เปิดโมเดล "ดวงใจเทวพรหม" ละครปั้น "ดารา" ดาวรุ่งยกเซ็ต

เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา “ช่อง 3” ได้เปิดตัวนักแสดงนำทั้ง 10 คนของละครชุดสุดยิ่งใหญ่ “ดวงใจเทวพรหม” ซึ่งเป็นภาคต่อของละครชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว กรุงเทพธุรกิจออนไลน์จึงได้รวบรวมละครในตำนานที่แจ้งเกิดนักแสดงหน้าใหม่ยกเซ็ต โดยที่ละครที่ยกมานั้นจะต้องมีนักแสดงหน้าใหม่ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป สร้างปรากฏการณ์เป็นที่พูดถึงในสังคมและได้รับความนิยมจากผู้ชม ซึ่งวัดจากเรตติ้งที่ละครได้รับ ส่วนในยุคหลังที่วัดจากการติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หรือมียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมเพิ่มมากขึ้น โดยทั้ง 10 เรื่องมีดังนี้

 

1. เบญจา คีตา ความรัก (2547) - ช่อง 7

“เบญจา คีตา ความรัก” เป็นละครแนววัยรุ่นที่เล่าถึงกลุ่มหญิงสาว 5 คนที่อยากจะเข้าคณะดนตรีสากล เพื่อจะได้เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปแบบรุ่นพี่ แต่กลับพลิกผันมาอยู่คณะดนตรีไทย ซึ่งในตอนแรกพวกเธอไม่ลดละความพยายามในการเข้าสู่คณะดนตรีสากล แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ระหว่างทางได้เกิดเรื่องราวมากมาย ซึ่งพวกเธอได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่ม 5 หนุ่มสุดฮอต จนได้มาคู่กันในตอนท้าย และพวกเธอก็หลงรักดนตรีไทยในที่สุด

เบญจา คีตา ความรัก ออกอากาศครั้งแรกในปี 2547 ทางช่อง 7 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยคู่พระนางทั้ง 10 คน สามารถแจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น “อู๋ - นวพล ภูวดล”, “น้ำ - รพีภัทร เอกพันธ์กุล”, “บิ๊ก - ภุชิสสะ ธนพัฒน์”, “ซี - ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์”, “ไผ่ - พาทิศ พิสิฐกุล”, “เชียร์ - ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์”, “เจี๊ยบ - ชมพูนุช ปิยธรรมชัย”, “เมี่ยง - อติมา ธนเสนีวัฒน์”, “จิ๊บ - คีตภัทร อันติมานนท์” และ “รุ้ง - รุ้งเฑียร อูนากูล” รวมไปถึงกลุ่ม 3 สาว Pop Girl ที่เป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง อย่าง “แตงโม - ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” หรือ “แตงโม นิดา”, “อิม - อชิตะ ธนาศาสตนันท์” หรือ “เฟี้ยวฟ้าว์ สุดสวิงริงโก้” และ “ทรายขวัญ หาญหนองบัว”

ไม่ใช่เพียงแต่ละครและนักแสดงเท่านั้นที่โด่งดัง แต่เพลงประกอบละครก็โด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพลง “ไม่ว่าง” ของ 3 สาว Pop Girl ที่ทุกวันนี้ หลาย ๆ คนยังเอามาร้องอยู่ด้วยท่อนเพลงที่คุ้นหูอย่าง “วันนี้ก็ไม่ว่าง พรุ่งนี้ก็ไม่ว่าง เช้าสายบ่ายเย็นก็ไม่ว่าง” นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเพลงที่ได้รับความนิยม เช่น “ดนตรีในหัวใจ” “ถูกใจคนไหน” “ตราบสิ้นลมหายใจ” และ “สายชล”

ด้วยลักษณะตัวละครหญิง 5 คนที่มีความแตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นภาพว่าตนเองเป็นตัวละครใด ประกอบกับพระเอกทั้ง 5 คนมีบุคลิกชวนฝัน สามารถพึ่งพาได้ อีกทั้งมีการเล่าเรื่องที่สนุก จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในตำนานของละครวัยรุ่น และเรียกร้องให้มีการนำมาทำใหม่เสมอ

 

