“ปิซซินี” ไวน์ครอบครัวหมัดหนักจาก “แคว้นทัสคานี”
“ปิซซินี” เป็นหนึ่งในผู้ผลิต "ไวน์อิตาลี" อยู่ใน “แคว้นทัสคานี” ที่ยังทำไวน์ด้วยวิถีทางของครอบครัวที่ยึดมั่นกันมากว่า 135 ปี
ไวน์แคว้นทัสคานี (Tuscany) ในอิตาลี ปัจจุบันเหลือที่ยังบริหารด้วยครอบครัวเต็ม 100% ไม่มากแล้ว หลายเจ้าถ้าไม่ขายกิจการไปเลย ก็มีคนนอกตระกูลเข้ามาถือหุ้น ซึ่งก็เป็นไปตามยุคสมัย และสภาพของเศรษฐกิจ
“ปิซซินี” (Piccini) ตั้งอยู่ใจกลางคิอานติ หรือเคียนติ กลาสสิโก (Chianti Classico) ซึ่งเป็นพื้นที่ไข่แดงของการผลิตไวน์คิอานติ และยึดมั่นการผลิตไวน์ในสไตล์ Tuscan Traditions มาเป็นเวลาถึงทายาทรุ่นที่ 4
มาริโอ ปิซซินี
ปัจจุบันผลิต ไวน์อิตาลี หลากหลายรุ่นและหลายเกรด รวมทั้ง DOCG เช่น คิอานติ (Chianti), คิอานติ ซูเปริโอเร (Chianti Superiore), คิอานติ กลาสสิโก (Chianti Classico) และคิอานติ กลาสสิโก รีแซร์วา (Chianti Classico Riserva) ขณะเดียวกันก็ยังมี ไวน์ ซูเปอร์ทัสคัน (Super Tuscan) เช่น ซาสโซ อัล ปอกจิโอ แอนด์ รอสโซ (Sasso al Poggio and Rosso) และบรูเนลโล ดี มอนตัลชิโน (Brunello di Montalcino) นอกจากนั้นยังขยับขยายลงไปทำไวน์บนเกาะซิซิลี ใต้สุดของอิตาลีอีกด้วย เป็นต้น
ความเป็นมาของ Piccini เริ่มขึ้นเมื่อปี 1882 จากฝีมือของคุณทวดอันซิโอโล ปิชชินี (Andzhiolo Piccini) จากครอบครัวเล็ก ๆ ในพื้นที่เพียง 7 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) หลังจากทายาทรุ่นต่อไปก็รับเอาปรัชญาหรือแนวทางการทางไวน์มาจากซูเปอร์ทวด กระทั่งปัจจุบัน Piccini มีที่ดินในการปลูกองุ่นทำไวน์อยู่ถึง 4 แห่ง ที่สำคัญ Piccini ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ของ ไวน์แคว้นทัสคานี ที่รู้จักกันมากที่สุดในโลก และยังดำเนินกิจการโดยครอบครัว
มาริโอ ปิซซินี กับทายาท
ทายาทบริหาร Piccini คนปัจจุบันคือ มาริโอ ปิซซินี (Mario Piccini) ซึ่งกำลังถ่ายทอดวิชาให้กับทายาทรุ่นที่ 5-6 หนึ่งในนั้นคือ มิเกลแองเจโล ปิซซินี (Michelangelo Piccini) ทายาทรุ่นหลาน ผมเจอคุณมาริโอครั้งแรกในงาน Vinexpo Hong Kong ปี 2016 เป็นคนอามรณ์ดี และคุยสนุกสนาน และอีกครั้งล่าสุด Vinexpo Hong Kong 2018 หลังจากนั้นอีกประมาณเดือนเศษ ๆ เขาก็เดินทางมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก เพื่อแนะนำไวน์ของเขาในงาน ปิซซินี ไวน์ เทสติ้ง (Piccini Wine Tasting) หลังจากนั้นคาดว่าจะเจอกันอีกในงาน Vinexpo Hong Kong 2020 แต่ก็ไม่เจอ เพราะงานไม่ได้จัดจากพิษสงของโควิด
เจ้าของกับไวน์รุ่นที่ใช้ชื่อตัวเอง
