“เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย” ถ้าเมื่อไรเกิน 60 ก็ยังเล่นเจ็ตสกี
ชีวิตของนักแสดงและพิธีกรคนหนึ่งที่่ทุ่มเทกับกีฬา“เจ็ตสกี”ที่ตัวเองหลงรัก จนก้าวสู่ระดับแชมป์โลก และยังถ่ายทอดทักษะการเล่นให้ลูกๆ และเยาวชน
“ผมชอบเจ็ตสกีมาก แต่ก่อนผมเป็นนักกีฬาทางน้ำของมหาวิทยาลัย โปโลน้ำ, วินด์เซิร์ฟ, สกี วันหนึ่งได้จับเจ็ตสกี หลังจากนั้นก็ทิ้งทุกอย่างเลย มาเล่นเจ็ตสกี ลองซ้อมดู เป็นรุ่นบุกเลิกเจ็ตสกีบ้านเรา
ผมแข่งเจ็ตสกีมา 22 ปี แข่งตั้งแต่ปีแรกที่ก่อตั้งกับสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ก็ได้แชมป์ตั้งแต่วันนั้น เป็นตัวแทนประเทศไทยไปชิงแชมป์โลกเป็นปีแรก แล้วก็ได้มา 3 เหรียญทอง”
เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย นักแสดง พิธีกร ที่ชื่นชอบกีฬาเจ็ตสกีมาก แข่งขันจนได้รางวัลมากมาย อาทิ แชมป์ประเทศไทยปี 2563, แชมป์ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพฯ ปี 2547,
แชมป์ประเทศไทยปี 2545 Novice runabout 0-1200 stock, โอเพ่นปี 2542, แชมป์สหรัฐอเมริกา Novice runabout 1200 Limited-slalom, ชิงแชมป์โลกรุ่น Pro-am runabout 800 super stock
Cr.ple_nakorn
ในแง่ชีวิตส่วนตัว เปิ้ล-นาคร สมรสกับ จูน-กษมา มีลูก 4 คน ชาย 2 หญิง 2 ศิศิรา (ออกัส), นครา (ออก้า), นครินทร์ (ออกู๊ด) และศิริกร (ออเกรซ)
ส่วนในมุมการเล่นเจ็ตสกี และการสอนลูกๆ เปิ้ล มีเรื่องเล่ามากมาย...
Cr.ple_nakorn
- ช่วงอายุมีผลต่อการเป็นนักกีฬาเจ็ตสกีไหม
พออายุ 30 ขึ้นไปจะเริ่มเหนื่อย เริ่มเล่นเจ็ตสกีไม่จบแล้ว พออายุ 40 นี่ยิ่งหนักเลย ตอนนี้ผมอายุ 56 ปี เป็นนักแข่งคนเดียวที่แก่ที่สุดในโลก ที่ยังคงหน้าด้านแข่งในรุ่นโปร หรือรุ่นใหญ่มืออาชีพ
ซึ่งรุ่นนี้อายุ 40 ขึ้นไป ก็ยากที่จะลงแล้ว อย่างผมนี่เหมือนจะดันทุรังนะ แม้จะแก่ แม้จะเหนื่อยมาก เหมือนไปแข่งชกกับเด็กอายุ 20 กว่า ข้างหน้าอายุต่างจากผม 20 ปี ข้างหลังอายุต่างจากผม 30 ปี มาไล่กวดผมอยู่อย่างนี้ ผมรู้สึกภูมิใจมาก
แล้วก็สอนลูก สอนเด็กๆ ทุกคน คอยดูนะ ป๊าจะแข่งไปจนอายุเกิน 60 ให้ได้ ขณะเดียวกันก็อยากสอนความเป็นนักกีฬาให้เขา มากกว่าชัยชนะ ผมอยากอยู่ในวงการนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ถ้าผมเข้าเลขหก ผมอยากจะเป็นครูคนหนึ่ง ที่เป็นตัวอย่างให้เด็กๆ
Cr.ple_nakorn
- มีเทคนิคการสอนลูกให้เล่นเจ็ตสกีอย่างไร
เขาเริ่มขี่ตั้งแต่ 3 ขวบ สอนเขาอยู่ตลอดเวลาว่า ไม่ต้องรีบร้อน ให้คนที่เขาเก่งกว่าเราได้แชมป์ไปก่อน คนอื่นอายุ 12-13 เป็นรุ่นพี่หมดเลย ออก้าแค่ 10 ขวบซ้อมเกือบทุกวัน แล้วก็กินหนักมาก ไปตามวัย ไม่ได้โหมหนักมาก กะว่ารออีกสักสองปี ให้กล้ามเนื้อกระดูกเขาแข็งแรงกว่านี้ก่อน แต่ก็หวังไว้ว่าเขาจะทำให้ดีที่สุด
ออก้าเข้าแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย 2021 ปีนี้เป็นปีแรก เขาขี่แบบเต็มที่ แล้วก็ได้รองแชมป์ประเทศไทยมา จากที่เราคาดว่า ได้ที่ 5 ก็บุญแล้ว ดีใจแล้ว เพราะว่าเขาอายุน้อยกระดูกยังไม่แข็ง แต่ได้รองแชมป์มาก็ถือว่าเกินคาด
เพิ่งมีการแถลงข่าวจัดทัวร์นาเมนท์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เวิลด์คัพ 2021-2022 ออก้าก็เข้าแข่งด้วย?