2. บาปรักทะเลฝัน (2548) - ช่อง 3

ข้ามฟากมาที่ฝั่ง “ช่อง 3” ในช่วงปี 2548 ได้เปิดตัวกลุ่มนักแสดงหน้าใหม่โดยใช้ว่า “Power 3” ซึ่งเป็นกลุ่มนักแสดงที่ทางช่องหมายมั่นปั้นมือให้เป็นนักแสดงแถวหน้าของช่อง และมักให้เล่นละครด้วยกันเพื่อพัฒนาฝีมือ ประเดิมเรื่องแรกด้วยละครเย็นอย่าง “ลิขสิทธิ์หัวใจ” ละครเรื่องแรกของ “ปอ - ทฤษฎี สหวงษ์” ประกบคู่กับ “แพท - ณปภา ตันตระกูล” ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง 

ก่อนที่จะมาจับคู่กันอีกครั้งในละครดรามาอย่าง “บาปรักทะเลฝัน” ร่วมด้วยนักแสดงกลุ่ม Power 3 อีกหลายคน อาทิ “แมน - การิน ศตายุ” “วุตม์ - สุรินทร คารวุตม์” “เมจิ - พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์” ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น “คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง” และ “แพง - ภิชาภัช มหาทิตยากุล” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ปอ และ แพท กลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่ถูกจับตามองในทันที และกลายเป็นคู่ขวัญที่แฟนละครตั้งตารอให้ทั้งคู่มาเล่นละครด้วยกันอีก

หลังจากนั้น กลุ่มนักแสดง Power 3 มีละครร่วมกันอีกในเรื่อง “เทใจรัก นักวางแผน” ละครแนวโรแมนติก คอมเมดี้ รวมนักแสดง Power 3 ไว้มากถึง 12 คน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ขณะที่เพลงประกอบละครอย่างเพลง “ไม่ใช่ผู้ชาย” ก็โด่งดังมากเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม บาปรักทะเลฝันได้ถูกนำมาสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2560 นำแสดงโดย “ดรีม - ณฐณพ ชื่นหิรัญ” และ “มิว - ลักษณ์นารา เปี้ยทา” ออกอากาศทางช่อง 3SD ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามมาตรฐานของช่อง

3. พลิกดินสู่ดาว (2549) - ช่อง 7

ในปี 2549 ช่วงที่รายการเรียลลิตี้ตามติดชีวิตและการประกวดร้องเพลงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ช่อง 7 จริงได้ผลิตละครเรื่อง “พลิกดินสู่ดาว” ขึ้นมารับกระแสดังกล่าว พร้อมกับเป็นการดันนักแสดงหน้าใหม่ของช่องทั้ง 4 คน คือ

“เวียร์ - ศุกลวัฒน์ คณารศ” “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ”วิน - ธาวิน เยาวพลกุล” และ “ขวัญ - อุษามณี ไวทยานนท์” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ เวียร์และแพนเค้กกลายเป็นคู่ขวัญที่มีผลงานคู่กันต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง และทำให้ทั้ง 4 คนกลายเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการมาถึงปัจจุบัน

 

4. แก้วล้อมเพชร (2551) - ช่อง 5

อีกหนึ่งผู้นำด้านละครอย่างเอ็กแซ็กท์ (Exact) ก็ได้ส่งละครเรื่อง “แก้วล้อมเพชร” ที่ดัดแปลงมาจากละครเรื่อง “เลือดหงษ์” โดยเป็นละครที่เปิดตัวนักแสดงหน้าใหม่ถึง 5 คน ประกอบไปด้วย “สน - ยุกต์ ส่งไพศาล” “วิว - วรรณรส สนธิไชย” “ต้น - ชยธร เศรษฐจินดา” “แอริน ยุกตะทัต” และ “นิว - ชัยพล พูพาร์ต” มาลงจอเรียกเรตติ้งในปี 2551

แม้ว่าจะมีเสียงจากผู้ชมที่บ่นถึงการแสดงของพระนางอย่างสนและวิวที่ยังดีมากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ละครประสบความสำเร็จลดลงไปแต่อย่างใด เพราะในตอนจบของแก้วล้อมเพชรนั้นสามารถทำเรตติ้งได้ไปถึง 14 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับละครที่ออกอากาศทางช่อง 5 ทำให้นักแสดงนำอย่างสนและวิวขึ้นเป็นพระนางคู่ขวัญของค่าย และมีผลงานแสดงคู่กันเรื่อยมาอีกหลายเรื่อง ซึ่งได้พัฒนาฝีมือทางการแสดงจนเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศในปัจจุบัน 

