เปิดผัง ‘ละครรีรัน’ ทีวีไทย มีอะไรให้ดู ช่วงหยุดปีใหม่
กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ช่วงเทศกาลหยุดยาว ที่แต่ละช่องต่างขนละครเก่าที่เรทติ้งดี มารีรันให้ชมกันอย่างจุใจอีกครั้ง มาดูกันว่าแต่ละช่องวางส่งละครอะไรมาโกยเรทติ้งกันบ้าง
เริ่มกันที่ “ช่อง 3” ในช่วงละครหลังข่าวได้ ส่ง “มนต์รักหนองผักกะแยง” ละครคอมเมดี ฟีลกู๊ด สำนึกรักบ้านเกิด ที่ได้ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาจับคู่กับ “โบว์ - เมลดา สุขศรี” มาออนแอร์อีกครั้ง ออกอากาศทุกวันศุกร์ ถึง วันอังคาร ส่วนวันพุธ-พฤหัสบดีนี้ ยังคงเป็นเวลาของ “เกมล่าทรชน” ละครบู๊ ดรามา นำแสดงโดย “หมาก - ปริญ สุภารัตน์” และ “แต้ว - ณฐพร เตมีรักษ์” ที่จะลาจอในสัปดาห์นี้ และหลังจากนั้นก็จะฉาย มนต์รักหนองผักกะแยง มาราธอนทุกวันไปจนจบ
สำหรับมนต์รักหนองผักกะแยง ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา และทำเรทติ้งเฉลี่ยที่ 3.90 เป็นเรทติ้งสูงสุดของละครหลังข่าวช่อง 3 ในปีนี้ จึงไม่แปลกใจที่ช่องจะเลือกเรื่องนี้มาออกอากาศอีกครั้ง
-เครดิตรูป: เพจเฟซบุ๊ค Ch3Thailand
ส่วนละครก่อนข่าว ตั้งแต่ 18.00 - 20.00 น. ยังคงเป็นละครพีเรียด โรแมนติก คอมเมดี้อย่าง “สะใภ้จ้าว” เวอร์ชัน “โป๊ป - ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” กับ “น้ำตาล - พิจักขณา วงศารัตนศิลป์” ที่ทำเรทติ้งได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกนำมาออกอากาศครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ครั้งแล้วก็ตาม (ออกอากาศครั้งแรก 2558, รีรันบ่าย 2559, รีรันค่ำ ช่อง 3 เอสดี 2561, รีรันช่วงสาย 11 โมง เสาร์-อาทิตย์ 2563) ซึ่งเรทติ้งในการออกอากาศครั้งนี้อยู่ที่ 3 - 4
จากนั้นวันที่ 30 ธ.ค. ซีรีส์ “เลือดมังกร” ตอน “เสือ” นำแสดงโดย “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ประกบคู่กับ “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” จะมาออกอากาศแทนสะใภ้จ้าว ที่ลาจอไปในวันที่ 29 ธ.ค.
ขณะที่ “ช่อง 7” ส่งละครบู๊แอคชัน “ทางเสือผ่าน” ที่ได้ “อ๊อฟ - ธนะพล สัตยา” และ “ฮาน่า ลีวิส” นำแสดง มาเรียกเรทติ้งในช่วงละครหลังข่าวอีกครั้ง โดยออกอากาศแบบมาราธอนทุกวัน ไม่มีวันหยุด ทางเสือผ่านออกอากาศครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา สามารถทำเรทติ้งตอนจบสูงถึง 6.8 และทำเรทติ้งเฉลี่ยได้ถึง 5.7 ขึ้นแท่นละครหลังข่าวที่มีเรทติ้งเฉลี่ยสูงสุดของปีนี้อีกด้วย
-เครดิตรูป: เพจเฟซบุ๊ค Ch7HDDramaSociety
ในส่วนของละครก่อนข่าว (18.45 - 19.45 น.) นั้น ช่อง 7 ยังเป็นละครผีเรทติ้งสูงสุดของปี 2558 อย่าง “นางชฎา” ละครเรื่องสุดท้ายในฐานะนักแสดงช่อง 7 ของ “ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่” ที่ออกอากาศต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน แม้จะมีการตัดบางฉากออกเพื่อให้เหมาะสมกับช่วงเวลาออกอากาศ แต่ก็ยังสามารถทำเรทติ้งได้ดีเช่นเดิม ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะกับ สะใภ้จ้าว อย่างดุเดือด
