"แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต" ประวัติชีวิต และธรรมะ
"แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต"กลับคืนสู่ธรรมชาติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 64 จากมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย โดยห้วงสุดท้ายดูแลแบบประคับประคอง และภาวนาตามแนวทางพุทธทุกลมหายใจเข้าออก
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน คืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18.23 น. อายุ 68 ปี โดยบวชมานานกว่า 41 พรรษา
ชีวิตแม่ชีศันสนีย์
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 31ตุลาคม พ.ศ. 2496 มีพี่สาวร่วมบิดามารดา 1 คน คือ สายสัมพันธ์ ปัญญศิริ หรือหลายคนเรียกว่าป้าตุ๋ม เป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือดูแลเสถียรธรรมสถานอยู่เนื่องๆ
ในวัย 15 ปี ท่านต้องเผชิญความสูญเสียมารดาอันเป็นที่รัก และชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
และถูกชักชวนให้เข้าประกวด 10 ยอดนางแบบระพี โรงเรียนสอนตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น และได้รับรางวัล ก่อนจะก้าวขึ้นอีกระดับในการประกวดและได้รับตำแหน่ง ‘รองมิสออด๊าซ’ กับรางวัล ‘นางงามบุคลิกภาพ’
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ท่านได้ตัดสินใจยุติบทบาททางโลก เข้าสู่เส้นทางธรรม เป็นพุทธสาวิกาที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต โดยมี พระครูภาวนาพิธาน ( เส็ง ยสินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตเป็นพระอุปัชฌาย์
ชีวิตทางธรรมแม่ชีศันสนีย์
งานแรกในบทบาทพุทธสาวิกา ท่านได้รับมอบหมายจากพระครูภาวนาพิธาน ( เส็ง ยสินฺธโร) ให้รับผิดชอบดูแลศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งเป็นศูนย์ที่หลวงพ่อตั้งขึ้น (ปัจจุบันคือศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต)
และหลังจาก 7 ปี ของการบวชเรียน ศึกษา และปฏิบัติธรรม จนได้พบว่าธรรมะของพระพุทธองค์สามารถแก้ปัญหาความทุกข์ในชีวิตได้จริง ผนวกกับความกตัญญูซึ่งท่านมีต่อ พระครูภาวนาพิธาน พระอุปัชฌาย์ที่ชี้แนะไว้ก่อนล่วงลับว่า “ถ้ามีปัญญา สมบัติก็ไม่เป็นทุกข์”
เสถียรธรรมสถานจึงถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 จากงานเด็กในความรับผิดชอบจึงขยายสู่งานผู้หญิงด้วย โดยมุ่งเน้นในเรื่องการสร้างชีวิตให้แก่เด็กและผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิต
ตามด้วยงานในโครงการต่างๆ ที่นับได้ว่าเป็นได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น ท่านพูดเสมอว่า คำสอนของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ คือการทำงานของเสถียรธรรมสถาน
แม่ชีศันสนีย์ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน
เสถียรธรรมสถาน เป็นชื่อที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภะ) ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อภาวนาพิธานเป็นผู้ตั้งให้ ความหมายคือ ‘สถานที่ที่มีธรรมอันยั่งยืน’
เสถียรธรรมสถานมุ่งเน้นใช้หลักพุทธนำสังคม ผลักดันให้ผู้หญิงได้รับการพัฒนาสติปัญญาที่มีความรู้ทางธรรมเป็นรากฐาน รวมทั้งสามารถใช้ศักยภาพของตนเองในการช่วยเหลือผู้อื่น
ปี พ.ศ. 2534 แม่ชีศันสนีย์ได้เริ่มต้นงาน ‘บ้านสายสัมพันธ์’ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและสตรีที่เคยถูกทารุณกรรมทางเพศและตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ ยืนหยัดด้วยพลังใจและพลังความเป็นแม่ของตัวเอง
