อ่านตัวตน TAG Heuer ผ่านนาฬิกา 12 เรือนประวัติศาสตร์หาชมยาก ส่งตรงจากสวิต
ครั้งแรกในไทย! TAG Heuer พาย้อนวันวาน ส่งตรงมรดกนาฬิกาประวัติศาสตร์หาชมยาก 12 เรือนจากสวิต เข้าร่วมงาน ‘TAG Heuer Heritage Pop-up Museum’ สะท้อนจิตวิญญาณและนวัตกรรมล้ำสมัยของแบรนด์
นาฬิกาหรู TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) เปิดตัว TAG Heuer Heritage Pop-up Museum พิพิธภัณฑ์ป๊อปอัพแห่งแรกในไทย ณ ไอคอนสยาม เพื่อตอกย้ำจิตวิญญาณและนวัตกรรมอันล้ำสมัยของแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่ง
ภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงนาฬิกาประวัติศาสตร์จำนวน 12 เรือน และ Wall of Fame ที่บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จและการเดินทางอันยาวนานของความเป็นนาฬิกาสวิส TAG Heuer ตั้งแต่ปีค.ศ 1860 ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย เอดูอาร์ด ฮอยเออร์ ในเทือกเขาจูรา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในนิทรรศการ ผู้เยี่ยมชมจะได้ร่วมเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่จุดเริ่มต้นตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ TAG Heuer โดยเอดูอาร์ด ฮอยเออร์ ไปจนถึงการเข้ามารับช่วงต่อของ แจ็ค ฮอยเออร์ ผ่านนาฬิกาเรือนเวลาประวัติศาสตร์จำนวน 12 เรือน ส่งตรงมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่องานนี้ในประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วย
1. Heuer Time of Trip ปี ค.ศ.1911
นาฬิกาโครโนกราฟ 12 ชั่วโมงเรือนแรกของโลก ออกแบบมาสําหรับติดตั้งบนแผงหน้าปัดรถยนต์และเครื่องบิน สามารถสํารองพลังงานได้นาน 8 วัน ซึ่งนวัตกรรมนี้ถือเป็นความสําเร็จร่วมกับสโมสรนักบิน โดยหน้าปัดหลักแสดงเวลาปกติ ขณะที่หน้าปัดย่อยด้านล่างจะแสดงเวลาการเดินทาง
Heuer Time of Trip ปี ค.ศ.1911
Heuer Mikrograph ปี ค.ศ. 1916
2. Heuer Mikrograph ปี ค.ศ. 1916
ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โลกของการจับเวลาต้องเผชิญกับความท้าทายในการเพิ่มขีดความแม่นยํา ด้วยเหตุนี้ Charles Auguste Heuer จึงตั้งปณิธานกับพนักงานของเขาว่า "จงทําให้นาฬิกาจับเวลาสามารถบอกเวลาได้แม่นยํายิ่งกว่านาฬิกาในปัจจุบันให้ได้ถึงห้าถึงสิบเท่า" นาฬิการุ่น Mikrograph จึงถือกําเนิดขึ้นหลังจากนั้น และกลายเป็นนาฬิกาจับเวลาแบบไขลานเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมกลไกการจับเวลาแบบ Oscillating Pinion และมีความแม่นยําถึง 1/100 วินาที ในขณะนั้น อุปกรณ์จับเวลาอื่นๆ สามารถวัดได้เพียง 1/5 วินาทีเท่านั้น การคิดค้นนี้จึงเหมือนเป็นการพลิกวงการและกําหนดมาตรฐานใหม่ให้แก่ความแม่นยําในการจับเวลา
นาฬิกาจับเวลาแบบพกพาของ TAG Heuer ยังได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์จับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกใน แอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม (ค.ศ.1920), ปารีส ประเทศฝรั่งเศส (ค.ศ.1924) และอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (ค.ศ.1928)
Mikrograph หลายพันเรือนถูกผลิตและวางจําหน่ายต่อเนื่องนานกว่าหกทศวรรษ ก่อนจะยุติการผลิตในปี ค.ศ.1969
Heuer Rally Master Master Time และ Monte Carlo