นอกจากนี้ ในช่วงปี 2563 บทพูดของตัวละคร แก้วเก้า ที่รับบทโดย แอริณได้กลายเป็นไวรัลขึ้นมาและมีคนคัฟเวอร์เป็นจำนวนมากในแอปพลิเคชันติ๊กต็อก ทำให้แอริณและละครเรื่องนี้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง จากประโยค “อย่าให้ฉันรู้วบ์”

5. 4 หัวใจแห่งขุนเขา (2553) - ช่อง 3

ในช่วงปี 2550-2559 วงการนวนิยายไทยนิยมจัดทำ นวนิยายแบบเป็นซีรีส์ คือในหนึ่งเรื่องมีหลายเล่ม โดยแต่ละเล่มจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ละโฟกัสที่ตัวละครอื่นแทน หากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนกับจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่แต่งเรื่องเป็นของแต่ละตัวละคร แต่มีตัวละครหรือเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันอยู่ 

เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี ของช่อง ช่อง 3 จึงได้ซื้อลิขสิทธิ์นวนิยายชุด บ้านไร่ปลายฝัน เป็นบทละคร 4 เรื่อง ในชื่อว่า “4 หัวใจแห่งขุนเขา” ซึ่งมีชื่อเรื่องคล้องจองและเนื้อหาต่อเนื่องกันคือ ธาราหิมาลัย, ดวงใจอัคนี, ปฐพีเล่ห์รัก และ วายุภัคมนตรา โดยเป็นเรื่องราวของพี่น้องฝาแฝด 4 คน นำแสดงโดยนักแสดงหน้าใหม่อย่าง “คิมเบอร์ลี แอน เทียมสิริ” “ณเดชน์  คูกิมิยะ” “หมาก - ปริญ  สุภารัตน์”  และ “บอย - ปกรณ์  ฉัตรบริรักษ์” ประกบคู่กับนักแสดงดาวรุ่งของช่อง “ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์” “มิ้นต์ - ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” “มาร์กี้ - ราศรี  บาเล็นซิเอก้า” และ “อั้ม - อธิชาติ ชุมนานนท์” เป็นเหมือนพี่ใหญ่คอยผลักดันน้อง ๆ โดยออกอากาศครั้งแรกในปี 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก สามารถทำเรตติ้งตอนจบได้สูงถึง 12.3 ทำให้นักแสดงหน้าใหม่และดาวรุ่งทั้ง 9 คน มีงานพรีเซ็นเตอร์และอีเวนต์ไม่ขาดสาย ก้าวขึ้นซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของประเทศในเวลาอันรวดเร็ว และ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ได้กลายเป็นต้นแบบในการทำละครชุดให้แก่ละครเรื่องต่อ ๆ มาอีกจำนวนมาก

 

6. The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ (2555) - ช่อง 3

“The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ” เป็นอีกหนึ่งละครที่สร้างมาจากนวนิยายชุดที่มีชื่อเดียวกัน โดยที่เป็นเรื่องราวของหญิงสาว 5 คนที่มีสัมผัสที่ 6 รวมตัวกันตั้งบริษัทรับกำจัดวิญญาณ โดยได้นักแสดงหน้าใหม่มารับบทนำ “วาววา - ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด” “อาย - กมลเนตร เรืองศรี” “แคท - ตฤณญา มอร์สัน” “คริสซี่ - กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์” และมี “จ๊ะ - จิตตาภา แจ่มปฐม” ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วรับบทนำด้วย

อย่างไรก็ตาม รูปแบบของ The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจนั้น แตกต่างจาก 4 หัวใจแห่งขุนเขาที่ The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ นั้นนำหนังสือทั้ง 5 เล่มมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน ขณะที่ 4 หัวใจแห่งขุนเขาจะมีการทำละครแยกออกไปในแต่ละเรื่อง โดย The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ออกอากาศครั้งแรกในปี 2555 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำเรตติ้งตอนจบสูงถึง 10 จนทำให้มีการประกาศสร้างภาคต่อมาและออกอากาศในปี 2556

 

7. สุภาพบุรุษจุฑาเทพ (2556) - ช่อง 3 

หลังจากความสำเร็จของ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ช่อง 3 ได้ดำเนินการสร้างละครชุดฟอร์มยักษ์อีกครั้ง เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 43 ปีของช่อง โดยคราวนี้เป็นซีรีส์แนวพีเรียดชวนฝันที่ใช้ชื่อว่า “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” เป็นเรื่องของพี่น้องตระกูลจุฑาเทพทั้ง 5 คน คือ “คุณชายธราธร” “คุณชายปวรรุจ” “คุณชายพุฒิพัฒน์” “คุณชายรัชชานนท์” และ “คุณชายรณพีร์” 

