“สิมิลัน” ที่รัก ไม่ไปช่วงนี้แล้วจะหาว่าไม่เตือน
ยลโฉม “หมู่เกาะสิมิลัน” หลังเงียบเหงาจากพิษโควิด-19 แต่กลับมาสวยงามเพราะได้พักฟื้นจากการท่องเที่ยวเช่นกัน
นับตั้งแต่ปี 2563 ที่โควิดเริ่มเข้ามาในประเทศไทย จนปีที่แล้วแหล่งท่องเที่ยวหลายพื้นที่ปิดให้บริการ หรือบางที่ก็ปิดไปโดยบริยายเพราะมีการขอความร่วมมือไม่ให้เคลื่อนย้าย หรือเดินทาง ช่วงแรกๆ นี่เข้มเลย ถึงขนาดห้ามเดินทางข้ามจังหวัด มีการตั้งด่านกักกันเลย รถทัวร์ รถไฟ เครื่องบิน งดเดินทาง เรียกว่านิ่งสนิท แหล่งท่องเที่ยวที่เคยมีนักท่องเที่ยวก็เงียบเหงา ที่เงียบยิ่งกว่านั้นคือเศรษฐกิจ แต่แง่ดีก็คือ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้พักฟื้นซะที
สิมิลัน รวมถึง ทะเลอันดามัน ของไทย รับใช้ทางการท่องเที่ยว หาเงินเข้าประเทศมานาน ทั้งบนบกและใต้น้ำ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ชนิดที่ไม่เคยมีการหยุดพัก (ยกเว้นในเกาะกลางทะเลที่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีการปิดตามฤดูกาล) ต่อให้พื้นที่ที่เขารับผิดชอบจะดูแลให้ดีอย่างไร แต่มันก็ “ช้ำ” วันยังค่ำ การที่แหล่งท่องเที่ยวถูกปิดเพราะสถานการณ์โควิด จึงเป็นเรื่องดีที่แหล่งท่องเที่ยวได้พัก ให้ธรรมชาติมันได้ซ่อมแซมตัวเอง
ตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิค-19 ในบ้านเราเริ่มคลี่คลาย ผู้คนเพิ่มผ่อนคลาย ออกไปท่องเที่ยวกัน ภายใต้มาตรการการป้องกันที่ภาครัฐกำหนดไว้ให้ พร้อมทั้งการเปิดช่องให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาภายใต้มาตรการต่างๆ มันทำให้การท่องเที่ยวนั้นเริ่มคึกคัก
ผมเลือกเอา สิมิลัน แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่เป็นที่สุดๆ ของทะเลอันดามันของไทย ทั้งความสวยงามที่ลือเลื่องไปทั่วโลก เป็นพื้นที่ที่ออกไปดูความเปลี่ยนแปลงในช่วงการผ่อนคลาย และถือเป็นการไปดูธรรมชาติที่ฟื้นตัวกลับมา
การลงเรือเที่ยว หมู่เกาะสิมิลัน ทุกวันนี้ยังคงเป็นการมาท่องเที่ยวแบบทัวร์ One day trip ซึ่งเรือจะมีที่ออกมาจากภูเก็ต ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามกับทางโรงแรมได้ เขาจะมีแพกเกจทัวร์ให้เลือก แต่ที่นิยมมากก็คือมาจากท่าเรือทับละมุ จ.พังงา แพคเกจเขาก็จะเหมือนทัวร์ทะเลหลายที่คือรวมค่าเรือ ค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติ พาเที่ยว อุปกรณ์ดำน้ำ อาหารกลางวัน เครื่องดื่ม ขนม ของขบเคี้ยวบนเรือ มีไกด์ดูแลและพาเที่ยว เป็นแบบนี้แทบทุกบริษัท โปรแกรมสิมิลันก็จะอยู่ที่พันกว่าบาท อาจจะ มีแตกต่างกันบ้างแล้วแต่การบริการ เรือก็จะเป็นเรือเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็ถึงเกาะ เที่ยวสองเกาะ และกลับมาส่งถึงฝั่งราว 5 โมงเย็น
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน นั้นเปิดให้เที่ยวหรือให้ขึ้นเกาะอยู่สองเกาะ คือเกาะเมียงหรือเกาะสี่ กับเกาะแปด (ส่วนเรือที่มาดำน้ำลึก ก็จะอีกแบบ ส่วนใหญ่จะไปจอดนอนที่เกาะแปด) ซึ่งมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติอยู่บนเกาะทั้งสองเกาะ แต่ที่มีพื้นที่กว้างและการดูแลนักท่องเที่ยวได้ค่อนข้างจะครบถ้วน คือที่เกาะสี่ เพราะมีทั้งหน่วยกู้ภัย หน่วยปฐมพยาบาล มีทหารเรือมาช่วยดูแล