3. Heuer Rally Master Master Time และ Monte Carlo ปี ค.ศ. 1960
นาฬิการุ่น Rally Master ขึ้นชื่อว่าเป็นของขวัญในอุดมคติของ นักแข่งแรลลี่ เนื่องจากมีระบบที่สามารถจับเวลาการแข่งขันได้อย่างแม่นยํา อีกทั้งยังมีคุณสมบัติอันโดดเด่นที่เป็นจุดแข็งของ Rally Master คือความชัดเจนที่สามารถอ่านเวลาได้ง่ายและเที่ยงตรง
Heuer Solunar ปี ค.ศ. 1949
4. Heuer Solunar ปี ค.ศ. 1949
Heuer Solunar คือนาฬิกาเรือนแรกของ TAG Heuer ที่สามารถบอกระดับนํ้าขึ้นนํ้าลงได้ โดย Solunar ผลิตให้แก่ Abercrombie & Fitch แบรนด์เสื้อผ้ากีฬายอดนิยมจากสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น โดยการคิดค้นนี้เกิดจากความช่วยเหลือของครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ของ แจ็ค ฮอยเออร์
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกลไก Valjoux 90 และหน้าปัดย่อยที่ 6 นาฬิกา ซึ่งสามารถบอกระดับนํ้าขึ้นนํ้าลงได้ โดยเวลา 24 ชั่วโมง ถูกแบ่งเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่นํ้าทะเลหนุนวันละ 2 ครั้ง บ่งบอกด้วยพื้นหลังสีนํ้าเงินอันหมายถึงทะเล และช่วงที่นํ้าทะเลลงวันละ 2 ครั้ง บ่งบอกด้วยพื้นหลังสีส้มที่สื่อความหมายถึงหาดทราย
นอกจากนี้ยังมีปุ่มกดบริเวณ 4 นาฬิกา เพื่อใช้ในการกําหนดช่วงนํ้าขึ้นนํ้าลงตามตารางนํ้าขึ้นนํ้าลงอีกด้วย
เนื่องจากในสมัยก่อนมีท่าเรือนํ้าลึกเพียงไม่กี่แห่ง และเวลาล่องเรือจะไม่สามารถมองเห็นระดับความสูงของนํ้าได้ด้วยตาเปล่า นาฬิกาเรือนนี้จึงมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรือเกยตื้น
Heuer Ring Master ปี ค.ศ. 1957
5. Heuer Ring Master ปี ค.ศ. 1957
ในปี 1957 Heuer ได้เปิดตัว Ring Master นาฬิกาจับเวลารูปแบบใหม่ ซึ่งมาพร้อมขอบหน้าปัดสีสดใสที่ผู้สวมใส่สามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อจับเวลาในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน โดยขอบหน้าปัดแต่ละสีจะมีหน้าที่ต่างกันออกไป เช่น ขอบหน้าปัดสีส้ม มาพร้อมสเกลสําหรับใช้ใน การแข่งขันชกมวย เพื่อจับเวลาในแต่ละยก และช่วงพักระหว่างยก
ขณะที่ ขอบหน้าปัดสีเหลือง มีสเกลนับถอยหลังสําหรับใช้ใน เกมที่ต้องอาศัยการจับเวลา และ การแข่งเรือยอทช์ ส่วน ขอบหน้าปัดสีเขียว แสดงเวลาเป็นนาทีสําหรับการแข่งแรลลี่ นอกจากนี้ยังมีขอบหน้าปัดเปล่าที่ผู้ส่วมใส่สามารถปรับแต่งเองได้อีกด้วย
Heuer Carrera Ref. 2447S ปี ค.ศ.1964
6. Heuer Carrera Ref. 2447S ปี ค.ศ.1964
Ref. 2447S คือหนึ่งในนาฬิการุ่นแรกๆ ของ Heuer Carrera ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.1963 โดยเป็นนาฬิกาโครโนกราฟแบบไขลานที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Valjoux 72 มาพร้อมหน้าปัดเงิน และหน้าปัดย่อย 3 บานที่ถูกสลักลึกลงไปกับพื้นหน้าปัด ออกแบบมาเพื่อการจับเวลาที่ง่ายและแม่นยํามากยิ่งขึ้น
แจ็ค ฮอยเออร์ ได้นําความรู้จากการเรียนออกแบบเชิงอุตสาหกรรมมาปรับใช้กับ Heuer Carrera และคิดค้นนาฬิกาที่มีความพิเศษแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป ซึ่งมีนักแข่งรถจํานวนมากนิยมสวมใส่ และยังคงครองตําแหน่งเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นที่ขายดีที่สุดของ TAG Heuer มาจนถึงปัจจุบัน
