"ร่วมจิตรปูดอง" ร้านข้าวต้มเก่าแก่ แห่ง"ทุ่งบางกะปิ"
หากเอ่ยชื่อ “ร่วมจิตรปูดอง” นักชิมทั้งหลายต่างคุ้นเคยกันดี บ้างก็บอกว่าเคยกินตั้งแต่ยังเด็ก บ้างก็ถามว่า ร้านนี้ยังอยู่อีกเหรอ “หมูหวานชวนชิม” จะพาไปรู้จักตำนาน “ร้านข้าวต้มเก่าแก่” แห่ง “ทุ่งบางกะปิ” เขาเปิดขายตั้งแต่แถวนั้นมีแต่สวนผักและท้องทุ่ง
ลูกค้าร้านร่วมจิตรปูดอง ต่างรู้ดีว่า มาที่ “ร้านข้าวต้มเก่าแก่” แห่ง “ทุ่งบางกะปิ” แล้วต้องสั่งเมนูอะไรบ้าง “หมูหวานชวนชิม” แอบได้ยินโต๊ะข้างๆ พาคนมาชิมแล้วได้ยินเสียงเล็ดลอดมาว่า
“ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง พาใครมาก็ติดใจทุกคน” จากนั้นเขาก็พูดว่า ต้องสั่ง “ซี่โครงหมูอบซอสญี่ปุ่น” “หอยจ๊อเนื้อปู” “ออส่วน” “ปูดอง” และ “ข้าวผัดปู” แน่นอนว่าใครมาร้านนี้จะต้องสั่งตามนั้น และที่พลาดไม่ได้ก็คือ “ปูดอง” นั่นเอง
ตอนนี้คุณแม่อายุ 86 ปีแล้ว ส่วนคุณพ่อเพิ่งจากไปได้ 4 ปี หากมีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็คงอายุ 94 ปี ความอร่อยของร้านนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เพราะลูกๆ ช่วยงานในครัวมาตลอด อีกอย่าง “แม่ครัว” ประจำร้านที่เคยช่วยงานตั้งแต่ยุคคุณพ่อ ตอนนี้อายุ 66 ปีแล้ว ยังคงทำงานอยู่ทุกวันสุขภาพแข็งแรงดี
คุณบีเวอร์ “ไชยา จักรไชโยค” หนึ่งในเจ้าของร้าน “ร่วมจิตรปูดอง” ตำนานแห่ง “ร้านข้าวต้มเก่าแก่” ณ “ทุ่งบางกะปิ” เล่าให้ “หมูหวานชวนชิม” ฟังว่า ร้านนี้ขายมานาน 45 ปี
“เดิมเรายังไม่ได้ขายข้าวต้มทันทีนะ เริ่มต้นจากขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวก่อน ขายได้ 2 ปี ก็รู้สึกว่าแถวนี้ไม่มีร้านค้าเลย เส้นลาดพร้าวระยะทาง 10 กิโลเมตร มีแต่ร้านที่ขายอาหารกลางวันเล็กๆ เช่นร้านข้าวมันไก่ แล้วเราก็ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว กลางคืนไม่มีร้านข้าวต้ม”
เจ้าของร้านวัย 55 ปีเล่าว่า แถวๆนี้เมื่อเกือบ 50 ปีก่อนเป็นไร่นาและสวนผัก ยังไม่มีห้างร้านใดๆในบริเวณนี้ คุณพ่อของเขาประสบความล้มเหลวทางธุรกิจ เผอิญมีที่ดินสวนผักแปลงนี้เป็นสมบัติ ก็เลยมาปักหลักขาย “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”
แถบนี้มีเพียงหมู่บ้านเดียวก็คือ “ศานตินิเวศน์” เป็นที่รู้จักกันในนาม “หมู่บ้านดารา” เพราะดาราอยู่หมู่บ้านนี้เยอะ เช่น เมตตา รุ่ง, รัตน์ นิรุตติ์ ศิริจรรยา,ลลนา สุลาวัลย์, นันทิดา แก้วบัวสาย, คุณพ่อของหนุ่ม-อรรถพร ธีมากร ฯลฯ