นักแสดงนำในละครชุดนี้ ยังคงเป็นนักแสดงหน้าใหม่และนักแสดงดาวรุ่งมารับบทนำ อาทิ “เกรท - วรินทร ปัญหกาญจน์” “พรีม - รณิดา เตชสิทธิ์” “โป๊ป - ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” “มิว - นิษฐา จิรยั่งยืน” “เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข” “เบลล่า - ราณี แคมเปน” “บอมบ์ - ธนิน มนูญศิลป์” “แต้ว -ณฐพร เตมีรักษ์” “เจมส์ มาร์” และ “มิ้นต์ - ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง”

แม้ว่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ จะเป็นละครแนวโรแมนติกชวนฝัน แต่ในแต่ละตอนนั้นมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ไม่น่าเบื่อ และบุคลิกของคุณชายแต่ละคนล้วนเป็นชายในฝัน พร้อมกับบรรยากาศย้อนยุค เสื้อผ้าที่ดูสวยงาม จึงทำให้ละครชุดนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถแจ้งเกิดนักแสดงยกชุด กลายเป็นนักแสดงแถวหน้าระดับประเทศ ทำให้ทุกคู่กลายเป็นคู่จิ้นที่มีผลงานคู่กันมาอีกหลายเรื่อง 

สำหรับตอนที่เรตติ้งสูงที่สุดคือ คุณชายรัชชานนท์ ทำเรตติ้งไปได้ถึง 15.1 และยังส่งผลให้แต้วได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากหลายสถาบัน เนื่องจากในเรื่อง แต้วต้องพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง และมีฉากที่ต้องพูดถึง 5 ภาษาอีกด้วย

 

8. ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น (2556) ช่อง One 31

“ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” เป็นซีรีส์ที่ตีแผ่สังคมในโรงเรียนและชีวิตวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็น กฎระเบียบที่ไม่สมเหตุสมผลในโรงเรียน การใช้ความรุนแรง การพูดเรื่องเพศ ความหลากหลายทางเพศ การติดอยู่ในเฟรนด์โซน ความคาดหวังจากครอบครัว และอีกหลากหลายปัญหาที่วัยรุ่นต้องเผชิญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยได้ถูกพูดถึงในสื่ออื่น ๆ ของไทย จึงทำให้ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และสร้างปรากฏการณ์การตั้งคำถามในสังคมถึงสิ่งที่ซีรีส์นำเสนอ

ในขณะเดียวกัน ก็แจ้งเกิดนักแสดงนำในซีรีส์ได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น “พีช - พชร จิราธิวัฒน์” “แพตตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” “ไมเคิล - ศิรชัช เจียรถาวร” “กันต์ ชุณหวัตร” “ปันปัน - สุทัตตา อุดมศิลป์” “ต่อ - ธนภพ ลีรัตนขจร” “เก้า - สุภัสสรา ธนชาต” “มาร์ช - จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล” “ตั้ว - เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์” “ฝน - ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล” และ “เบลล์ - เขมิศรา พลเดช”

ด้วยความสำเร็จมากขนาดนี้ ทำให้มีการสร้างซีซันต่อเนื่องมาถึง 3 ซีซัน และมีการเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ที่จะมารับบทนำ แทนที่นักแสดงรุ่นก่อน ผ่านรายการ “Hormones The Next Gen” ประกอบไปด้วย “แบงค์ - ธิติ มหาโยธารักษ์ “แพรวา - ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” “ต้าเหนิง - กัญญาวีร์ สองเมือง” “ฟรัง - นรีกุล เกตุประภากร” “เจมส์ - ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ” “พี - สาริษฐ์ ตรัยเลิศวิเชียร” “ปีโป้ - ณัชพัณณ์ ปรมะเจริญโรจน์” และ “สกาย - วงศ์รวี นทีธร”

แม้ว่าฮอร์โมนส์ จะมีการสร้างถึง 3 ซีซันแต่ความนิยมไม่ได้ลดน้อยลงเลย เนื่องจากยังคงมีการนำเสนอประเด็นทางสังคมและปัญหาใหม่ ๆ ของวัยรุ่น ไม่ซ้ำเดิม ซึ่งหากจะพูดถึงซีรีส์วัยรุ่นที่คนรู้จักจะต้องมีชื่อของ ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น อย่างแน่นอน