Heuer Monaco Ref. 1133B ปี ค.ศ.1970
7. Heuer Monaco Ref. 1133B ปี ค.ศ.1970
คอลเลคชั่น Monaco คือนาฬิกาโครโนกราฟตัวเรือนกันนํ้าทรงเหลี่ยมรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกลไก Calibre 11 อันเป็นกลไก โครโนกราฟอัตโนมัติรุ่นแรก ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.1969
Monaco ถือเป็นเรือนเวลาโครโนกราฟที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง เพราะหลังจากที่ สตีฟ แมคควีน นักแสดงระดับตํานานของฮอลลีวูด ได้นํา Monaco รุ่นหน้าปัดสีนํ้าเงินไปสวมใส่ในภาพยนตร์เรื่อง Le Mans (ค.ศ.1971) เรือนเวลานี้ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และกลายเป็นหนึ่งในนาฬิการะดับไอคอนนิคที่นักสะสมนาฬิกาห้ามพลาดเด็ดขาด
TAG Heuer Formula 1 Ref. 384.513/1 ปี ค.ศ. 1986
8. TAG Heuer Formula 1 Ref. 384.513/1 ปี ค.ศ. 1986
ชื่อคอลเลคชั่น Formula 1 เกิดจากความสําเร็จของ TAG Heuer กับทีมแข่งรถ Marlboro McLaren Honda ในการแข่งขัน Formula 1 โดยคอลเลคชั่นนี้เกิดจากการผสมผสานคุณลักษณะของนาฬิกาดํานํ้าของ TAG Heuer เข้ากับสีสันใหม่ๆ และวัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มาพร้อมระบบควอตซ์1/10 วินาที ตัวเรือนทําจากสเตนเลสและใยแก้วที่แข็งแรงทนทาน
TAG Heuer S/EL Ref. S25.706C ปี ค.ศ. 1990
9. TAG Heuer S/EL Ref. S25.706C ปี ค.ศ. 1990
S/EL ย่อมาจากคําว่า Sports and Elegance มาพร้อมสายนาฬิการูปทรง S-Shaped Link โดยคอลเลคชั่นนี้ถูกออกแบบโดย Eddy Schopfer เพื่อสะท้อนตัวตนของ Ayrton Senna (ไอร์ตัน เซนน่า) นักแข่งชาวบราซิลผู้เป็นแชมป์ ในการแข่งขันรถ Formula 1 นาฬิกาโครโนกราฟของ TAG Heuer แสดงถึงความก้าวหน้าครั้งสําคัญในด้านเทคโนโลยีโครโนกราฟ และเป็นหนึ่งในนาฬิกาโครโนกราฟแบบอนาล็อกรุ่นบุกเบิกที่สามารถจับเวลา 1/100 วินาทีได้ มาพร้อมหน้าจอผลึกเหลวดิจิทัลสองจอ และระบบควอตซ
TAG Heuer Alter Ego Ref. WP1350 ค.ศ. 1999
10. TAG Heuer Alter Ego Ref. WP1350 ปี ค.ศ. 1999
Alter Ego เปิดตัวขึ้นในปีค.ศ.1999 ออกแบบมาเพื่อสุภาพสตรีโดยเฉพาะ โดยดีไซน์สะท้อนความเป็นผู้หญิงที่ผสมผสานความแข็งแกร่งและความมาดมั่น แต่ในขณะเดียวกันก็เปี่ยมด้วยความงามสง่าและสูงศักดิ์ มาพร้อมตัวเรือนที่เรียบง่ายและขอบมนสวยที่เล่นแสงสะดุดตา อีกทั้งสัดส่วนและรูปทรงยังแนบรับกับส่วนโค้งเว้าของข้อมือได้อย่างลงตัว โดยโมเดลรุ่นดั้งเดิมนี้มาพร้อมสายเหล็ก หรือสายเหล็กผสมทอง เม็ดมะยมแบบไม่ขันเกลียวในตําแหน่ง 4 นาฬิกา สะท้อนความแตกต่างที่ไม่ซํ้าใคร
TAG Heuer Alter Ego Ref. WP1350 ค.ศ. 1999
11. TAG Heuer Monaco V4 ปี ค.ศ. 2004
ชื่อ V4 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงตัว V ที่ติดบนวงล้อทั้งสี่ของรถ ซึ่งติดตั้งอยู่บนตลับลูกปืนที่ถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับลูกสูบในเครื่องยนต์ของรถแข่ง Formula 1 นอกจากนี้ยังใช้สายพานขับเคลื่อนที่แตกต่างจากปกติซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความปรารถนาอันไม่มีที่สิ้นสุดของ TAG Heuer ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และสร้างความแตกต่าง
TAG Heuer Connected ปี ค.ศ. 2021
12. TAG Heuer Connected ปี ค.ศ. 2021