มาปีนี้ เวทีระดับโลก ครั้งแรกในชีวิตของออก้า ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก หวังให้คนอื่นตกเรือเยอะๆ แล้วออก้าจะได้แชมป์ ถ้าออก้าไม่ตกเรือด้วย ก็ต้องมาลุ้นกันเพราะว่าเด็กเกือบ 30 คน
จากหลายประเทศมารวมตัวกัน เขาเอาแค่ 5 คนเอง แข่งครั้งเดียว แล้วก็ตัดทิ้งหมดเลย แล้วเอา 5 คนมาแข่งกันในวันชิง เราแค่ลุ้นว่าออก้าเข้า 1 ใน 5 ได้ที่ 5 พ่อแม่ก็ร้องไห้ดีใจแล้วฮะ
ปีนี้เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของวงการสมาคมเจ็ตสกีประเทศไทย ถือว่าเป็นการจัดแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะว่านักแข่งจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่นี่ เป็นการรวมตัวกันที่สมาคมฯ มีการจัดการเรื่องระบบสาธารณะสุขเข้มงวดมากๆ ในสนามจะไม่มีคนดู นักแข่งแต่ละคนก็ตรวจเชื้อโควิด ตรวจแล้วตรวจอีก ในสนามจะปลอดภัยกันร้อยเปอร์เซ็นต์
Cr.ple_nakorn
- วางเป้าหมายของตัวเองอย่างไร
สำหรับตัวเองก็ไม่ได้คิดมาก ขอแค่ได้ลงแข่งตามวัย คนที่สำคัญคือ ออก้า จะลงในรุ่นจูเนียร์ รุ่นเด็กอายุ 8-13 ขวบ
- ถ้าออก้าได้แชมป์จะทำยังไง
ปีนี้ไม่คิดว่าจะได้ เพราะคนที่แข่งรุ่นเดียวกับออก้า เก่งกว่าเยอะมาก แล้วก็มีประสบการณ์ เป็นเด็กโตแล้ว เด็กอายุ 12-13 กระดูกแข็งกว่า เรายอมให้เขาได้อันดับไปก่อน ส่วนออก้าถ้าได้ที่ 5 ระดับโลก ก็ดีใจมากๆ แล้ว แต่เวลาลงสนาม ออก้าต้องบวกอย่างเดียว ต้องไม่ยั้ง ต้องใส่เต็มที่ ตามวัยของเขา
ออก้าเกิดในปี 2554 น้ำท่วมหนัก เขาจะชอบน้ำมาก เจอน้ำที่ไหน เหมือนปล่อยปลาลงแม่น้ำ เขาจะหายไปเลย ถึงขนาดเวลาซ้อม ละเมอตื่นตีห้าขึ้นมาถามว่า แม่ไปซ้อมหรือยัง ทุกคนก็ตื่นกันหมด อะไรออก้า นี่ตี 5 อุ้ย ละเมอ ขอโทษ แล้วก็นอนต่อ
ส่วนวันแข่งนี่ไม่ต้องพูดถึง นั่งนับวันเลย อีกกี่วันจะถึง อีกเดือนหนึ่งลูก เดือนหนึ่งกี่วัน 30 วัน จะถึงหรือยัง อีกอาทิตย์หนึ่งลูก จะถึงหรือยัง อีก 9 ชั่วโมงลูกถึงสนาม จะถึงหรือยัง อีกหนึ่งชั่วโมงลูก คือถามตลอดเวลา เขาหลงใหลในการแข่งมาก
Cr.ple_nakorn
- นอกจากออก้า ลูกคนไหนที่ชื่นชอบเจ็ตสกีอีก
มีอีกคน ที่น่าจะมีแววตามออก้าคือ ออเกรซ น้องสาวคนสุดท้อง ดูจากเวลาเขาชนโต๊ะ ตกบันได หล่นลงพื้น จะไม่ค่อยร้องไห้เหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่น เขาจะไม่เจ็บ แล้วเวลาอยู่บนเจ็ตสกี จะมีสายตากระหายในการขี่เจ็ตสกีอยู่ ตอนนี้เขาก็เริ่มฝึกขี่แล้ว อายุ 4 ขวบ เป็นสาวแกร่งไม่แสดงอาการจริงๆ กินนมดุเหมือนออก้า
- มีวิธีการเลี้ยงลูกอย่างไร
