รู้จักนิสัย "กระต่าย" หลากหลายสายพันธุ์พร้อมวิธีเลี้ยง
เจ้า “ขนฟู หูยาว” ตัวนุ่มนิ่ม เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงช่วยคลายเหงา แถมน่ารัก ยิ่งดูยิ่งเพลิน... "พาราไดซ์ พาร์ค" ชวนรู้จัก “กระต่าย” สายพันธุ์ต่าง ๆ พร้อมวิธีเลี้ยง
ร้าน BUNNY VILLA บริเวณโซน Side Walk ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค ชวน สาวกกระต่าย และคนที่จะเข้าสู่วงการ กระต่าย มาชมเจ้า ขนฟู หูยาว หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยง และคำแนะนำการดูแลกระต่ายอย่างถูกวิธี
ร้านนี้ยังเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์กระต่ายสายพันธุ์แท้ ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก American Rabbit Breeder Association หรือ ARBA อเมริกา และสาขาใหม่แห่งนี้ยังคงคอนเซปต์บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง กับธีมร้านสไตล์สีชมพู มีเจ้า ขนฟู หูยาว ตัวนุ่มนิ่ม ดูน่ารักตะมุตะมิ คอยต้อนรับชาวกระต่ายเลิฟเวอร์ ประกอบด้วยสายพันธุ์หลากหลาย เช่น
พันธุ์ฮอลแลนด์ ลอป (Holland Lop) ที่กำลังนิยม ฟาร์มได้นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีนำเข้ามาจากอเมริกามาผสมเพื่อให้ได้กระต่ายฮอลแลนด์ลอป ที่มีความสวยระดับโลก รวมทั้งการดูแลใส่ใจด้านสุขภาพและโภชนาการที่ดี มีรูปร่างและโครงสร้างที่สวยงามถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์ ขนสวย ที่สำคัญสุขภาพของน้อง กระต่าย แข็งแรง ร่าเริง เป็นมิตร และอ่อนโยน
ฮอลแลนด์ ลอป อาจโตเต็มที่ได้ถึง 1.8 ก.ก. ดูรูปร่างเล็กแต่ตัวแน่น กลม หัวสั้นและหูตก นิสัยเรียบร้อย ค่อนข้างเชื่องและฉลาด
ไลอ้อนเฮด (ภาพ: wideopenpets.com)
ไลอ้อนเฮด (Lion Head) มีแผงคอที่มีขนยาวและฟู ดูเหมือนสิงโต ดวอร์ฟ โฮโท (Dwarf Hotot) กระต่ายสีขาว ตาสวยเกินเบอร์เหมือนกรีดอายไลน์เนอร์สีดำรอบดวงตา
ดวอร์ฟ โฮโท
มินิเร็กซ์ (Mini Rex) ตัวเล็ก ขนนุ่มเหมือนกำมะหยี่ อารมณ์ดี เป็นมิตร
เท็ดดี้แบร์ (Teddy bear) ขนาดเล็ก ขนฟูทั้งตัว ราคาไม่แพง เสน่ห์อยู่ที่ขนที่ยาวปกคลุมทั้งตัวและใบหน้า
Nova Mini rex (ภาพ: flickr.com)
มินิ ลอป (Mini Lop) กระต่าย ขนาดกลาง โตเต็มที่อาจหนัก 2.7 ก.ก. หูตกกำลังพอดี นิสัยขี้เล่น ฝึกได้ เข้าใจบางคำสั่ง
ใครเข้าสู่ วงการกระต่าย หรือเป็นมือใหม่หัดเลี้ยง แวะร้าน BUNNY VILLA พาราไดซ์ พาร์ค โทร.08 8883 6166, FB: Bunny villa Store, LINE: @bunnyvilla วันนี้ฉลองเปิดสาขาใหม่ กระต่ายทุกตัวรับหญ้า อาหาร ขวดน้ำ และสินค้าทุกชนิดลด 10%
กระต่าย เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนทั่วโลก ด้วยตัวนุ่ม ขนฟู หูยาว เป็นสัตว์ที่สวยงาม น่ารัก เลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงในบ้าน ในคอนโดฯ และปรับตัวเข้ากับการดำรงชีวิตได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ดวงตากลมแบ๊ว และมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม ใครอยากเป็น สาวกกระต่าย อยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคู่ใจคลายเหงา เว็บไซต์ Petcitiz (www.petcitiz.info) ให้คำแนะสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง ดังนี้
1 เตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงกระต่าย :
เลี้ยงในบ้าน การเลือกกรงเป็นส่วนที่สำคัญมาก กรงต้องมีขนาดใหญ่กว่าตัวกระต่าย ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ยิ่งดี และ พื้นของกรง ควรเป็นวัสดุที่ทำจากลวดหรือสแตนเลส ไม่ควรหุ้มด้วยพลาสติกเพราะกระต่ายจะกัดแทะวัสดุจนเป็นอันตรายได้ และ ห้ามเลี้ยงในตู้กระจกเด็ดขาด เพราะจะทำให้อากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ เสี่ยงจะเสียชีวิตได้ ส่วนของถาดรองควรเป็นพลาสติกที่แข็ง เพื่อทำความสะอาดได้ง่าย
ใครเลี้ยงกระต่ายในบ้านจะต้องทำความสะอาดกรง และถาดรองทุกวัน
