สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม (ว่าที่) หนังพันล้านดอลล์ เรื่องแรก-เรื่องเดียว ปี 64
กระแสฟีเวอร์ "สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม" ทั่วโลกมาแรงต่อเนื่อง หลังฉายในสหรัฐและบางประเทศเพียงไม่ถึงสัปดาห์ ส่อเป็นภาพยนตร์ "เรื่องแรกและเรื่องเดียว" ที่ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้
แม้สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกยังคงเป็นที่น่ากังวล แต่ไม่มีอะไรหยุดยั้งความแรงของ “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม” (Spiderman: No Way Home) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในจักรวาลมาร์เวล (Marvel Cinematic Universe) ได้ เพราะมีแนวโน้มสูงที่จะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยการเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและเรื่องเดียวในปี 2564 ที่โกยรายได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากการเข้าฉายทั่วโลกไม่ถึงสัปดาห์
เว็บไซต์ "บ็อกซ์ ออฟฟิศ" รายงานว่า นับถึงวันที่ 22 ธ.ค. สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม ทำรายได้รวมไปแล้วกว่า 751 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้ในสหรัฐ 328 ล้านดอลลาร์ และนอกสหรัฐ 422 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ เจ้าของตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้คือ “The Battle of Lake Changjin” ภาพยนตร์สัญชาติจีน ที่เข้าที่เข้าฉายเมื่อ พ.ย. ที่ผ่านมา โดยทำรายได้ทั่วโลกไป 904.9 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับสไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม เข้าฉายครั้งแรกในสหรัฐเมื่อวันศุกร์ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยทำรายได้เปิดตัวในวันศุกร์เพียงวันเดียวไปกว่า 121.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุด นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด ขณะที่รายได้รวมในสุดสัปดาห์แรกทำไปได้ 260 ล้านดอลลาร์ จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 4,336 แห่งทั่วสหรัฐ ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์เปิดตัวสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 เป็นรองเพียง “อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก” (Avengers: Endgame) ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 40,000 ล้านบาท และ “มหาสงครามล้างจักรวาล” (Avengers: Infinity War) ที่ทำรายได้ 640 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 21,000 ล้านบาท เท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นรายได้ที่สูงที่สุดบนบ็อกซ์ ออฟฟิซ (Box Office) สหรัฐ ประจำปีนี้อีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้ผู้ชมต่างพากันจองตั๋วล่วงหน้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างล้นหลาม เนื่องจากทุกคนต่างรอคอยบทสรุปไตรภาคสไปเดอร์แมน พร้อมทั้งยังมี “เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์” มาร่วมเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักในบท “ด็อกเตอร์สเตรนจ์” (Doctor Strange) และเป็นการเปิดระบบพหุจักรวาล หรือมัลติเวิร์ส (Multiverse) ครั้งแรกในจักรวาลมาร์เวล และ “สไปเดอร์-เวิร์ส” (Spider-Verse) ทำให้เหล่าวายร้ายจากสไปเดอร์แมนรุ่นก่อน ทั้ง “ด็อก ออร์ก” (Doc Ock) “แซนด์แมน” (Sandman) และ “อิเล็กโตร” (Electro) เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในจักรวาลของสไปเดอร์แมน ของ ทอม ฮอลแลนด์
แต่สิ่งที่กระตุ้นความอยากดูให้แก่ผู้ชมทั่วโลกคือ กระแสข่าวลือว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ "อาจจะ" มีการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนรุ่นก่อนอย่าง “โทบีย์ แม็กไกวร์” และ “แอนดรูว์ การ์ฟิลด์” แม้ว่าทั้งคู่จะปฏิเสธมาตลอดก็ตาม ผู้ชมจึงต่างรีบจองตั๋วตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการสปอยล์ และพิสูจน์ด้วยตาตัวเองว่าจะเป็นจริงตามข่าวลือหรือไม่ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกลับมาระบาดหนักก็ตาม
ในส่วนของภาคใหม่สไปเดอร์แมนหลังจากนี้นั้น ทางมาร์เวล และ โซนี่ ได้มีการพูดคุยกันเอาไว้แล้ว โดยทอม ฮอลแลนด์ยังจะรับบทสไปเดอร์แมนต่อไปในภาพยนตร์อีก 3 เรื่อง
นอกจากรายได้ที่สูงจนสร้างปรากฏการณ์แล้ว สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม ยังได้รับคำวิจารณ์ในแง่ดีเป็นอย่างมาก โดยได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์ถึง 94% และ คะแนนจากผู้ชมในเว็บไซต์ “ร็อตเทนโทเมโทส์” (Rotten Tomatoes) สูงถึง 99% ส่วนคะแนนผู้ชมจากเว็บไซต์ “ไอเอ็มดีบี” (IMDb) อยู่ที่ 9 คะแนน
สำหรับประเทศไทย สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม เข้าฉายแล้ววันนี้ (23 ธ.ค.) ในโรงภาพยนตร์
ที่มา:
https://comicbook.com/marvel/news/spider-man-no-way-home-spider-man-4-writers-address-return/
https://variety.com/2021/film/global/spider-man-no-way-home-uk-box-office-1235140797/
https://www.boxofficemojo.com/release/rl2869659137/
