สิ้น "สรพงษ์ ชาตรี" เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็ง สิริอายุ 73 ปี
สิ้น "สรพงศ์ ชาตรี" นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือและศิลปินแห่งชาติ จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง เมื่อเวลา 15.51 น. ช่วงเย็นวันนี้(10 มี.ค.65) สิริอายุ 73 ปี
วงการบันเทิงสูญเสียอีก “เอก สรพงศ์ ชาตรี” ที่จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง เมื่อเวลา 15.51 น. ช่วงเย็นวันนี้(10 มี.ค. 2565) สิริอายุ 73 ปี หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยมะเร็งปอดที่ลุกลามเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น
โดย เพจดาราภาพยนตร์ โพสต์แจ้งข่าวการสูญเสียพระเอกนักบุญ “เอก สรพงศ์ ชาตรี” ที่จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ระบุว่า นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งของวงการบันเทิงเมืองไทย กับการจากไปของพระเอกนักบุญ พี่เอก-สรพงษ์ ชาตรี ที่จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งที่ลุกลาม เมื่อเวลา 15.51 น ณ ห้องพักผู้ป่วยโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ สิริอายุ 73 ปี
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- ‘มะเร็งปอด’ ไม่สูบ ‘บุหรี่’ ก็เสี่ยงได้
- "มะเร็งปอด" รู้ก่อนรักษาได้ ควรตรวจและเลี่ยงเรื่องใดบ้าง
- เช็ค!สัญญาณเตือนเสี่ยง "มะเร็งปอด" คร่าชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย
พี่เอก-สรพงษ์ ชาตรี มีชื่อจริงว่า พิทยา เทียมเศวต ภายหลังเปลี่ยนเป็นกรีพงษ์ เทียมเศวต เป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในช่วงปลายยุค 70 ถึงกลางยุค 80 เเละยังคงมีชื่อเสียงในอาชีพการเเสดงมาจนถึงปัจจุบัน
ภายหลังได้รับเลือกเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงเมื่อปี พ.ศ. 2551
สรพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายชื้น กับนางพริ้ว เทียมเศวต จบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ. 2512
เมื่ออายุได้ 19 ปี และได้พบกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วังละโว้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
สรพงษ์ เริ่มงานแสดงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2512 เป็นตัวประกอบ และเป็นเด็กยกของในกองถ่ายละครเรื่อง นางไพรตานี ฉายทางช่อง 7 และเล่นเป็นตัวประกอบในละคร ห้องสีชมพู และ หมอผี ซึ่งหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้กำกับหลังจากเดินทางกลับจากเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา
ชื่อ "สรพงษ์ ชาตรี" ที่ใช้ในการแสดง ผู้ตั้งให้คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา โดยคำว่า "สร" มาจาก อนุสรมงคลการ, "พงศ์" มาจาก สุรพงศ์ โปร่งมณี (ผู้พามาฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม) และ "ชาตรี" มาจาก ชาตรีเฉลิม
ผลงานภาพยนตร์
เรื่องแรก "สรพงษ์ ชาตรี" เป็นตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่อง สอยดาว สาวเดือน เมื่อ พ.ศ. 2512 รับบทเป็นลูกน้องนักเลงที่มีเรื่องกับ ชนะ ศรีอุบล ที่รับบท สมิง ซึ่งเป็นพระรองของเรื่องในร้านเหล้าโดยที่ออกมาฉากเดียวและไม่มีบทพูดและถูกสมิงยิงตาย
จากนั้นในภาพยนตร์เรื่องที่ 2 คือเรื่อง ต้อยติ่ง ในปีเดียวกัน "สรพงษ์ ชาตรี" ยังคงรับบทเป็นตัวประกอบที่ออกมาฉากเดียวในช่วงท้ายเรื่องและไม่มีบทพูดเช่นเคย
และภาพยนตร์เรื่องที่ 3 คือเรื่อง ฟ้าคะนอง เมื่อ พ.ศ. 2513 "สรพงษ์ ชาตรี" ยังคงรับบทเป็นตัวประกอบที่ออกมาฉากเดียวแต่เริ่มมีบทพูดโดยรับบทเป็นผู้โดยสารรถสองแถวคันเดียวกับนางเอกคือ ภาวนา ชนะจิต ที่ต้องการเดินทางไป หาดฟ้าคะนอง กระทั่งสรพงษ์ได้รับบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรก
ในภาพยนตร์เรื่องที่ 4 คือเรื่อง มันมากับความมืด (พ.ศ. 2514) ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม จากนั้นได้รับบทในภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม แทบทุกเรื่อง ทั้งบทพระเอก พระรอง และเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในบางครั้ง มีผลงานแสดงกว่า 500 เรื่อง ได้รางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกจากเรื่อง ชีวิตบัดซบ และ สัตว์มนุษย์ สองปีติดต่อกัน และมีชื่อเสียงในต่างประเทศจากเรื่อง แผลเก่า (พ.ศ. 2520) กำกับโดยเชิด ทรงศรี นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุด
"สรพงษ์ ชาตรี" ได้รับรางวัลทางการแสดงจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี ดารานำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง สัตว์มนุษย์ ชีวิตบัดซบ มือปืน มือปืน 2 สาละวิน เสียดาย 2 รางวัลสุพรรณหงส์ ดารานำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ถ้าเธอยังมีรัก มือปืน และนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง องค์บาก 2 ส่วนรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง นักแสดงชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง มือปืน 2 สาละวิน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2524 ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
- พ.ศ. 2552ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)
ที่มา : ดาราภาพยนตร์