เดิมเคยประสบปัญหาว่าเรือนักท่องเที่ยวนั้นแออัด เขาเลยจัดระเบียบกันใหม่ ให้มีการสลับกันระหว่างเกาะแปดกับเกาะสี่ คืออย่ามาในเวลาเดียวกันให้บริษัทนำเที่ยวไปตกลงกัน ร่วมกับทางอุทยานฯว่าจะสลับ หมุนเวียนกันอย่างไร เท่าที่ผมไปเห็นมา นักท่องเที่ยวยังไม่มาก อาจจะเพราะเรายังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มที่ และประเทศจีนยังไม่ให้คนของเขาออกนอกประเทศ นักท่องเที่ยวก็เลยน้อยลง
เรือจะไปถึงเกาะสี่ราว 10 โมงเช้า ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นคือ น้ำทะเลที่ใสมาก ชายหาดที่ขาวสะอาด แทบไม่มีขยะให้เห็น เพราะทุกเช้าก่อนที่นักท่องเที่ยวจะมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะทำความสะอาดจนเรี่ยมเร้เรไร พอเราขึ้นเกาะ ก็จะมีการตรวจคัดกรองอีกรอบ มีลงทะเบียนขึ้นเกาะ ตรวจเช็คการฉีดวัคซีน (ซึ่งก่อนลงเรือ บริษัททัวร์เขาก็ทำมารอบหนึ่งแล้ว) บนเกาะจะมีทหารเรือมาช่วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯทุกวัน (ทหารเรือจะพักอยู่ทางด้านหาดเล็ก ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะ)
อย่างที่บอกไปว่าบนเกาะสี่นี้สะอาดมาก ร่มรื่น เดิมเคยให้นักท่องเที่ยวพักแรมบนเกาะได้ ก็ที่เกาะสี่นี่เอง ที่นี่ยังเป็นที่รับประทานอาหารกลางวัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยงที่นี่ (ถ้าไปเที่ยงที่เกาะแปด จะเป็นข้าวกล่อง) เห็นอาหารกลางวันแล้วก็น่ากิน
ที่นี่ยังเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไปยังหาดเล็ก ที่อยู่อีกด้านของเกาะได้ (หาดนี้จะมีหน่วยทหารของกองทัพเรือ ประจำอยู่ตลอดเวลา) ระหว่างทางจะเห็นป่าดงดิบบนเกาะ พืชพรรณที่บางอย่างมีเฉพาะบนเกาะ ปูไก่ นกชาปีไหน ที่หากินเหมือนนกพิราบในกรุงเทพเลย คือไม่กลัวคน
ส่วนที่เกาะแปด ซึ่งมีหินใบเรือเป็นสัญลักษณ์นั้น ชายหาด ความสะอาดทั้งน้ำทั้งชายหาดก็ไม่ต่างกันทั้งที่นี่มีจุดน่าสนใจคือการขึ้นไปชมทิวทัศน์บนหินใบเรือ ซึ่งใครได้ไปเห็นก็ไม่อยากลง เพราะมันสวยมาก สวยจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไร “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” ไม่ได้มีชื่อเสียงทางการดำน้ำแบบผิวน้ำ แต่เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่ขึ้นชื่อและมีความสวยงามมาก
นี่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ก็กลับมาฟื้นความสัมพันธ์กันอีกครั้ง สายการบินของซาอุฯเอง ก็จะบินตรงเที่ยวแรกจากซาอุฯมาไทยในเดือนพฤษภาคม ทั้งไทยเราก็กำลังจะเสนอทะเลหมู่เกาะทางฝั่งอันดามัน เข้าเป็นมรดกโลก สถานการณ์โควิดก็เริ่มคลี่คลาย ธรรมชาติเราก็ฟื้นตัวกลับมา
ดูเหมือนสิ่งดีๆ จะกลับมาสู่บ้านเราอีกครั้ง ช่วงนี้ถ้ามีโอกาสเดินทาง ก็แนะนำให้ไปเที่ยวกันก่อนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมากัน ไปชื่นชมความสวยงามของบ้านเรากันให้เต็มที่ก่อนครับ...