"อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี" อยากหยุดเวลาทุกนาทีไว้ที่นี่

ถ้าแม้นหากมีสถานที่สักแห่งหนึ่ง ที่อยู่ท่ามกลางร่มเงาไม้ที่ร่มรื่น    มีสายน้ำลำธารสะอาด ไหลผ่าน นำความชุ่มเย็นมาให้ตลอดเวลา เสียงนกป่าร้องขับกล่อม และสายลมเย็นที่พัดเอื่อยๆ มีเก้าอี้ยาวสักตัว นั่งอ่านหนังสือเพลินๆ จิบกาแฟไปด้วย คิดดูว่ามันจะนำมาซึ่งความรื่นรมย์ขนาดไหน ในวันพักผ่อน อยากมีสถานที่แบบนี้จริงๆ    และเมื่อได้ไปเห็น อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จึงได้ประจักษ์กับสายตาว่า สถานที่ในฝันนั้นมันมีอยู่จริงๆ

"อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี" อาจจะไม่ใช่อุทยานฯที่โด่งดังอะไรมากมาย ด้วยเนื้อที่เพียง 65000.00 ไร่ พื้นที่อยู่เป็นกลุ่มกระจายกันออกไปไม่มีพื้นที่ต่อเนื่อง มีทั้งพื้นที่ที่อยู่บนบกและพื้นที่ที่อยู่ในทะเล ความน่าสนใจก็คือ ภูเขาหินปูนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีรูปทรงต่างๆสวยงามสะดุดตา โดยเฉพาะกลุ่มภูเขาหินปูน ที่อยู่ในทะเลอันเป็นที่ตั้งของเกาะห้อง เกาะเหลาลาดิง ลากูนในเกาะห้อง เกาะผักเบี้ย และอีกสารพัดเกาะ ที่มีความสวยงามอย่างมากจนขึ้นชื่อของทะเลกระบี่

ส่วนทางบก หลายส่วนมีสภาพพื้นที่เป็นเขาหินปูนที่มีหน้าผาสูงชัน มีลักษณะที่เรียกทางธรณีว่าแบบคาร์ส (Karst Topography) (อธิบายง่ายๆ คาสต์ก็คือลักษณะของพื้นผิวโลกที่เป็นหินปูนถูกน้ำฝนชะล้าง กัดกร่อนจนกลายเป็นรูปลักษณ์ต่างๆ) มีบ่อหรือพื้นยุบตัวของหินเบื้องล่าง (sink hole) มีลักษณะของธารน้ำใต้ดิน สภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่น ทั้งลอนลาดและลอนชัน สูงต่ำ เป็นเนิน มีเขาหินปูนโดดเด่นไม่ต่อเชื่อมกับภูเขาอื่น ไม่สูงมากนัก (monadnock) มีหน้าผาสูงชันกระจายอยู่ทั่วไปของพื้นที่ บางส่วนเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์

ถ้าท่านผู้อ่านไปเที่ยวแล้ว ถ้ามีเวลาจะลองขับรถเที่ยวเล่นไปตามถนนสายต่างๆในเขตอำเภออ่าวลึก ที่ตั้งของอุทยานธารโบกขรณี  ก็จะเห็นว่าพื้นที่เป็นไปตามที่ว่าจริงๆ ดั่งหลงเข้าไปในดงภูเขาหินปูนที่สวยงาม

สิ่งที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ ระบบน้ำใต้ดิน ซึ่งก็คือน้ำบนพื้นผิวโลกนี่แหละ ไหลซึมลงไปในดินจนลงไปถึงชั้นน้ำใต้ดิน ซึ่งชั้นน้ำใต้ดินเหล่านี้ก็เชื่อมโยง ต่อเนื่องกัน มีการถ่ายเท ไหลไปมา บางที่อาจจะซึมไหลลงจากที่หนึ่ง แล้วไปดันออกอีกที่หนึ่ง อย่างที่เราเห็นว่าเป็นน้ำผุด น้ำพุตามธรรมชาติต่างๆ นั่นเอง นั่นคือทางออกตามธรรมชาติ แต่ถ้าเราอยากจะให้น้ำใต้ดินมันออกมาตรงที่เราต้องการก็ต้องเจาะให้ถึงชั้นน้ำที่เรียกว่าเจาะน้ำบาดาลนั่นเอง

