ทำไมคนบอกว่า “จะลดน้ำหนัก” ถึงทำไม่สำเร็จ?

ทุกๆ วันขึ้นปีใหม่ นอกจากการสังสรรค์ เสพความสุข สิ่งหนึ่งที่ผู้คนนิยมทำกันในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่ ก็คือการตั้ง "ปณิธานปีใหม่" หรือ "New Year’s Resolution" ซึ่งปณิธานยอดฮิต ที่ไม่เคยตกยุคคือ การลดน้ำหนัก

บริษัทวิจัยยูกอฟ (YouGov) ในอังกฤษเคยศึกษาไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2015 พบว่า จากตัวอย่างคนอังกฤษที่สำรวจคือ 2,025 คนนั้น มีมากกว่าครึ่งหนึ่ง (63 เปอร์เซ็นต์) ที่ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ ในปีที่จะมาถึง โดยที่ฮิตคือ จะลดน้ำหนัก จะฟิตหุ่นให้มากขึ้น ไม่ต่างจากปี 2022 ที่การลดน้ำหนักก็ยังคงติดลิสต์ 5 ปณิธานแรกที่คนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง  ซึ่งผลลัพธ์ที่ผ่านมาจนจบปีมีผู้คนแค่ 10% เท่านั้นที่ทำตามปณิธานที่ตัวเองตั้งไว้

• เหตุผลคนส่วนใหญ่ทำไมลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) ลงความเห็นตรงกันว่า มีหลายเหตุผลที่ทำให้สำเร็จหรือล้มเหลวแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ “ตั้งเป้าที่ทำไม่ได้จริง” ตัวอย่างชัดๆ ที่เห็นได้ง่ายคือ หากเป็นคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย แล้วเกิดมาตั้งเป้าว่า จะไปยิมออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน ก็คงมีแนวโน้มมากๆ ที่จะล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ

นอกจากนี้เหตุผลรองลงมาคือ ขาดแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก เรื่องนี้สำคัญที่สุด เพราะประโยคที่มักได้ยินบ่อยๆ คือ “ไม่รู้จะลดน้ำหนักไปทำไม” ฟังก็รู้เลยว่าไม่มี Passion ในการลดน้ำหนัก แต่เวลาที่ทำอะไรยากๆ แล้วสำเร็จ จะรู้เลยว่าถ้ามี Passion ต่อให้ยากแค่ไหนก็ทำได้ มีอุปสรรคมากแค่ไหนก็จะไม่เลิก การลดน้ำหนักก็เช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งข้อสำคัญคือ การลดน้ำหนักแบบตึงเกินไป บางคนลดน้ำหนักได้แล้ว แต่ทำได้แป๊บเดียวก็เลิกทำในที่สุด เพราะตึงเกินไปจนรู้สึกเครียดและท้อ ทำแล้วไม่มีความสุข เครียดกว่าเดิม บางคนคิดว่าทำงานหรือเรียนเครียดอยู่แล้วต้องเครียดกับการคุมอาหารอีก ซึ่งการลดน้ำหนักให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การลดอย่างรวดเร็ว เช่น ลด 10 กิโลกรัมในเวลา 1 – 2 เดือน เมื่อลดได้แล้วก็เลิกทำไป แต่สิ่งสำคัญคือความสุขในระหว่างที่ลดน้ำหนัก ถ้าบาลานซ์ได้ดีระหว่างความสุขจากกิน ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ น้ำหนักตัวที่เหมาะสม จะประสบความสำเร็จในระยะยาว

• ทริคลดน้ำหนักแบบไม่เครียด

การลดน้ำหนักใครว่าทำกันง่ายๆ ต้องรู้วิธีควบคุมน้ำหนักและดูแลสุขภาพให้ดีควบคู่กันไป

ทานอาหารให้เป็นเวลา

ปรับเวลานอน และตื่นให้เป็นเวลา และต้องกินตรงเวลาทุกมื้อ และควรงดมื้อดึกให้ได้ เพื่อให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีดั่งเดิม 

จัดตารางอาหาร

จัดตารางเมนูอาหารคร่าวๆ ในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละวันควรมีเมนูผักและผลไม้เพิ่มเข้ามา อาจไม่ต้องมีทุกมื้อ แต่อย่างน้อยก็ควรมีทุกวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และกากใยอาหารที่เพียงพอ อีกทั้งผักผลไม้ยังช่วยให้อิ่มเร็ว ลดการทานแป้งได้น้อยลง จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้

นอนให้พอ

รู้หรือไม่? การนอนดึกทำให้ "อ้วน" ได้ โดยในช่วงเวลาที่นอนหลับร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความหิว 2 ชนิด คือ "เลฟติน" กับ "เกรลิน" ที่สามารถช่วยเผาผลาญได้ แต่หากคุณนอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนที่จะช่วยในการเผาผลาญทั้ง 2 ชนิดนี้ก็จะหลั่งออกมาได้น้อย เป็นผลทำให้รู้สึกหิวง่าย และอยากกินอาหารตลอดเวลา จึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้

-------------------------------

อ้างอิง : ucla.edu, nestle.co.th, bangkokhospital