ไวน์ Piccini ที่ผมได้ชิมครั้งล่าสุดประกอบด้วย
ปิซซินี โปรเซกโก ดีโอซี เอ็กซ์ตรา ดราย “เวเนเทียน เดรส” อีดิชชั่น ” (Piccini Prosecco DOC Extra Dry “Venetian Dress” Edition) : เป็นโปรเซกโก นอน วินเทจหรือเอ็นวี (Non Vintage / NV) ที่ผลิตจากองุ่นเกลรา (Glera) ล้วน ๆ
Piccini Prosecco DOC Extra Dry
ขวดออกแบบเป็นชุดแต่งกายของสาวชาวเวนิส ในยุคเรเนซองซ์ ของอิตาลี (Italian Renaissance) ผลิตแบบชาร์มาต์ (Charmat Method) ทำให้มีความสดชื่น และหอมกรุ่นด้วยกลิ่นดอกไม้สีขาว และผลไม้ เช่น พีช แพร์ พร้อมความสดชื่นของธรรมชาติ ดื่มง่าย ๆ สบาย ๆ แช่ให้เย็นประมาณ 8-9 องศา ดื่มแล้วสดชื่น……17.5/20 คะแนน
Mario Piccini
ปิซซินี ปีโนต์ กรีโจ เดลเล เวเนซิเอ ไอจีที 2018 (Piccini Pinot Grigio delle Venezie IGT 2018) : ไวน์ขาวจากปิโนต์ กรีโจ ที่อร่อยอีกตัวหนึ่งเมื่อเทียบราคาขวดต่อขวด ไวน์มาจาก “เวเนซีเอ” (Venezie) ภาคเหนือของอิตาลี ซึ่งมีพื้นที่ 3 แห่งเรียกว่า “เตร เวเนซีเอ (Tre Venezie) เพราะเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเวเนเทียน (Venetian Empire) เรียกสั้น ๆ ว่า “เวเนซีเอ” (Venezie) ประกอบด้วยเวเนโต (Veneto) ที่ผลิตปีโนต์ กรีโจ เป็นหลัก, อัลโต อาดีเจ (Alto Adige) และฟรียูลิ เวเนเซีย กูเลีย (Friuli-Venezia Giulia) ทั้งหมดล้วนผลิตไวน์ขาวเป็นหลัก
สีเหลืองทอง สดใส หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลเขียว พีช แพร์ ดอกไม้ เฮิร์บสด ๆ ผลไม้ เช่น อัลมอนด์สด ผักสด มิเนอรัล แอสิดสดชื่น บอดี้ปานกลาง จบด้วยผลไม้และเฮิร์บสด ๆ กำลังดื่มอร่อย และต้องแช่ให้เย็นเฉียบ ประมาณ 10-1 องศาเซลเซียส หนาวนี้เอาไปดื่มบนภูน่าจะดีมาก.....18/20 คะแนน
Piccini Collezione Oro Rosato Toscana IGT 2019
ปิซซินี คอลเลซิโอเน โอโร โรซาโต ทอสคานา ไอจีที 2019 (Piccini Collezione Oro Rosato Toscana IGT 2019) : เป็นโรเซ่ในซีรีส์ “Collezione Oro” หรือ“Gold Collection” ทำจาก 2 องุ่นแดงคือ ซานโจเวเซ (Sangiovese) 70% และแมร์โลต์ (Merlot) 20% และ 1 องุ่นเขียวคือมาลเวเซีย (Malvasia) 10%
สีกลีบกุหลาบชมพูสดใส หอมกลิ่นดอกไม้ ราสพ์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รี เรดเชอร์รี ซีทรัส กลีบกุหลาบ สัมผัสได้ถึงความฝาดคล้ายแทนนินนิด ๆ แอสิดสดชื่น จบด้วยดอกไม้ ผลไม้ และความสดชื่น กำลังดื่มอร่อย ควรแช่ให้เย็นประมาณ 10-11 องศาเซลเซียส เป็นโรเซ่ที่เหมาะกับการดื่มในบรรยากาศสบาย ๆ และอาหารเบา ๆ ประเภทสลัดที่น้ำสลัดไม่ครีมมี หรือยำไทยที่ไม่เผ็ดมาก....18.5/20 คะแนน