 

9. เลือดข้นคนจาง (2561) - ช่อง One 31

โฟร์โนล็อค (4Nologue) บริษัทสื่อครบวงจรของไทย ต้องการที่จะรวบรวมนักแสดงรุ่นใหม่ 9 คนเพื่อตั้งเป็นกลุ่มไอดอลที่มีชื่อว่า “ไนน์บายนาย” (9by9) ซึ่งจะมีผลงานเพลง คอนเสิร์ต แสดงละครและซีรีส์ทางโทรทัศน์ จึงได้ร่วมมือกับ “นาดาว บางกอก” ผลิตละครแนวดรามา สืบสวน เรื่อง “เลือดข้นคนจาง” โดยออกอากาศทางช่อง One 31 

นักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองทั้ง 9 คน ที่รับบทนำในเรื่องนี้ ประกอบไปด้วย “ต่อ - ธนภพ ลีรัตนขจร”, “เจเจ - กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม”, “เจมส์ - ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ”, “กัปตัน -ชลธร คงยิ่งยง”, “เติร์ด - ลภัส งามเชวง”, ”ปอร์เช่ - ศิวกร อดุลสุทธิกุล”, “ไอซ์ - พาริส อินทรโกมาลย์สุต”, “แจ๊คกี้ - จักริน กังวานเกียรติชัย”, และ “ริว - วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล” รวมถึง “ต้าเหนิง - กัญญาวีร์ สองเมือง” และ “นาน่า - ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์” พร้อมทั้งทัพนักแสดงรุ่นใหญ่อีกมากมาย

แม้ว่าเรตติ้งทางโทรทัศน์ของเลือดข้นคนจางจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ถูกพูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศ พร้อมกับคำถามติดปากของผู้ชมในสมัยนั้นว่า “ใครฆ่าประเสริฐ” และ บทพูดของภัสสร รับบท โดย “แหม่ม - คัทลียา แมคอินทอช” ที่พูดว่า “พูดออกมาได้เฮงซวย” ได้กลายเป็นมีม และถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังได้รับรางวัลจากเวทีประกาศรางวัลต่าง ๆ อีกจำนวนมาก

10. ดวงใจเทวพรหม (เปิดตัว 2565) - ช่อง 3

จากความสำเร็จของสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ทำให้ในปี 2558 สำนักพิมพ์พิมพ์คำ ได้ประกาศเขียนนวนิยายภาคต่อซึ่งใช้ชื่อว่า “ดวงใจเทวพรหม” เป็นเรื่องราวของการสานต่อคำมั่นสัญญาระหว่างจุฑาเทพกับเทวพรหม ซึ่งตัวดำเนินเรื่องหลักคือ 5 สาวจากตระกูลเทวพรหมอันประกอบไปด้วย ลออจันทร์, ขวัญฤทัย, ใจพิสุทธิ์, ดุจอัปสร, และพรชีวัน ที่เข้าไปเกี่ยวพันกับลูกชายของคุณชายทั้ง 5 นั่นเอง

ในปี 2563 ช่อง 3 ได้มีการยืนยันว่ากำลังดำเนินการในการสร้างภาคต่อของสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกนักแสดง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างต้องล่าช้าออกไป

จนกระทั่ง 23 มี.ค. 2565 ช่อง 3 ได้มีการเปิดตัวนักแสดงหน้าใหม่และนักแสดงดาวรุ่งที่จะมารับบทนำละครชุดนี้ ประกอบไปด้วย “กลัฟ - คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” “จีน่า ญีนา ชาลาส” “ไมกี้ - ไมค์ ปณิธาน” “ญดา - นริลญา กุลมงคลเพชร” “เทศน์ - เฮนรี ไมรอน” “อุ้ม - อิษยา ฮอสุวรรณ” “กองทัพ พีค” “มิ้นท์ - รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร” “เก้า - นพเก้า เดชาพัฒนคุณ” และ “พีพี - ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์” และทำให้ #ดวงใจเทวพรหมDebutNight ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ดวงใจเทวพรหม พึ่งจะเริ่มถ่ายทำ กว่าจะให้ได้รับชมกันก็น่าจะเป็นปีหน้า ที่ครบรอบ 10 ปี สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ต้องรอดูว่า ดวงใจเทวพรหม จะสามารถประสบความสำเร็จตามรอยรุ่นพ่อได้หรือไม่