เขารักอะไรก็ต้องดันให้สุดตามนั้น ตอนนี้ก็ทั้งฝึก ทั้งสอน เทคนิคในการแข่ง เด็กๆ จะมีครูที่เก่งๆ กันทุกคน แต่สิ่งที่เราจะสอนก็คือ การเป็นนักกีฬาที่ดี ไม่ใช่เป็นนักกีฬาที่เก่งอย่างเดียว เก่งอย่างเดียว ป๊าไม่ชอบ ต้องเป็นนักกีฬาที่ดี เป็นเด็กที่มีวินัย มีเพื่อน กล้าบู๊ กล้าให้ มีความรักต่อคนอื่น เคารพกฎกติกาของสังคม ของการแข่งขันด้วย
Cr.ple_nakorn
- มีเคล็ดลับในการครองคู่อย่างไร
เราสองคนชอบอะไรเหมือนกัน จนถึงวันนี้ ก็ยังชอบเหมือนกันอยู่ โชคดีทำให้เราไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันสักเท่าไร ปกติจะหวานกันเฉพาะออกสื่อ ส่วนมากจะเล่นกันเหมือนผู้ชายมากกว่า เล่นกับลูก เล่นเอาหมอนตีกัน ไม่ค่อยหวานแบบในหนัง
- กิจการร้านอาหารเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนที่เขาบอกให้ปิดร้าน ก่อนปลายปีที่แล้ว ก็กระทบนิดหน่อยนะ ร้านของเราไม่ได้กระทบเยอะ คนอื่นน่าจะหนักกว่าเรา โชคดีที่ของเรายังรักษาพนักงานกว่าร้อยชีวิตเอาไว้ได้ พอทันทีที่เขาให้เปิดร้านอาหารได้ตามปกติ พนักงานร้อยกว่าชีวิตก็ยังอยู่กับเราได้ แล้วเราก็เลี้ยงดูเขาได้ แต่ในมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
ถ้าเป็นพนักงานเราแล้ว ต้องรักษาตัวเองแทบจะขังคุกเลยล่ะ ห้ามออกไปปาร์ตี้ที่อื่น ห้ามกลับบ้าน ห้ามอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าความปลอดภัยของพนักงานคือความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าเราทุกคน
นี่คือสิ่งที่เราซีเรียสมาก โชคดีที่ร้านเราเปิดโล่ง ลูกค้าก็ให้ความไว้วางใจ เศรษฐกิจของร้านตอนนี้เริ่มกลับมาเกือบๆ จะร้อยเปอร์เซนต์แล้ว
สำหรับโควิดระลอกใหม่ เราก็ภาวนาขอให้เป็นแค่โอมิครอน อย่ามีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาอีก แต่เราก็ห้ามไม่ได้นะ ถ้ามีเข้ามา ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนมีมาตรการป้องกันตัวเองอยู่แล้ว วัคซีนต่างๆ ก็ได้รับกันพอสมควร ที่สำคัญทุกคนค่อนข้างจะระวังตัวเอง
อย่างเคาท์ดาวน์ปีใหม่ร้านอาหารเราที่ผ่านมา แปลกกว่าปีอื่นๆ มาก พอ 543210 พลุดังขึ้นมา ทุกคนไม่เฮ นั่งตบมือกันอยู่กับโต๊ะ โต๊ะใครโต๊ะมัน เป็นการเคาท์ดาวน์ที่น่ารักมาก สงบเสงี่ยม ป้องกันระวังตัวมาก ทุกคนใส่แมส
Cr.ple_nakorn
- มองวงการเจ็ตสกีบ้านเรา และนักกีฬารุ่นหลังๆ อย่างไรบ้าง