“ลูกค้าที่อยู่ในหมู่บ้านก็บอกว่ากลางคืนแถวนี้หาของกินลำบาก สมัยก่อนแถวนี้มีแต่ทุ่งหญ้า สวนผัก ร้านก๋วยเตี๋ยวเราก็ทำกันเอง มีลูกน้องแค่ล้างจาน พอมาเป็นร้านข้าวต้มใช้ชื่อว่า ร่วมจิตร เป็นชื่อซอยนี้ แต่ยังไม่มีคำว่า ปูดอง มีเรื่องบังเอิญอีกนะ แม่ผมนับถือหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี
ไปปรึกษาขอชื่อร้านจากท่านได้มา 3 ชื่อ ก็เลยเลือกชื่อ ร่วมจิตร ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าเป็นชื่อซอย เพราะสมัยก่อนเขาไม่ได้เขียนชื่อไว้ แต่คนแถวนี้รู้กันเองว่าซอยร่วมจิตร ส่วน ปูดอง เป็นอาหารที่ทุกโต๊ะมาต้องสั่ง จนเป็นคำติดปากว่าไปกินร้าน ร่วมจิตรปูดอง”
กุ้งชีแฮ้แช่น้ำปลา
“ปูม้าต้องสด สะอาด วัตถุดิบต้องมีที่มาแหล่งเดิมไม่เปลี่ยน เช่นพริกขี้หนูสวนจากภาคใต้ จะมีรสเผ็ดหอม มะนาว ต้องมะนาวแป้น จากบ้านแพ้ว ราชบุรี ปูม้าต้องมาจากอวนลอย กู้ขึ้นมาวันต่อวันเท่านั้น เราไม่รับจากเรือประมงใหญ่ที่ต้องออกทะเลไปหลายๆวัน
"หอยจ๊อ" ไม่มีแห้ว มีแต่เนื้อปูล้วนๆ น้ำจิ้มบ๊วยทำเองอร่อยหอมเข้มข้นมากๆ
ปูจะถูกแช่ไว้เนื้อจะไม่อร่อย เนื้อปู ที่เราเอามาทำ หอยจ๊อ ก็เหมือนกันจะต้องเป็นเนื้อปูแกะ ที่มาจากอวนลอย รับวัตถุดิบจากร้านประจำที่ค้าขายกันมาตั้งแต่แรกๆไม่เคยเปลี่ยน แม่ครัวตอนนี้ก็อายุ 66 ปีแล้ว คนเตรียมของ ผู้ช่วยแม่ครัวก็อยู่กับเรามาตั้งแต่เขาเด็กๆจนตอนนี้ อายุ 50 ปีแล้ว จะรู้เรื่องวัตถุดิบเรื่องสูตรทุกอย่าง”
"จับฉ่าย" น้ำขลุกขลิก พิเศษที่มี "ผักชุนฉ่าย"
จับฉ่าย เป็นของคู่กันกับ “ร้านข้าวต้ม” สำหรับ “ร่วมจิตรปูดอง” สูตรร้านนี้จะมีน้ำขลุกขลิก และใช้ผักชุนฉ่าย เป็นผักกาดเขียวชนิดหนึ่ง หรือผักขมจีนที่คล้ายผักกวางตุ้ง แต่ใบและต้นจะใหญ่กว่า มีรสขมเล็กน้อย อุดมด้วยวิตามินเอ และวิตามินซี ช่วยบำรุงสายตา และผิวพรรณ มีกากใยสูงดีต่อระบบขับถ่าย
“สูตรเราต้องมีผักชุนฉ่ายเป็นหลัก เราจะเลือกผักชุนฉ่ายต้นที่ก้านยาวๆ ก้านใหญ่และแก่หน่อย ยิ่งอร่อย ผสมกับกะหล่ำปลี หัวไชเท้า ใช้เวลาเคี่ยวตั้งแต่เช้ายันเย็น
ออส่วน เป็นอีกเมนูที่ทุกโต๊ะจะสั่งกัน ความพิเศษคือ หอยนางรม ต้องสด สั่งมาจากเจ้าที่ขายปูให้เรา ตั้งแต่ค้าขายมาไม่เคยเปลี่ยนเจ้า ฤดูไหนไม่มีปูเราก็จะไม่ขาย เพราะปูเขามีฤดูวางไข่ ฤดูมรสุมหาไม่ได้ หรือขนาดไม่ได้เราก็ไม่ขาย ปลาเต๋าเต้ย ใครอยากกินต้องสั่งล่วงหน้าซัก 2 วัน เต๋าเต้ยนึ่งเกี่ยมบ๊วย อร่อยมาก”