Piccini Collezione Oro Chianti Riserva DOCG 2016
ปิซซินี คอลเลซิโอเน โอโร เคียนติ รีแซร์วา ดีโอซีจี 2016 (Piccini Collezione Oro Chianti Riserva DOCG 2016) : ชื่อรุ่น “Collezione Oro” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Gold Collection” ฉลากข้างขวดจึงเป็นสีทอง ทำจากซานโจเวเซ 90% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 10% บ่ม 9 เดือนแบ่งเป็นในถังบาร์ริก 30% อีก 70 % บ่มในถังโอ๊คขนาดใหญ่ เป็นรุ่นที่รับรางวัลมาเยอะ
สีแดงทับทิม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี พลัม ราสพ์เบอร์รี ดอกไวโอเลต วานิลลา ขนมทาร์ตผลไม้ สไปซีเฮิร์บ พริกไทย ยี่หร่า ผงโกโก้ โอ๊คหอมกรุ่น แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่ม ๆ จบยาวด้วยผลไม้สุกฉ่ำ วานิลลา และสไปซี่....19/20 คะแนน
Piccini Collezione Oro Chianti Riserva DOCG 2017
ปิซซินี คอลเลซิโอเน โอโร เคียนติ รีแซร์วา ดีโอซีจี 2017 (Piccini Collezione Oro Chianti Riserva DOCG 2017) : วินเทจนี้ส่วนผสมเหมือนวินเทจ 2016 คือซานโจเวเซ 90% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 10% และบ่มเหมือนกัน
สีแดงเชอร์รี สดใสหอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น พลัม แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี เรดเคอร์แรนท์ ดอกไวโอเลต หนังสัตว์ มิเดียมบอดี้ เอิร์ธตี้ ผักสดเขียว ๆ สไปซีเฮิร์บแห้ง ๆ ไอโอดีน วานิลลา แอสิดสดชื่น แทนนินปานกลางและนุ่ม ๆ จบยาวด้วยผลไม้ เฮิร์บชุ่มคอ สามารถดื่มได้ในเวลานี้ได้เลย แต่ถ้าจะให้อร่อยอีก 2 ปีจะสุกกว่านี้......19/20 คะแนน
Piccini Sasso al Poggio Toscana IGT 2015
ปิซซีนี ซัสโซ อัล ป๊อกโจ ทอสคานา ไอจีที 2015 (Piccini Sasso al Poggio Toscana IGT 2015) : ตัวนี้เป็นไวน์ ซูเปอร์ทัสคัน ชื่อ “Sasso al Poggio” หมายถึง “Stone on the Hill” เนื่องจากไร่องุ่นมีส่วนผสมของหินค่อนข้างมาก ทำจากองุ่นซานโจเวเซ 60% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 20% และแมร์โลต์ 20%
สีแดงทับทิม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และพลัม มิเนอรัล เอิร์ธตี้ หินแกรนิต โอ๊คหอมกรุ่น ช็อกโกแลต สไปซี เฮิร์บ ชะเอมเทศ ยี่หร่า วานิลลา หนังสัตว์ ใบชาจีนแห้ง ๆ ควันไฟ ฟูลบอดี้ แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ เฮิร์บชุ่มคอ และมิเนอรัล สามารถดื่มได้ ณ เวลานี้ แต่ถ้าจะให้อร่อยจริง ๆ รออีกสัก 2-3 ปี ......19/20 คะแนน