ในปีค.ศ. 2015 TAG Heuer ปฏิวัติวงการนาฬิกาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว สมาร์ทวอทช์รุ่นแรก ซึ่งปัจจุบันได้เดินทางมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว หน้าปัด 45 มม. มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล กระจกคริสตัลแซฟไฟร์กันรอยขีดข่วน ขอบหน้าปัดเซรามิกสีดํานํ้าหนักเบา และสามารถกันนํ้าลึกได้ 50 เมตร สะท้อนนวัตกรรมและวัสดุนาฬิการะดับพรีเมี่ยม นับเป็นการผสานประสิทธิภาพของนาฬิกาโครโนกราฟเข้ากับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด เพื่อก้าวออกจากกรอบการสร้างสรรค์นาฬิกาในแบบเดิมๆ
TAG Heuer Heritage Pop-up Museum ณ ไอคอนสยาม
อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานที่พลาดไม่ได้คือการเปิดตัว Aquaracer Professional 200 เรือนเวลาสปอร์ต ดีไซน์หรูหรา โฉบเฉี่ยว ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ มาพร้อมรายละเอียดที่ถูกพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนแม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็มีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 40 มิลลิเมตร และ 30 มิลลิเมตร รูปทรงเพรียวบางสง่างามเข้ากับสรีระข้อมือ รวมถึงความสามารถในการกันน้ำลึกถึง 200 เมตร
อีกหนึ่งดีไซน์อันโดดเด่นคือการสลักสัญลักษณ์รูปเข็มทิศบริเวณฝาหลังที่สะท้อนจิตวิญญาณของนักผจญภัยได้อย่างดีเยี่ยม Aquaracer Professional 200 จึงเปรียบเสมือนเพื่อนเดินทางของสายแอคทีฟที่เต็มไปด้วยการผจญภัยที่น่าจดจำ และการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง โดยเรือนเวลามีให้เลือกทั้งแบบกลไกออโตเมติกและควอทซ์ พร้อมดีไซน์หน้าปัดหลากหลายสไตล์
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง รถ Porsche 911 Carrera สี Racing Yellow บริเวณงาน ที่นอกจากจะช่วยสร้างสีสันและตอกย้ำความแม่นยำแห่งนวัตกรรมเรือนเวลาของ TAG Heuer แล้ว ยังสื่อถึงมิตรภาพที่แข็งแกร่งของแบรนด์กับพันธมิตรอีกด้วย
เวียร์ - ศุกลวัฒน์ คณารศ Friend of TAG Heuer ประเทศไทย
ปิดท้ายงานด้วยการปรากฏตัวของ เวียร์ - ศุกลวัฒน์ คณารศ ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ในฐานะ Friend of TAG Heuer ประเทศไทย
“ผมมีความผูกพันกับ TAG Heuer ตั้งแต่เด็กๆ จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีโอกาสเยี่ยมชม TAG Heuer Heritage Pop-Up Museum ในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาและความพยายามในการพัฒนานวัตกรรมของแบรนด์ในแต่ละยุคสมัย กว่าจะมาเป็นนาฬิกา TAG Heuer ที่มีความคลาสสิกและความเป็นเอกลักษณ์อย่างในปัจจุบัน เรียกว่าดูจบแล้วผมยิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้นครับ” เวียร์กล่าว
ผู้สนใจสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์ป๊อปอัพ แทค ฮอยเออร์ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ธารา ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม
โศภนา เลวิจันทร์, ศุกลวัฒน์ คณารศ
TAG Heuer ภายใต้บริษัท จีโอ รีเทล จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท แปซิฟิกา ประเทศไทย จัดงาน เปิดตัว TAG Heuer Heritage Pop-up Museum พิพิธภัณฑ์ป๊อปอัพแห่งแรกในไทย
TAG Heuer Heritage Pop-up Museum ณ ไอคอนสยาม