ด้าน “ช่อง ONE” ผู้นำเทรนด์ละครมาราธอน แต่ในปีนี้เปลี่ยนกลยุทธ์ ไม่มีส่งละครมารีรันในช่วงปีใหม่ แต่นำช่วง “วันเธียเตอร์” ที่ฉายภาพยนตร์จาก “GTH” - “GDH 599” กลับมาอีกครั้ง ประเดิมวันสิ้นปีด้วยภาพยนตร์สุดคลาสสิกอย่าง “แฟนฉัน” และวันปีใหม่กับ “อ้ายคนหล่อลวง”
แต่หลังจากนั้น ในวันที่ 5 ม.ค. 2565 ช่องได้นำละครแห่งปีอย่าง “วันทอง” นำแสดงโดย ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่ “ป้อง - ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” และ “ชาคริต แย้มนาม” กลับมาออกอากาศอีกครั้ง ทุกวันพุธ - เสาร์ เวลา 20.20 โดย วันทองออกอากาศครั้งแรก เมื่อ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา และสร้างสถิติมีเรทติ้งตอนจบถึง 7.6 ซึ่งเป็นเรทติ้งสูงของละครในปีนี้ อีกทั้งยังเป็นเรทติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ของช่อง ONE
-เครดิตรูป: เพจเฟซบุ๊ค ช่อง one31
ฟาก “ช่อง GMM 25” มีซีรีส์และละครฉายมาราธอนทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ 10.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. ในช่วง “ซีรีส์ Nonstop” ซึ่งเลือกซีรีส์ “Who Are You เธอคนนั้นคือฉันอีกคน” นำแสดงโดย “น้ำตาล - ทิพย์นารี ทิพนารี วีรวัฒโนดม” “คริส - พีรวัส แสงโพธิรัตน์” และ “เค เลิศสิทธิชัย” กลับมาฉายอีกครั้ง
สำหรับ Who Are You เธอคนนั้นคือฉันอีกคน เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง “School 2015” ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยทำเรทติ้งเฉลี่ยถึง 0.5 ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของซีรีส์ที่ออกอากาศในปี 2563 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบนเวทีเอเชียน เทเลวิชัน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 25 (25th Asian Television Awards)
-เครดิตรูป: เพจเฟซบุ๊ค GMMTV
จากนั้นในช่วง 16.30 น. เป็นเวลาของ “ละคร Nonstop” กับ “เนื้อใน” ละครรสแซ่บที่เป็นการฟาดฟันกันระหว่าง “คริส หอวัง” และ “รถเมล์ - คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์” โดยในการออกอากาศครั้งแรก เนื้อใน สามารถทำเรทติ้งไปได้ถึง 2.8 ซึ่งเป็นเรทติ้งสูงสุดตั้งของช่องในปี 2563 และ เนื้อในตอนจบ ยังติดอันดับ 1 กูเกิลเทรนด์อีกด้วย
ปิดท้ายที่ “ช่อง 8” ส่งละครพีเรียดชิงรักหักสวาทสุดแซ่บ “เรือนร่มงิ้ว” นำแสดงโดย “พิ้งกี้ - สาวิกา ไชยเดช” “อั๋น - วิทยา วสุไกรไพศาล” และ “กอล์ฟ - อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา” มาลงจออีกครั้ง หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์ทำเรทติ้งสูงสุดไปถึง 2.01 และยังมียอดผู้ชมสดบนช่องทางออนไลน์ (เฟซบุ๊ค และ ยูทูบ) ของช่อง 8 สูงถึง 2 ล้านวิว ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่ช่อง 8 ทำละครมา
-เครดิตรูป: เพจเฟซบุ๊ค ช่อง 8
ก่อนที่ช่อง 8 จะปล่อยละครใหม่ถึง 2 เรื่อง 2 รส ในวันที่ 4 ม.ค. 2565 โดย “มัจฉาอันดา” ละครพีเรียดแฟนตาซีสุดตระการตา ระหว่างคนกับเงือก ออกอากาศเวลา 19.00 น. และ “ร่านดอกงิ้ว” ละครรสแซ่บ กับบทที่ท้าทายที่สุดของ “ยุ้ย - จีระนันท์ มโนแจ่ม” ออกอากาศ เวลา 20.15 น.