เจ็ตสกีเมืองไทยตั้งแต่วันแรกที่เป็นวุ้นๆ จนกระทั่งมาถึงวันนี้ สิ่งที่เราเห็นคือวงการเจ็ตสกีไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยกำลังของคนกลุ่มหนึ่ง ทำกันจนเจ็ตสกีได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก โตขึ้นแบบสร้างมาตรฐานให้กับเจ็ตสกีไทย เป็นหนึ่งในเอเชีย และเป็นที่ยอมรับ
ผมไปแข่งเจ็ตสกีมาแล้วทั่วโลก จีน เกาหลี อเมริกา กล้าพูดได้เลยว่า ระบบการจัดการ กฎกติกาทุกอย่างที่สมาคมฯทำ เป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้วนะ
ในส่วนของนักกีฬา นักเจ็ตสกีไทยมีความเสียเปรียบนักเจ็ตสกีระดับโลกอยู่หน่อยเดียว ตรงที่ประเทศไทยนักแข่งเราเริ่มต้นช้า เราเริ่มต้นตอนอายุ 20-30 ในยุคนั้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทุกคนเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ด้านทักษะเราแพ้อเมริกา แพ้ยุโรป เพราะเขาเริ่มตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ แต่มาวันนี้ผมกล้าบอกได้เลยว่า ในอีก 3-5 ปีหน้า ทั้งโลกจะต้องกลัวนักแข่งจากประเทศไทยในทุกๆ รุ่น
เท่าที่ผมแข่งมา 22 ปี ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เห็นเจเนอเรชั่นใหม่ เยาวชนที่เริ่มตั้งแต่ 7-8 ขวบ จริงๆ เขาเริ่มมาหลายปีแล้ว สมัยก่อนรุ่นเด็กจะแข่งกันอยู่ 5-6 คน แต่ปีนี้ 20 กว่าคน
ต้องขอบคุณพ่อแม่ผู้ปกครองที่มองเห็นความสำคัญของกีฬา มองเห็นความปลอดภัยของเจ็ตสกี มองเห็นการจัดการระดับโลก ยอมให้ลูกได้มาเรียนรู้ชีวิตการเป็นนักกีฬา สร้างบุคลากรที่จะเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นใหญ่ของโลก ซึ่งไทยเรายากมากๆ ที่จะไปได้รุ่นนั้น แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้า ผมเชื่อมั่น
Cr.ple_nakorn
- เป้าหมายต่อไปของเปิ้ล-นาครคืออะไร
อยากสอนน้องๆ เจ็ตสกีทั้งวงการ ให้เขาเห็นว่าความเป็นนักกีฬาจริงๆ มันไม่ได้อยู่ที่อันดับหนึ่งเท่านั้น คุณจะอยู่อันดับหนึ่งหรือสุดท้าย ถ้ารู้จักคำว่านักกีฬา นั่นคือสิ่งที่คุ้มค่ากับเงินที่พ่อแม่ลงทุนไป แล้วลูกได้เรียนรู้ ความเป็นนักกีฬาคือสิ่งที่ผมตั้งใจมากกว่าที่ลูกจะได้แชมป์โลก
สิ่งแรกที่ลูกจะได้เรียนรู้คือ วินัย การฝึกซ้อม การอดทน การรู้จักแพ้ รู้จักชนะ เพื่อน ความรักของเพื่อน กฎกติกา สิ่งเหล่านี้ผมอยากให้เขาได้มากกว่าชัยชนะ
วงการเจ็ตสกีไทยเรามีความเป็นเพื่อน ในการแข่งขันมันบู๊กันมาก ลงปุ๊บบวกปั๊บ แต่ถ้าในเรื่องสังคมเราน่ารักมาก ผมเคยไปแข่งอะไรมาหลายๆ อย่าง สังคมอื่นแข่งกันทั้งข้างนอกสนาม ในสนาม แต่สังคมเจ็ตสกีแข่งกันเฉพาะในสนาม แต่นอกสนาม ยังกินข้าวได้ทุกเต็นท์ น่ารักมาก