ปิดท้ายด้วยไวน์ที่ Piccini ไปลงทุนบนเกาะซิซิลี อีกหนึ่งในเขตผลิตไวน์ที่สำคัญของอิตาลี และมีนักลงทุนจากเขตอื่นไปลงทุนมากขึ้น
Torre Mora Scalunera 2017
ตอร์เร มอรา สกาลูเนรา เอตนา รอสโซ ดีโอซี 2017 (Torre Mora Scalunera Etna Rosso DOC 2017) : ทำจากองู่นเนเรลโล มัสกาเลเซ (Nerello Mascalese) 95 % และเนเรลโล คัปปุชชิโอ (Nerello Cappuccio) 5 % จากไร่ในคอนตราดา ตอร์เร (Contrada Torre) ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 650-700 เมตร ดินมีส่วนผสมของหินลาวา เก็บองุ่นด้วยมือ บ่มในถังโอ๊ค 24 เดือน ในขวดอีก 4 เดือน
สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และพลัม กลิ่นอายของเถ้าลาวา มิเนอรัล สไปซี่ เฮิร์บกรุ่น ๆ จันทน์เทศ อบเชย กาแฟ แอสิดยังสดชื่น แทนนินหนักแน่นและนุ่มนวล จบยาวด้วยผลไม้สุกและเฮิร์บ กำลังเปล่งปลั่งพร้อมดื่ม.......19/20 คะแนน
Torre Mora Etna Rosso DOC 2017
ตอร์เร มอรา เอตนา รอสโซ ดีโอซี 2017 (Torre Mora Etna Rosso DOC 2017) : ตัวนี้ทำจากองุ่นเนเรลโล มัสกาเลเซ (Nerello Mascalese) 85 % และเนเรลโล คัปปุชชิโอ (Nerello Cappuccio) 15 % จากไร่ในคอนตราดา ตอร์เร (Contrada Torre) และโรวิเตลโล (Rovitello) ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 650 เมตร บ่มในถังโอ๊ค 12-18 เดือน และ 4 เดือนในขวด
สีแดงค่อนข้างเข้มและยังสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เรดเบอร์รี และพีช ดอกไวโอเลต ฝุ่นลาวากรุ่น ๆ มิเนอรัล สไปซี เฮิร์บ ยี่หร่า ใบไม้แช่น้ำ แอสิดปานกลาง แทนนินนุ่ม ๆ หวานปาก จบยาวด้วยผลไม้ เฮิร์บ และมิเนอรัล กำลังพร้อมดื่ม.....
เนเรลโล มัสกาเลเซ (Nerello Mascalese) เป็นองุ่นที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ ไวน์แดงเอตนา (Etna Rosso) สันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดที่เมืองกาตาเนีย (Catania) ห่างจากภูเขาไฟเอตนาประมาณ 30 กม. องุ่นพันธุ์นี้แอสิดและแทนนินคล้าย ๆ เนบบิโอโล (Nebbiolo) ขณะที่บอดี้คล้ายปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ส่วนองุ่น “เนเรลโล คัปปุชชิโอ” (Nerello Cappuccio) ที่เป็นเอกลักษณ์ของไวน์แดงเอตนา (Etna Rosso) เช่นกัน เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของไวน์แดงเบลนด์ Etna Rosso DOC
ดูแลองุ่นอย่างพิถีพิถัน
ทั้งหมดนั้นเป็นบางส่วนของไวน์ครอบครัว Piccini จริง ๆ ยังมีอีกหลายรุ่น สามารถสอบถามได้ที่ บริษัท Ambrose Wine & Spirit จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย โทร.0 2719 8206 – 8211