กลยุทธ์นำละครรีรันช่วงปีใหม่นี้ เกิดขึ้นแรกในปี 2561 โดยในปีนั้น ช่อง 3 เลือกรีรัน “อังกอร์” และ “ลิขิตรัก” ขณะที่ช่อง 8 ฉาย “สาปกระสือ” ส่วนช่อง ONE ฉายละครมาราธอน “พรหมไม่ได้ลิขิต” และเริ่มฉายละครในล็อตปัจจุบันทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ “สงครามนักปั้น” “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล” และ “หน้ากากแก้ว” ตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนปัจจุบัน และเมื่อกลับเข้าสู่ช่วงปกติก็จะฉายตอนใหม่ต่อทันที กลยุทธ์นี้ทำให้ละครที่ทั้ง 3 เรื่อง ได้เรทติ้งเพิ่มขึ้นในตอนใหม่ เนื่องจากมีฐานคนดูจากละครตอนเก่าที่พึ่งรีรันไปนั่นเอง
หลังจากนั้น ในปี 2562 ช่อง 7 ก็หันมาใช้กลยุทธ์ละครรีรันด้วยเช่นกัน และได้กลายเป็นกลยุทธ์ประจำที่แต่ละช่องใช้ในช่วงวันหยุดยาว ทั้งสงกรานต์และปีใหม่
สาเหตุที่แต่ละช่องหันมารีรันละครเก่า เนื่องจากช่วงปีใหม่และสงกรานต์เป็นวันหยุดยาว คนเดินทางท่องเที่ยว และไม่ค่อยมีคนดูโทรทัศน์มากนัก ขณะเดียวกันทางแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ต่างไม่ค่อยลงโฆษณาในช่วงนี้ เพราะ ผู้บริโภคมันนำเงินไปซื้อของขวัญ หรือซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี และชะลอการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นออกไป อีกทั้งเมื่อไม่มีคนดูโทรทัศน์มาก ทำให้เมื่อเฉลี่ยราคาโฆษณาต่อจำนวนการมองเห็นของผู้ชม (Cost Per Eyeball) ออกมาแล้ว มีมูลค่าสูงกว่าในช่วงปกติ
อีกทั้งการนำละครรีรันออกมาฉายยังช่วยเซฟค่าใช้จ่ายของทางสถานีได้อีก เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าผลิตคอนเทนท์ใหม่ อีกทั้งยังการันตีว่าอย่างน้อยก็มีคนที่ชื่นขอบละครเรื่องนั้น ๆ คอยรอดูแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ผังรายการช่วงเทศกาลเท่านั้นที่จะมี ละครรีรัน เพราะในช่วงเวลาปกติ ละครรีรัน มีแทบจะทุกช่วงเวลา ตั้งแต่ เช้า (หลังเคารพธงชาติ - ช่อง 3, ช่อง 7 ช่อง วัน) สาย (10 โมงเช้า - ช่อง GMM 25) บ่าย (หลังเคารพธงชาติ - ช่อง 3, ช่อง 7 ช่อง วัน) เย็น (4 โมงกว่า - GMM 25 /หลังเคารพธงชาติ - ช่อง 3, ช่อง 7) ค่ำ (สถานการณ์โควิดทำให้ไม่สามารถถ่ายทำละครได้ จนต้องนำละครเก่ามาฉาย - ช่อง 3, ช่อง 7, ช่อง ONE, ช่อง GMM 25, ช่อง 8) ไปจนถึงดึก (หลังเที่ยงคืน - ช่อง 7)
แม้ว่าจะมีละครรีรันแทบทุกช่วงเวลาเช่นนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าละครรีรันยังสามารถทำเรทติ้งได้ และแทบไม่ต้องเสียต้นทุนเพิ่ม แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับความเสี่ยงจากการที่คนดูเบื่อที่จะดูอะไรเดิม ๆ ยิ่งเลือกละครที่พึ่งฉายจบไปไม่นานมาฉายใหม่ จนหันไปเลือกไปดูคอนเทนท์จากช่องทางอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการสตรีมมิงต่าง ๆ หรือแม้แต่ยูทูบ ที่มีเนื้อหาหลากหลายกว่า และสดใหม่กว่า