จากประสบการณ์การทำงานที่ต่อเนื่องยาวนานในงานปลายเหตุ ปี พ.ศ. 2547 ท่านได้เริ่มทำงานต้นเหตุ คือ โครงการจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ เพื่อส่งเสริมให้พ่อและแม่ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามหลักธรรมะเป็นแนวทางในการครองชีวิตครอบครัว และให้กำเนิดลูกที่มีจิตประภัสสร
ปี พ.ศ. 2549 ท่านเดินทางไปยังเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ท่านได้รับมอบ ‘พระอารยตารามหาโพธิสัตว์’ อายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวพุทธวัชรยานให้ความนับถือ จาก ดร. ฮง เชม อดีตผู้อำนวยการกองบำรุงกำลัง องค์การสหประชาชาติ
บุคคลผู้ที่แม้เพิ่งพบท่านแม่ชีเป็นครั้งแรก แต่ซาบซึ้งกับการทำงานของท่านแม่ชีในฐานะนักบวชหญิงที่เปิดเสถียรธรรมสถานให้เป็นบ้านที่ช่วยเหลือผู้หญิงซึ่งถูกกระทำความรุนแรง นาทีนั้น ดร. ฮงได้กล่าวคำที่มีความหมายมากว่า “ตารา...กลับบ้าน”
สังคมเกื้อกูลที่เสถียรธรรมสถาน
ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้น คุณธรรมของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ก็กลายมาเป็นพลังใจในการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของท่านแม่ชีศันสนีย์และชาวชุมชนเสถียรธรรมสถาน
ปี พ.ศ. 2556 ท่านได้สร้างถ้ำพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ห้องภาวนาที่เหมือนอยู่ในท้องของแม่
ปี พ.ศ. 2558 สร้างพระมหาเจดีย์พระอารยตารามหาโพธิสัตว์หมื่นพระองค์ รองรับการประดิษฐานของพระศรีอาริยเมตไตรย รายล้อมด้วยพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ผู้อธิษฐานจิตที่จะเป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
ปี พ.ศ. 2551 ท่านได้ก่อตั้ง สาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อเยียวยาสังคมกระบวนการศึกษาเรียนรู้เพื่อการบรรลุธรรมในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท
ปี 2560 ก่อตั้ง ‘Mindfulness Hospital’ (ธรรมาศรม) ที่มีนวัตกรรมแห่งการฉุดช่วยให้คนทุกช่วงวัยอยู่อย่างมีความหมาย...ตายอย่างมีคุณค่า
โดยพัฒนาพื้นที่2.5 ไร่ด้านในของเสถียรธรรมสถานเป็น ‘อาคารธรรมาศรม’ เพื่อเป็นอาศรมของผู้ปฏิบัติธรรมระยะยาว รองรับชีวิตทุกขั้นตอนตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อตระหนักถึงการสร้างชุมชนแห่งธรรมที่เกื้อกูลกันได้แม้อยู่ในสังคมเมือง
ปี พ.ศ. 2562 กับ 39 พรรษาบนมรรคาแห่งธรรม ท่านแม่ชีศันสนีย์ได้ตั้งคำถามขึ้นว่า“ถ้าไม่มี แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต เสถียรธรรมสถานจะอยู่ได้อย่างไร”
เหล่าลูกศิษย์ลูกหาที่เคยได้รับโอกาส ได้รับความช่วยเหลือจากท่านแม่ชีศันสนีย์จึงร่วมกันค้นหาคำตอบ และตอบออกมาดังๆ ว่า
“คุณธรรมของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์คือสิ่งที่มีอยู่ในตัวคุณแม่ ฉะนั้น แม้ในวันที่ไม่มีคุณแม่ แต่ถ้าคุณธรรมของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ยังอยู่ แสดงว่าคุณแม่ยังคงอยู่”
จึงมีการร่วมกันสร้าง พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง 12 เมตร สูง 21 เมตร ณ เสถียรธรรมสถาน เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า
และพัฒนาพื้นที่ร้อนแล้ง เป็นพื้นที่สีเขียว หุบเขาโพธิสัตว์ ณ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อ ‘ปลูกป่า ปลูกชีวิต ปลูกหัวใจโพธิสัตว์’