Photo by Степан Галагаев on Unsplash
เลี้ยงนอกบ้าน ควรเลือกกรงชนิดที่ออกแบบให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและภูมิอากาศ หลังคาควรเป็นแบบเปิดปิดได้ กันแดดกันฝน และมีขนาดใหญ่จะได้มีพื้นที่ให้ กระต่าย วิ่งเล่นมากขึ้น ไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด ส่วนพื้นควรรองด้วยฟาง หรือหญ้าแห้งให้สามารถนอนได้ ที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวควรวางกรงไว้ในพื้นที่ที่มีลมโกรก เพราะอาจทำให้กระต่ายล้มป่วยได้
2 การให้อาหารและน้ำ อาหารหลักของกระต่ายคือ หญ้า ซึ่งมีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นหญ้าขน หญ้าทิมโมธี แพงโกล่า และหญ้าอัลฟาฟ่า กระต่ายที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน สามารถผสมอาหารเม็ดให้กินรวมกับหญ้าได้ แต่ควรให้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะจะทำให้ กระต่ายอ้วน ไม่แข็งแรง ส่วนกระต่ายที่อายุ 7 เดือนขึ้นไป ควรเริ่มจำกัดการให้อาหารเม็ด ให้เสริมได้เป็นบางครั้งคราว และเลือกอาหารเม็ดชนิดที่มีโปรตีน กากใยสูง และไขมันไม่สูง
น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นมาก ต้องมีน้ำสะอาดไว้ในกรงให้ กระต่าย กินตลอดเวลา ควรใส่ขวดที่มีจุกน้ำแบบหลอดท่อแอร์ หรือแบบที่มีลูกปืน เพราะถ้าให้แบบอ่างกระต่ายอาจจะนำปากลงไปกิน ทำให้จมูกเปียก เสี่ยงต่อการเป็นหวัดได้ และควรทำความสะอาดขวดน้ำอย่าให้สกปรกจนเกินไป
3 วิธีการอุ้มกระต่าย กระต่ายเป็นสัตว์ที่ตกใจง่ายมาก หากอยากอุ้ม เราต้องทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายก่อน โดยการลูบขนเบา ๆ จากนั้นเอามือสอดเข้าไปใต้ท้องแล้วดึงเข้ามาแนบลำตัว แต่ต้องระวังสักหน่อย อย่าให้กระต่ายกระโดดลงมาจากตัก หรือพลัดหลุดมือ เพราะจะทำให้ กระต่าย บาดเจ็บได้
อีกอย่างคือ ไม่ควรจับกระต่ายโดยการหิ้วหู เพราะจะทำให้กระต่ายรู้สึกเจ็บ แล้วยังเป็นสาเหตุที่ทำให้หูของน้องกระต่ายตกอีกด้วย
4 การอาบน้ำกระต่าย : ควรใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาด เป็นการทำความสะอาดสำหรับ กระต่าย อายุต่ำกว่า 3 เดือน แต่หลังจาก 3 เดือน ไปแล้วสามารถอาบน้ำได้ โดยเตรียมน้ำใส่กะละมังไว้ บีบหูเพื่อไม่ให้น้ำเข้า จากนั้นใช้น้ำรดตัวกระต่าย และใช้แชมพูฟอกให้ทั่วตัว สามารถใช้แชมพูของน้องหมา หรือแชมพูเด็กก็ได้ แต่ห้ามใช้แชมพูสำหรับผู้ใหญ่เพราะอาจทำให้ขนร่วงได้ เสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาด ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง หากเป็นพันธุ์ขนยาวควรใช้ไดร์เป่า (ใช้ลมเย็น) และอย่าลืมหวีขนให้ด้วย
5 การตัดเล็บกระต่าย : สำคัญมาก เพราะถ้าปล่อยให้เล็บยาวเกินไป เวลากระต่ายวิ่งจะทำให้เกิดอันตราย และเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคด้วย ดังนั้นควรมีกรรไกรไว้สำหรับตัดเล็บ ใช้ของคนหรือของน้องหมาก็ได้ วิธีตัด ควรตัดต่ำกว่าเส้นสีชมพูลงมาหน่อย เพราะหากตัดเข้าไปที่เส้นสีชมพูพอดีจะเป็นการตัดเข้าเนื้อ ตรงนั้นมีจุดเส้นเลือดหล่อเลี้ยงจะทำให้เลือดไหล กระต่ายจะเจ็บ
6. การฝึกขับถ่าย : เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนสักหน่อย ควรให้เวลากับเจ้ากระต่ายทำความเคยชินกับกระบะขับถ่าย โดยเฉพาะกระต่ายที่ติดนิสัยขับถ่ายไม่เป็นที่ด้วยวิธีคือ ให้สังเกตว่าเจ้ากระต่ายกำลังจะฉี่ หรืออึ ให้รีบอุ้มมาวางบนกระบะทันที ทำแบบนี้ไปสักพักจนเจ้ากระต่ายเริ่มชิน ต่อไปเราก็ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าเขาจะอึ และฉี่ไม่เป็นที่อีกแล้ว
เครดิตภาพ: peakpx.co
เรื่องสำคัญอีกอย่างคือ กระต่าย ไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงแค่ไว้ดูเล่น จึงไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่ในกรงตลอดเวลา เพราะจะทำให้กระต่ายเครียดและป่วยได้ เมื่อเลี้ยงแล้วก็ควรเอาใจใส่ดูแลอย่างเต็มที่