนำมาก่อน+ระยะที่ราหูค้นทรัพย์ต้องกู้อีก 5 แสนล้านบาท+ขยายเพดานหนี้สาธารณะของประเทศจากเดิมร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของรายได้ประชาชาติ+ทุกข์หนักของประเทศชนหนี้ครัวเรือนกระฉูดสูงมากฯลฯ

มาวันนี้จะได้ขยายผลที่ตอบคำถามของคุณวีระ ธีรภัทรว่า หลังปรากฎการณ์ราหูค้นทรัพย์(+จันทร์ล่าราหู) รอบนี้หยุดลงคือจะเริ่มตั้งแต่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไปแล้วลางดี-ร้ายทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คำตอบคือ

1.ในบรรดาเรื่องดี-ร้ายที่เกิดในเมืองได้ตลอดเวลานั้น อย่างน้อยหลังวันที่ 29มีนาคม 2565เป็นต้นไป หยุดเกณฑ์ราหูค้นทรัพย์เมืองจนกระเป๋าฉีก (จะกลับมาอีกครั้งก็อีก18 ปีข้างหน้า)

2.เมื่อหยุดเกณฑ์ร้ายไปหนึ่งเกณฑ์เมืองจะรอจังหวะให้เกณฑ์ดีทางเศรษฐกิจทำงานบ้างเช่น

3.ตั้งแต่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไปเข้าสู่ปรากฎการณ์ทางโหรจากราหูจรใหม่คือพระราหูจร(8) ที่เดินตามเข็มนาฬิกาจะเริ่มทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง(๑)ที่สถิตที่ราศีเมษเป็นเวลา 18 เดือนไปจนถึง 18 ตุลาคม 2566

ปรากฎการณ์นี้จริงอยู่จะเริ่มนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมือง เพียงแต่จะเป็นช่วงไหนเท่านั้น(รอฟังรายละเอียด)

แต่ส่วนทางเศรษฐกิจนั้นไม่ว่าจะเป็นตัวร้ายขนาดไหน พระราหูก็มาจากภพที่สิบเอ็ด-ลาภะอันหมายถึงโชคลาภ-ความสำเร็จโดยรวม-มิตรสหาย-รายได้พิเศษของเมือง (ราศีภุมภ์ที่เห็นดินแดนภพที่สิบเอ็ดของเมือง-พระราหูเป็นเจ้าบ้าน)

ฉะนั้นหลังจากเมืองได้ผ่านการค้นทรัพย์แสนสาหัสแล้ว อย่างน้อยโชคลาภ-ความสำเร็จโดยรวมก็จะเข้ามาในเมือง จึงคาดว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศจะกลับมาเต็มเมือง เพื่อนๆของเมืองกลับมา

มีการเก็งกำไรสนั่นหวั่นไหวทั้งตลาดหุ้น และอื่นๆเช่นธุรกิจเกี่ยวไฟฟ้า เช่น รถไฟฟ้า-ทองคำ-ค่าเงิน-ยา-ขนส่งทางอากาศฯลฯ ( พระราหูจรค8คือเจ้าของความเสี่ยงทับพระอาทิตย์ดวงเดิม๑-ตัวแทนจิตใจและภพที่ห้าดวง-ปุตตะของเมือง)

4.กล่าวโดยสรุป แม้ในอดีตหลังปรากฎการณ์ราหูค้นทรัพย์เมืองเคยสร้างปรากฎการณ์ร้ายก็เคยมี เพียงแต่รอบนี้ผู้เขียนให้น้ำหนักดีมากกว่าร้าย คล้ายๆประวัติประวัติศาสตร์ทางโหรซ้ำรอยเดิมที่ผู้เขียนเคยผ่านมาแล้วสมัยเป็นนักข่าวเปรียบเทียบกับช่วงเวลานี้คือ

4.1ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2527 ขณะที่ราหูกำลังค้นทรัพย์เมืองอยู่รัฐบาลและพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยคุณสมหมาย ฮุนตระกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ต้องทำคือลดค่าเงินบาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านก่นด่าของผู้นำเข้าและผู้มีหนี้ต่างประเทศ จนพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ผบ.ทบ.ขณะนั้นมีปฏิกิริยาในคืนลอยกระทงบอกให้รัฐบาลกลับค่าเงินบาทไปที่เดิม

