ดราม่า "ต้น ตระการ" ย้อนฟังคำสัมภาษณ์ขอเห็นใจ "กระติก" ถูกถล่มจนจิตใจบอบช้ำ

เรียกว่าแฮชแท็ก #ต้นตระการ สนั่นโลกโซเชียล ภายหลังจากที่นักแสดงดัง ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี ได้เดินทางมาร่วมพิธีไว้อาลัย "แตงโม นิดา" ที่ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ซึ่งวันนี้ต้น ตระการ ได้เดินทางไปเป็นเพื่อน "กระติก" หรือ กระติก-อิจศรินทร์ ผู้จัดการแตงโม

 

 

โดยวันนี้(12 มีนาคม 2565) ต้น ตระการ ได้เดินทางมาร่วมพิธีไว้อาลัย "แตงโม นิดา" ซึ่งเป็นวันที่ 2 ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจนแฮชแท็กร้อน #ต้นตระการ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์

 

ต้น ตระการ : ผมเป็นรุ่นพี่ที่คริสตจักร ดูแลทุกคน สนิทกับแตงโมไม่ใช่ฐานะนักแสดง แต่สนิทในฐานะที่เป็นน้องที่คริสตจักร รวมทั้ง "กระติก" ด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่ละคร ไม่ใช่ภาพยนตร์ แต่เป็นคดีอาชญากรรมอันนึงที่มีผลต่อสังคมและคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อยากให้ทุกๆท่านทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด คำว่าถูกต้องกับถูกใจมันอาจจะไม่ตรงตามความประสงค์อย่างที่เราคาดหวัง

 

"ต้น ตระการ" เผยต่อว่า สภาพจิตใจ "กระติก" ตอนนี้ อยากให้ทุกคนสมมติตัวเองเป็นกระติก กระติกเองก็เป็นคนๆหนึ่ง เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่น่าสงสารมาก เหตุการณ์ทั้งหมด กระติกไม่ต่างกับทุกคนที่ต้องสูญเสียเพื่อนรักคนหนึ่ง อย่างที่ในการ์ดที่กระติกเขียนว่า ทุกโมเมนต์ของกระติกมีแตงโม และทุกโมเมนต์ของแตงโมมีกระติก คือผมว่าเขาสองคนรักกันมาก ทุ่มเทให้กันมาก เพราะฉะนั้นผมจึงไม่เชื่อว่าทั้งหมดมันจะมีอะไรที่ซ่อนเร้นแอบแฝงมากไปกว่าความเป็นเพื่อน

 

 

 

ผมคุยล่าสุดกับกระติกก็เมื่อเช้า ผมพยายามจะปลอบและให้กำลังใจกระติกว่าตราบใดที่กระบวนการพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุดเรายังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยหรือเป็นแค่พยาน ฉะนั้นสิ่งที่ทำไปมันคือคำให้การ จริงว่าตามจริงเท็จว่าตามเท็จ ถ้าไม่ใช่หรือนอกเหนือจากนั้นมันเป็นสิ่งที่คุณปรุงแต่งขึ้น ใช่ก็ว่าใช่ ไม่ก็ไม่ ถ้ามากไปกว่านั้นเป็นความชั่วทั้งสิ้น

 

ผมย้ำกระติกอยู่เสมอว่าเวลาให้การกับตำรวจอะไรคือความจริงให้พูดตามความจริง อะไรที่ไม่เห็นอย่าไปพูด อะไรคือความเห็นคือความเห็น ถ้าได้ยินจากคนอื่นให้บอกเลยว่าไปเลยว่าได้ยินจากคนนั้นคนนี้ เพื่อสังคมจะได้ไม่เคลือบแครงใจว่าทำไมหมกเม็ดไม่พูดความจริง

 

ต้น ตระการ เผยต่ออีกว่า ผมอาจจะถูกต่อว่ากับการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ แต่ผมจะบอกว่าผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ผมรักโม ผมรักกระติกในฐานะน้อง เราก็สูญเสียเหมือนกัน เชื่อว่าเรารอคอยความจริงกันมากกว่า ซึ่งความจริงพระเจ้ารู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิสูจน์ตามนั้น

 

ผมเหนื่อยใจนะ ท้อใจว่าโลกโซเชียลกำลังตีกินคนๆหนึ่งอยู่ ผมใช้คำนี้เพราะว่าคนที่มาด่า แม้กระทั่งดูตอนนี้แล้วด่าอยู่ รู้จักเหรอ คุณเห็นอะไรเหรอ คุณพูดจากสิ่งที่คุณรู้ คุณคอมเมนต์กันสนุก เดี๋ยวผมก็โดนด่าอีก นี่คือความท้อใจในสังคมไม่แพ้กับเหตุการณ์ที่เราสูญเสียแตงโม เหนื่อยนะทำไมสังคมไม่เห็นอะไรก่อน คิดเอาเอง มโนต่อว่าคนอื่นสนุกปากไปวันๆ ได้อะไร ทำไมไม่แสดงความรักต่อกัน สังคมสร้างสรรค์มันต้องมี

 

"วันนี้ถ้าตำรวจพิสูจน์ความจริงแล้ว ถ้ากระติกผิดจริงๆ ผมเชื่อว่าสังคมจะด่าว่าเท่าไรเชิญเลย แล้วผมจะพากระติกไปส่งตำรวจเอง แต่ถ้าวันนี้กระติกยังไม่ถูกตัดสินหรือพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ใดๆก็อย่าเพิ่งลงโทษ เราเสียแตงโมไปคนนึงแล้ว อย่าให้กระติกเขาน้อยเนื้อต่ำใจที่เกิดจากกระแสสังคมสร้างปฏิกิริยาให้เกิดขึ้น ลองคิดกลับกัน การไม่ร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นผิดตรงไหน ไม่เข้าใจ ถ้าคนไม่ผิดทำไมจะต้องพูดขอโทษ เคยถามมั้ย พวกเราต้องย้อนถามตัวเองเหมือนกัน"

 

ต้น ตระการ ระบุอีกว่า ผมไม่ได้พูดแทนกระติก แต่ผมพูดแทนแตงโม เพราะนี่คือเหตุการณ์ที่แตงโมเผชิญมาก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่โมมีชีวิต โมถูกว่า ถากถาง เหยียดหยามสารพัด ขณะที่วันนี้โมจากไปแล้ว แต่เพื่อนสนิทที่เขารักกำลังถูกกระทำ คุณลองคิดดูสิว่าโมจะรู้สึกยังไง ถ้าเขารับรู้ได้

 

"แตงโมกับกระติกเขาเป็นมากกว่าเพื่อน คุณกล้ายกลูกคุณให้คนสนิทมั้ยละ เขากล้าที่จะยกลูกให้เพื่อนดูแล ถึงจะไม่ถูกต้องตามนิตินัยก็ตาม แต่มันบ่งบอกถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน มันผูกพันมากกว่าความเป็นเพื่อน ด้วยบุคลิกกระติกเป็นคนพูดตรง พูดห้วน พูดมะนาวไม่มีน้ำ ใครเคยดีลงานกับเขาจะรู้ พูดจาไม่เพราะ แต่มีความจริงใจ"