ลักษณะแบบคาสต์ที่มีอยู่มากมายในพื้นที่อำเภออ่าวลึก ทำให้มีบางส่วนกลายเป็นตาน้ำ ที่น้ำใต้ดินไหลออกมาตลอดเวลานานเท่านาน เป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว อย่างเช่นตัว "ธารโบก" นี้ ก็เป็นน้ำใต้ดินที่มีช่องไหลออกของน้ำ ใต้ภูเขาหินปูนที่เป็นหน้าผาสูงชัน  เป็นเวิ้ง ธารน้ำไหลออกจากใต้ภูเขาออกสู่โลกภายนอกมาเป็นเวลาเนิ่นนาน แล้วตามฟอร์มของภูเขาหินปูนคือ ก็จะมีชั้นหนปูนสะสมตัว กลายเป็นชั้นน้ำตกน้อยใหญ่ เพียงแต่ที่ธารโบกนี้ เมื่อน้ำไหลออกมาจากใต้ภูเขาแล้ว สายน้ำจะไหลแยกแผ่นกระจายออกเป็นหลายๆสาย ภายในเวิ้งภูเขาที่บอกไป กลายเป็นว่าภายในเวิ้งขงภูเขาน้ำ มีชั้นน้ำตกหินปูนมากมาย กระจายกันอยู่ทั่ว แต่ล้วนมีที่มาจากธารน้ำใต้ดินที่เดียวกันนั่นเอง

เมื่อมีน้ำ จึงมีความชุ่มเย็น พืชพรรณสารพัดชนิดจึงแทงราก ชูยอด แตกกิ่งก้าน บังแดดจนทำให้ทั้งบริเวณหน้าน้ำตกธารโบกขรณีนั่นร่มรื่นไปทั่วทั้งบริเวณ ยิ่งในยุคที่วีระศักดิ์ ศรีสัจจัง เป็นหัวหน้าอุทยานฯธารโบกขรณี ได้ปรับปรุงบริเวณจนกลายเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น แบบที่ผมบรรยายไปแต่ต้น มีสะพานทางเดินให้เดินเล่นไปทั่วบริเวณ อยากเล่นน้ำก็ลงเล่นได้ หรือจะนั่งชิลๆ ชมนก ชมไม้ ดูพืชพรรณที่ทางอุทยานฯทำป้ายศึกษาไว้ก็ได้ บรรยากาศภายในก็อย่างที่ผมบอกว่า นั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือให้เพลินใจ นี่แหละคือการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

ในพื้นที่ยังมีลานเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งได้นำภาพที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เสด็จมาที่น้ำตกแห่งนี้ในปี พ.ศ. 2503 ที่ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จประพาสจังหวัดกระบี่ และเสด็จมายังธารโบกขรณีแห่งนี้ ทั้งยังทรงปลูกต้นศรีตรัง ไว้ในพื้นที่ด้วย

ซึ่งจังหวัดกระบี่กับทั้งสองพระองค์นั้นมีความผูกพันกันอย่างมาก ทั้งสองพระองค์ เสด็จจังหวัดกระบี่หลายครั้งมาก ทางอุทยานฯ จึงทำศาลาที่รวบรวมภาพการเสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดกระบี่รวบรวมไว้อีกด้วย

ห่างจากที่ทำการออกไปไม่มาก ราว 4-5 กม.จะมีบริเวณที่น้ำใต้ดินผุดออกมาจากใต้ภูเขาหินปูนอีกที่หนึ่งที่บ้านเขาวงก์  ชาวบ้านเรียกน้ำตกโตนพร้าว ซึ่งที่นี่ร่มรื่นไปด้วยต้นชมพู่น้ำ และลำธารน้ำที่ใสแจ๋ว คนในพื้นที่นิยมมาเล่นน้ำกัน ท่านผู้อ่านไปแล้วก็ลองถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯดูว่าไปยังไง 

นอกจากน้ำตกธารโบกขรณี น้ำตกโตนพร้าว หมู่เกาะห้องแล้ว ที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ยังมีกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพายแคนู ดูถ้ำ อย่างการไปเที่ยวคลองกาโรส   ไปถ้ำผีหัวโต ที่มีถ้ำลอด ใกล้กันก็ยังมีถ้ำสระยวนทอง(หรือถ้ำคลัง) มีท่าปอมคลองสองน้ำ

ตอนผมไปนั้น ผมไปกางเต็นท์พักที่อุทยานฯ หรือจะพักรีสอร์ทในเขตอำเภออ่าวลึกที่มีมากมายราคาไม่แพงก็ได้ ในที่ทำการอุทยานฯเขามีร้านอาหารไว้บริการด้วย

"ธารโบกขรณี" จึงเป็นอีกที่ที่อยากให้มานั่งชิลๆ พักผ่อนที่เป็นการพักผ่อนจริงๆใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติของต้นไม้และสายน้ำ นั่งสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์  

แล้วจะรู้ว่าโลกนี้นั้นยังน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก เมื่อมานั่งพักที่ธารโบก...