ซี่โครงหมูอบซอสญี่ปุ่น เป็นอีกเมนูที่คนสั่งเยอะ มีส่วนผสมของเต้าเจี้ยวบดญี่ปุ่น มีความหอมๆ รสเค็มๆ หวานๆ เคล็ดลับความอร่อยก็คือต้องใจเย็นๆ ใช้เวลาค่อยๆต้มเคี้ยวตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ หากใช้ไฟแรงเกินไปเนื้อหมูจะแข็งกระด้างไม่นุ่มนวลเคี้ยวง่ายแทบละลายในปากแบบนี้ เริ่มจากการต้ม เคี้ยว แล้วนำขึ้นมาพัก พอใกล้เวลาขายก็จะนำไปนึ่ง หรือตุ๋นจนเปื่อย
"กระเพาะปลาผัดแห้ง" หอมกรุ่นกลิ่นกุยช่ายขาว
“หมูหวานชวนชิม” ขอบ กระเพาะปลาผัดแห้งนอกจากราคาไม่แพง แค่ 180 บาทแล้วยังอร่อยไม่เหมือนใคร เพราะทั่วไปแล้วเมนูนี้เขาจะผัดกระเพาะปลากับถั่วงอก ทว่า “ร้านร่วมจิตรปูดอง” เขาผัดกับกุยช่ายขาว เหยาะกับจิ๊กโฉ่ว หรือซอสพริกก็หอมอร่อยเข้ากั๊นเข้ากัน
“ถามผมว่าเคล็ดลับความอร่อยอยู่ตรงไหน ผมว่านอกจากวัตถุดิบดี สด แล้วเครื่องปรุงก็สำคัญ ซีอิ๊ว น้ำปลา น้ำพริกเผา น้ำมันหอย แต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน แม้แต่น้ำปลาทิพย์รสยังมีสองแบบ ฝาสีชมพู กับฝาสีขาว ต้องใช้ฝาสีขาว เค็มเหมือนกันจริงแต่ต้องมีความหอม ความคาวของตัวน้ำปลา
"ก้านคะน้าฮ่องกงผัดหมูกรอบ"
ซึ่งเราใช้แบบนี้มาตั้งแต่เริ่มขายไม่เคยเปลี่ยนยี่ห้อเลย แม้กระทั่งซี่โครงหมูยังซื้อเจ้าประจำ เหมือนเราตัดผม เจอช่างที่ถูกใจ เราก็จะไม่เปลี่ยนไปตัดร้านอื่น ร้านนี้ผมพี่ชาย พี่สาวช่วยกัน พี่น้องผม 7 คนทำอาหารได้ 6 คนอีกคนทำไม่ได้เพราะไปอยู่บนสวรรค์แล้วครับ”
คนมีชื่อเสียงที่เคยมารับประทาน “ร้านร่วมจิตรปูดอง” อย่างเช่น ปู แบล็คเฮด, เมย์ พิชญ์นาฎ, ตู่-นันทิดา, ดีเจแมน “โส ธนวิสุทธิ์” ทุกครั้งต้องสั่งปูดองคนละ 1 ชุด มา 5 คนสั่ง 5 ชุดเป็นต้น และทุกครั้งต้องสั่งกลับบ้านทั้งปูดอง และจับฉ่าย
"ต้มยำรวมมิตรทะเล" มีเนื้อปลาเก๋า กุ้ง และปลาหมึก และเห็ดหอมสด
“คนที่เปิดร้านอาหารต้องมีความอดทน และอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องคิดบริหารไปด้วยเช่นวันนี้มีปลามา ทำยังไงจะขายปลาให้หมด ไม่ให้เหลือค้าง ต้องขายให้ได้”
คุณบีเวอร์ “ไชยา จักรไชโยค” หนึ่งในเจ้าของร้าน “ร่วมจิตรปูดอง” ตำนานแห่ง “ร้านข้าวต้มเก่าแก่” ณ “ทุ่งบางกะปิ” กล่าวปิดท้าย
ภาพโดย : วันชัย ไกรศรขจิต
ร้านร่วมจิตรปูดอง เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00-22.00 น. มีที่จอดรถรองรับลูกค้าในซอย 117 เข้าไป 5 เมตร อยู่ด้านขวามือ
ประเภทอาหาร: ร้านข้าวต้ม
เมนูเด็ด : ปูดอง, หอยจ๊อปู, จับฉ่าย, ออส่วน, ซี่โครงหมูอบซอสญี่ปุ่น
ราคา : 80-350 บาท
ที่อยู่ : 3103 ซอยลาดพร้าว 117 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 โทร.02 375 8820