ขณะที่ราหูค้นทรัพย์รอบนี้ (องศาราหูใกล้เคียงกับคราวลอยตัวค่าเงิน) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลา 20.30 น.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปรากฏตัวทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยประกาศหลังจากปิดประเทศเพราะโควิด-19 มานาน ขอโอกาสทำมาหากินให้กับประชาชนโดยการจะแย้มประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่กักตัว จะทดลองสิบประเทศก่อนเริ่ม 1 พฤศจิกายน 2564

หลังจากประกาศไปคนที่ไม่เห็นด้วยต่างพากันส่งเสียงคัดค้านเกรงโควิด-19 ที่ยังทรงตัวระดับสูงทั้งติดเชื้อ และตายจะกลับมาเป็นซ้ำอีก

4.2 การขู่คืนลอยกระทง ก็เกิดสิ่งช็อคประเทศคือปรากฎภาพพลเอกเปรม จากบ้านพักสี่เสาเทเวศน์อยู่ท่ามกลางนายทหารจปร.7 คนสำคัญที่คุมกำลังอยู่ขณะนั้นแสดงจุดยืนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีโดยพลเอกเปรมอยู่ตรงกลาง

จากนั้นไม่นานก็มีการปลดพลเอกอาทิตย์ กำลังเอกจากผบ.ทบ.

ตัดกลับมาที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 หลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏตัวพร้อมคุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคู่ใจ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและตัวแทนสถาบันเอกชนที่สำคัญยืนเรียงหน้ากระดาน โดยพลเอกประยุทธ์อยู่ตรงกลางย้ำพร้อมแย้มประเทศ (ตามภาพที่สอง-ขอบพระคุณเจ้าของภาพ-ต้องขออภัยไม่สามารถหาภาพป๋าเปรมกับจปร.7ได้)

และต่อมาจากสิบกลายเป็นสี่สิบหกประเทศที่จะเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

4.3 ส่วนผลทางด้านเศรษฐกิจหลังราหูค้นทรัพย์คราวลดค่าเงินบาทนั้น คุณซูม ไทยรัฐเคยเขียนไว้ว่า-เพียงปีเดียวหลังเหตุการณ์คืนลอยกระทงปี 2527-(พอเริ่ม) ปี 2528 สัญญาณทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆคนไทยท่องเที่ยวกันเอง+ส่งออกเพิ่มมากขึ้น+นักท่องเที่ยวต่างประเทศก็เข้ามา

ผลคือลอยกระทงปี 2528 กลายเป็นปีที่สนุกปีหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตามมาด้วย---แม้จะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปแล้ว--เศรษฐกิจสดใสอยู่หลายปี จนไทยเกือบได้เป็นเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย แต่สะดุดขาตัวเองจากวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งก่อน

จึงเมื่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ทำสิ่งที่ต้องทำไปแล้วคือเริ่มแย้มประเทศเพื่อทำมาหากิน ก็พอจะคาดหมายได้ว่าเมื่อหลัง 29 มีนาคม 2565 ราหูจรหยุดค้นทรัพย์ดวงเมืองแล้วเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น

4.4 หรือไม่อีกหนึ่งเกณฑ์ดีจะเริ่มแทรกเข้ามาในระยะอันใกล้คือแม้จะทุกข์ยากๆเพราะโควิด19และราหูจร(8) ยังค้นทรัพย์เมืองอยู่

เมืองอาจจะไม่ต้องรอถึงปีหน้าก็จะได้เริ่มเห็นแววดีตั้งแต่ปลายปีนี้ คือ

ประมาณ 9 พฤศจิกายน 2564 ไปถึง 8 เมษายน 2565 เพราะเมืองมีเกณฑ์ดีอื่นแทรกเข้ามา คาดว่าจะได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้น ตลาดหุ้นทำสถิติใหม่ด้านใดด้านหนึ่งฯลฯ (เกณฑ์เมืองได้สิงหเกณฑ์)โปรดรอดู

สุดท้ายขอฝากไว้ก่อนจบว่าประมาณวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ก่อนหรือหลังเล็กน้อยอาจจะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดกับพระหรือนักบวชหรือครูอาจารย์หรือนักกฎหมายทั้งหลายหรือผู้พิพากษาหรืออัยการคนสำคัญให้เป็นข่าวใหญ่ตามโฉลกที่ว่า….พฤหัสบดีมนฑ์(หรือลอยนิ่ง)แพ้สมณะพราหมณา…

เกณฑ์นี้ในอดีตพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปเคยถูกถอดจากสมณะศักดิ์มาแล้ว

ฟองสนาน จามรจันทร์

22ตุลาคม2564